เอไอเอส จับมือ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Abac) เปิดมิติใหม่แห่งโลกการศึกษาในยุคดิจิตอล

เอไอเอสตอกย้ําการเป็น Digital Life ServiceProvider จับมือมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดมิติใหม่แห่งโลกการศึกษา เปิดตัวโครงการ “Digital Life by AIS @ABAC” พัฒนาแอปฯ แชท ABAC Connect ให้แชทเป็นกลุ่มได้โดยไม่จํากัดจํานวนสมาชิก รวมทั้งเปิดบริการ AIS Wifi ให้ชาวเอแบคใช้งานได้เต็มพื้นที่ 100% ในทุกวิทยาเขต ทั้งที่หัวหมาก, สุวรรณภูมิ, ศูนย์การศึกษาเอซีซี (ACC Campus) และ ศูนย์การศึกษาซิตี้แคมปัส (City Campus) ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอลอย่างแท้จริง 
 
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “หน้าที่ของเอไอเอสคือการพัฒนา Telecom Infrastructure ซึ่งเป็นพื้นฐานสําคัญในการรองรับ Digital Service ต่างๆ โดยในวันนี้เราเดินหน้าพัฒนาใน 3 ส่วน คือ 3G Mobile Network รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมสําหรับ 4G ที่กําลังจะมีในอนาคต, AIS Wifi และ AIS Fixed Broadband ที่เริ่มขยายพื้นที่การให้บริการอย่างต่อเนื่อง และสุดท้ายคือการมุ่งเน้นในเรื่อง Quality DNAs จากการพัฒนาดังกล่าวทําให้วันนี้เอไอเอสในฐานะผู้นําในการให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมของไทย สามารถนําเทคโนโลยี อันทันสมัยทั้งในส่วนของ AIS 3G Mobile Network และ AIS Wifi มาออกแบบเป็นโซลูชั่นส์พิเศษ เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้รับและเข้าถึงข้อมูลที่สนับสนุนการเรียน การสอน ให้มีประสิทธิภาพ สะดวกสบาย และประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 
 
สําหรับวันนี้ในยุคที่โลกออนไลน์หรือ Social Network เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตของคนเราเพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ในโลกของการศึกษา เอไอเอส จึงจับมือกับ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญหรือเอแบค จัดทําโครงการ “Digital Life by AIS @ABAC” ขึ้น เพื่อนําเทคโนโลยีการสื่อสารอันทันสมัยของเอไอเอส ในยุคดิจิตอล ทั้ง Mobile และ Wifi มาออกแบบเป็นโซลูชั่นส์เพื่อชาวเอแบคเป็นครั้งแรกของวงการศึกษาไทย ด้วย ABAC Connect แอปฯ แชทที่ให้ชาวเอแบคทุกคนสามารถแชทกันได้โดยไม่จํากัดจํานวนสมาชิก พร้อมทั้งติดตั้งเครือข่าย AIS Wifi เต็มพื้นที่ทุกวิทยาเขต เพื่อเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตอบโจทย์ชาวเอแบคในยุคดิจิตอลไลฟ์อย่างแท้จริง”
 
ทางด้านภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนเรื่องการเรียน การสอนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพให้กับทั้งผู้เรียนและผู้สอน รวมถึงบุคลากรด้านต่างๆ ให้สามารถทําหน้าที่ของตน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไร้ข้อจํากัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักศึกษาทุกระดับของมหาวิทยาลัย ที่จะต้องสามารถเปิดรับโอกาสทางการศึกษาได้ทุกที่ ทุกเวลา ดังนั้นที่ผ่านมาเอแบคจึงเดินหน้ามุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิตอล โดยการสรรหานวัตกรรมชั้นนําทางด้านต่างๆ มาสร้างเป็นเครื่องมือ เพื่อตอบโจทย์วัตถุประสงค์ดังกล่าวมาโดยตลอด” 
 
โดยโครงการ “Digital Life by AIS @ABAC” ประกอบไปด้วย
 
•พัฒนาแอปพลิเคชัน ABAC Connectแอปฯแชทที่ให้ชาวเอแบคสามารถแชทเป็นกลุ่ม โดยไม่จํากัดจํานวนสมาชิก และสามารถส่งได้ทั้งข้อความ, ไฟล์ภาพ, คลิปเสียง และคลิปวิดีโอ ไปหานักศึกษาทุกคนที่ใช้แอปฯนี้ได้ พร้อมดูสถานะได้ว่าข้อความถึงปลายทางหรือไม่ และปลายทางอ่านข้อความหรือยัง นอกจากนี้ยังสามารถแยกกลุ่มแชทได้ตามคณะ, วิชาเรียน และ Section ได้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถติดตามข่าวสารได้อย่างสะดวกและทันท่วงที เป็นการเพิ่มศักยภาพในการสื่อสารระหว่างมหาวิทยาลัย อาจารย์และนักศึกษา ที่มีระบบความปลอดภัยในการใช้งานสูง เพราะระบบจะมีการเข้ารหัสเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล โดยสามารถใช้ได้กับมือถือในระบบปฏิบัติการ iOS และแอนดรอยด์ รวมถึงยังต่อยอดจัดกิจกรรมเพิ่มเติมโดยให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมด้วย อาทิ การประกวดออกแบบ Sticker สําหรับใช้ในแอปฯ ABAC Connect 
 
• ขยายพื้นที่บริการ AIS Wifi เต็มพื้นที่ 100% เพื่อให้ชาวเอแบคทุกคนสนุกกับการท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้แบบไร้ข้อจํากัดขณะอยู่ในมหาวิทยาลัยทุกวิทยาเขต ทั้งที่หัวหมาก, สุวรรณภูมิ, ศูนย์การศึกษาเอซีซี (ACC Campus) และ ศูนย์การศึกษาซิตี้แคมปัส (City Campus) ในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอล ที่ต้องการเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ตลอดเวลา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดําเนินงานติดตั้งและจะแล้วเสร็จในเดือนเมษาย นอกจากนี้ เอไอเอสยังร่วมกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนในระดับมัธยมปลาย ปีการศึกษา 2558 จํานวน 77 ทุน จังหวัดละ 1 ทุน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทยด้วย “ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ําความตั้งใจของเอไอเอส ในการนํานวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิตอล เข้ามาประยุกต์ใช้ในลักษณะของ Mobile Education ที่จะเสริมศักยภาพให้การบริหารจัดการการศึกษาของสถาบันการศึกษาของไทย ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนของวงการศึกษาระดับประเทศต่อไป” นายสมชัย กล่าวสรุป