15 ประโยคเด็ด จากปาก Jack Ma ผู้สร้าง Alibaba

สำนักข่าวเทคอินเอเชีย รวบรวม 15 ประโยคเด็ดจากคำให้สัมภาษณ์ของผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) อย่างแจ็ก หม่า (Jack Ma) ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ทุกประโยคแสดงตัวตนของหม่าทั้งความถ่อมตน แนวคิด และมุมมองต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ชของเจ้าพ่ออินเทอร์เน็ตจีนที่ไม่เหมือนใคร
       
การสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นดำเนินรายการนาน 45 นาทีโดยชาร์ลี โรส (Charlie Rose) แห่งสำนักซีบีเอส ทั้งคู่พูดคุยกันที่เมืองดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ เนื้อหาครอบคลุมช่วงเวลาก่อนที่หม่าจะกลายเป็นเจ้าของกิจการออนไลน์ รวมถึงแนวความคิดที่หล่อหลอมรวมกันจนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอาลีบาบา
       
หม่าไม่หวังจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก แต่มองว่าคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองต่างหากที่จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงนั้น แถมยังหยอดคำตลกว่างานเปลี่ยนแปลงโลกเป็นของโอบามา
       
น่าสนใจมากเมื่อหม่าบอกว่า 1 ในเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของอาลีบาบาคือการมีพนักงานหญิงในองค์กรจำนวนมาก โดยระบุว่าพนักงานอาลีบาบา 47% เป็นผู้หญิง โดย 33% ของส่วนงานจัดการเป็นผู้หญิง และ 24% ของผู้จัดการอาวุโสก็เป็นผู้หญิง เรื่องนี้หม่าอธิบายเพิ่มเติมว่าผู้หญิงมีความคิดรอบด้านมากกว่า ซึ่งความละเอียดละออนี้เป็นผลดีต่อธุรกิจของอาลีบาบา
       
บนเวทีนี้ หม่าเผยวิสัยทัศน์สู่ความสำเร็จว่า หากใครต้องการประสบความสำเร็จในยุคดิจิตอล คนนั้นจะต้องร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายและมีความสามารถ โดยการมองว่าคนอื่นมีความสามารถมากกว่าตัวเอง จะเป็นหนทางนำไปสู่ความสำเร็จ
       
หม่าจบการสัมภาษณ์ด้วยสัดส่วนการเติบโตของตัวเลขจีดีพีในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ช้าลง หม่าแสดงความคิดเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีจีนที่ระบุว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเติบโตอย่างมั่นคงแม้จะชะลอตัว โดยกล่าวว่าหากจีนยังรักษาสัดส่วนเติบโตที่ 9% ได้ต่อไป จีนก็จะไม้ได้รู้สึกถึงฟ้าใสที่อยู่สูง
       
ประโยคเด็ดทิ้งท้ายของหม่าคือทิศทางการเติบโตของจีน หม่ามองว่าจีนกำลังเติบโตในรอบด้าน ทั้งด้านจิตใจ วัฒนธรรม คุณค่า และปัญญา

ประโยคเด็ดหมายเลข 1 สะท้อนว่าหม่ามองเห็นความไม่จำเป็นของคำว่า “อีคอมเมิร์ซ” เนื่องจากคำนี้ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นการซื้อขายที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ หม่าระบุว่าคาดหวังให้คำนี้ถูกลืมเลือนไปในเวลา 15 ปีนับจากนี้ท่ามกลางกิจการอีคอมเมิร์ซที่เติบโตก้าวกระโดด

หม่าถ่อมตัวสุดขีดเมื่อกล่าวถึงการเริ่มขายหุ้นอาลีบาบาหรือ IPO จนทำให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ถึง 2.18 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยบอกว่าอาลีบาบาเป็นหุ้น IPO ตัวเล็กๆเท่านั้น

หม่าเล่าถึงการถูกปฏิเสธงานที่แฟรนไซส์ไก่ทอด KFC ไม่รับหม่าเข้าทำงานอย่างกล้าหาญ โดยบอกว่าในจำนวนพนักงานที่มาสมัครงาน 24 คนนั้นได้รับเลือกเข้าทำงานทั้งหมด ยกเว้นหม่าคนเดียว

