น่าจะเป็นกรณีศึกษาของปรับธุรกิจให้เข้ากับ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างกรณีของ “เขียงหมูท้องถิ่นที่เขียงใหม่ ” ทิ้งตลาดสด หันมาเปิดร้านค้าปลีก ทำเครือข่าย Shop ติดแอร์ขาย ตั้งหัวยันหางหมู ทั่วทุกมุมเมือง
“เขียงหมู” ที่เคยอยู่คู่กับตลาดสดทุกแห่งทั้งเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน วันนี้กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค และการแข่งขันทางธุรกิจ โดยเขียงหมูรายย่อยแทบทุกตลาดย้ายเขียงหันมาเช่าอาคารพาณิชย์ขนาด 1 คูหา เปิดร้านขายหมูโดยเฉพาะแทน
นอกจากนี้ ยังต้องนำหมูชำแหละสำเร็จ เช่น สไลด์ใช้กับหมูกระทะ หั่นบางเพื่อทำแดดเดียว ทำแกง หมูบด มาขายตามความต้องการของผู้บริโภค จากเดิมที่หั่นชั่งกิโลฯ ขายเป็นหลัก เรียกว่ามีทุกอย่าง ทุกขนาด ทั้งขายส่ง และปลีก
ขณะที่กลุ่มธุรกิจฟาร์มหมูขนาดใหญ่หลายแห่งก็เริ่มขยายเครือข่ายธุรกิจจับตลาดค้าปลีกโดยตรงอย่างมีสีสัน ยกเขียงหมูเข้าไปอยู่ในห้องแอร์ ทั้งในทำเลใกล้ตลาด ริมถนนสายสำคัญแทบทุกเส้นทางทั่วเชียงใหม่ จากเดิมที่ขายหมูหน้าฟาร์มเป็นหลัก
นายณรงค์ ธรรมจารี เจ้าของบริษัทเอ็ม เอส พี อินเตอร์ฟู๊ดส์ จำกัด (ร้านหมูอินเตอร์) ผู้ผลิตเนื้อหมูชำแหละรายใหญ่ของลำพูน ล่าสุด ได้ขยายเครือข่ายเข้าตลาดหลายจังหวัดในภาคเหนือรวมกว่า 10 สาขา ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และลำปาง ภายใต้สโลแกนที่ว่า “ไม่ต้องการให้สินค้าเป็นแต่เพียงของวางอยู่บน Shelf (ชั้นวางของ) แต่ต้องการให้สินค้าวางอยู่บนหัวใจของผู้บริโภค”
โดยรูปลักษณ์ของร้านหมูอินเตอร์ จะเปิดขายตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.ทุกวัน ในอาคารพาณิชย์ 1-2 คูหา อิงกับตลาดสด ประเภทไม่แคร์เขียงหมู แถมติดเครื่องปรับอากาศ สร้างบรรยากาศภายในที่สะอาด ปราศจากแมลงวัน ผลิตภัณฑ์มีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหมูบด สไลด์ กระดูก นำมาวางในกระบะให้ลูกค้าตักชั่งตามใจชอบ ชั่งเสร็จติดบาร์โค้ดเหมือนในห้างแล้วชำระเงิน
“หมูสวัสดี” เขียงหมูเจ้าใหญ่อีก 1 รายของเชียงใหม่ ที่ไม่ได้จำหน่ายเฉพาะเนื้อหมูอย่างเดียว แต่มีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากเนื้อหมูหลากหลาย โดยเริ่มต้นจากการเปิดเขียงขายริมถนน (ปัจจุบันก็ยังขายอยู่) ขยับขยายพัฒนาขึ้นมาเป็น SHOP แบบสแตนด์อะโลน เปิดขายในหลายพื้นที่ของเชียงใหม่ ทั้งย่านบวกครก ริมถนนเชียงใหม่-สันกำแพง ตลาดหนองหอย ช่างเคี่ยน และตลาดแม่เหียะ เน้นทำเลติดถนนเป็นหลัก
บรรยากาศร้านหมูสว้สดี เหมือนเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เกตขนาดเล็ก บางสาขาก็เหมือนเซเว่นฯ ที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่เน้นขายเนื้อหมูใส่กระบะเหมือนห้าง นอกจากนี้ ยังมีทั้งหมูแปรรูปเป็นไส้กรอก แหนม หมูหยอง เปิดขายตั้งแต่ 04.00-19.00 น.
ขณะที่ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท วี แอนด์ พี เฟร็ชฟูดส์ จำกัด (วี.พี.เอฟ.) ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมผลิตหมูแบบครบวงจรของนักธุรกิจท้องถิ่น มีเครื่องจักรในการชำแหละที่ทันสมัยที่สุดของภาคเหนือ สามารถชำแหละหมูได้ถึงชั่วโมงละ 200 ตัว และจัดส่งเนื้อหมูชำแหละ ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ให้แก่คอนวีเนียนสโตร์ และซูเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่ทั่วเชียงใหม่ จังหวัดใกล้เคียง ยังต้องหันมามองช่องทางการจัดจำหน่ายประเภท Shop เหมือนกับรายเล็ก ที่กำลังแข่งขันกันอยู่ในขณะนี้
วี.พี.เอฟ. ถือเป็นรายล่าสุดที่กระโดดเข้ามาแข่งขันเปิด Shop เป็นช่องทางการจำหน่าย และร่วมชิงตลาดค้าปลีกผลิตภัณฑ์หมูในเชียงใหม่ เปิดร้านจำหน่ายอย่างเป็นทางการบริเวณแยกแม่คาวใสสะอาด ใกล้ตลาดสามแยกสันทราย อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเปิดขายตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.
โดย นายวรพงศ์ จีรประภาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท วี.พี.เอฟ.กรุ๊ป ยอมรับว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ผู้ประกอบการก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดรับต่อความต้องการผู้บริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะอยู่ในห้างฯ และการเปิด Shop ในครั้งนี้ก็ถือเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้มากขึ้น