ประโยคนี้หม่าบรรยายถึงความสำเร็จในการสร้างความเชื่อใจในระบบอีคอมเมิร์ซให้เกิดขึ้นในผู้ใช้จีน ความเชื่อมั่นนี้เองที่หม่ามองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจและธุรกรรมออนไลน์ทั้งปวง โดยหม่าเปิดเผยว่าในธุรกรรมที่เกิดขึ้นมากกว่า 60 ล้านธุรกรรมต่อวันบนอาลีบาบานั้นไม่มีใครรู้จักกัน ขอเพียงให้ผู้ซื้อได้รับสินค้า และผู้ขายได้รับเงิน

หม่าเล่าอย่างตรงไปตรงมาว่าเคยปฏิเสธข้อเสนอให้ดำเนินโครงการเพื่อรัฐบาลจีน แม้เขาจะรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้รัฐบาลเข้าใจว่าอีคอมเมิร์ซสามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้จริง

หม่ายืนยันหนักแน่นว่าอาลีบาบาให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างมาก และไม่ได้อยู่ในฐานะลูกไล่รัฐบาลที่ต้องเปิดเผยข้อมูล แม้จะยืนยันว่าให้ความร่วมมือเต็มที่ในกรณีก่อการร้าย หรืออาชญากรรม

หม่าเปิดเผยความรู้สึกต่อกรณีถูกกล่าวถึงในนิตยสารไทม์ว่าเป็นหม่าผู้บ้าคลั่ง โดยบอกว่ารู้สึกดีถึงฉายาที่ได้รับ เพราะอย่างน้อยทีมอาลีบาบาก็”บ้าแต่ไม่โง่”นะจ้ะ

“ถ้าไม่ลงมือทำ อะไรก็เป็นไปไม่ได้”

“ผมคิดว่าใน 10 ปี อาลีบาบาจะยิ่งใหญ่กว่าวอลมาร์ท”

โรสยิงคำถามเกี่ยวกับงานอดิเรกของหม่าอย่างมวยศิลปะไทชิ (tai chi) คำตอบของหม่าชี้ว่าเขาเชื่อมโยงแนวคิดการสร้างสมดุลย์และการเลือกจุดเด่นบนจุดด้อยของผู้ฝึกไทชิเข้ากับการทำธุรกิจอย่างเป็นเนื้อเดียวกัน โดยหม่ายกตัวอย่างคนร่างเล็กที่สามารถกระโดดได้ดี ขณะที่คนร่างใหญ่ไม่ควรกระโดด

หม่าไม่หวังจะเป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก แต่มองว่าคนที่เปลี่ยนแปลงตัวเองต่างหากที่จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงนั้น แถมยังหยอดคำตลกว่างานเปลี่ยนแปลงโลกเป็นของโอบามา

น่าสนใจมากเมื่อหม่าบอกว่า 1 ในเคล็ดลับสู่ความสำเร็จของอาลีบาบาคือการมีพนักงานหญิงในองค์กรจำนวนมาก โดยระบุว่าพนักงานอาลีบาบา 47% เป็นผู้หญิง โดย 33% ของส่วนงานจัดการเป็นผู้หญิง และ 24% ของผู้จัดการอาวุโสก็เป็นผู้หญิง เรื่องนี้หม่าอธิบายเพิ่มเติมว่าผู้หญิงมีความคิดรอบด้านมากกว่า ซึ่งความละเอียดละออนี้เป็นผลดีต่อธุรกิจของอาลีบาบา

หม่าเผยวิสัยทัศน์สู่ความสำเร็จว่า หากใครต้องการประสบความสำเร็จในยุคนี้ คนนั้นจะต้องร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจที่หลากหลายและมีความสามารถ โดยการมองว่าคนอื่นมีความสามารถมากกว่าตัวเอง จะเป็นหนทางนำไปสู่ความสำเร็จ

หม่าและโรสจบการพูดคุยด้วยสัดส่วนการเติบโตของตัวเลขจีดีพีในจีนแผ่นดินใหญ่ที่ช้าลง ส่วนตัวหม่าแสดงความคิดเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีจีนที่ระบุว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเติบโตอย่างมั่นคงแม้จะชะลอตัว โดยกล่าวว่าหากจีนยังรักษาสัดส่วนเติบโตที่ 9% ได้ต่อไป จีนก็จะไม้ได้รู้สึกถึงฟ้าใสที่อยู่สูง

ประโยคเด็ดทิ้งท้ายของหม่าคือทิศทางการเติบโตของจีน หม่ามองว่าจีนกำลังเติบโตในรอบด้าน ทั้งด้านจิตใจ วัฒนธรรม คุณค่า และปัญญา

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000009889