ในยุคที่ดิจิตอลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ประหนึ่งว่าสมาร์ทโฟนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมสื่อสารโดยรวม ในปี 2015 แยกเป็น การบริการเครือข่าย (Mobile) 3%, อุปกรณ์ (สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่น) 10% และ Fix Line 15% ซึ่งการเติบโตของอุตสาหกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การใช้งานดาต้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเช่นกัน
และในอีก 5 ปีข้างหน้า การขยายตัวของ “สมาร์ท ดีไวซ์” จะมีถึงกว่า 50 ล้านเครื่อง และ ดีไวซ์เฉพาะกลุ่ม หรือเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ จะขยายตัวอย่างมากถึงกว่า 10 ล้านเครื่อง โดยจะครอบคลุมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น ด้านขนส่ง การศึกษา หรือสุขภาพ จะก้าวเข้าสู่รูปแบบดิจิตอลอย่างเต็มตัว
จากเทรนด์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค และธุรกิจต่างก็ต้องปรับตัวเพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี “เอไอเอส” เองก็เป็นหนึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้หุดนิ่งแค่การให้บริการ แต่ก้าวไปอีกขั้นสู่การเป็น Digital Life Service Provider เต็มรูปแบบ
ต้อนรับศักราชใหม่ 2015 เอไอเอสยังคงชูแนวคิด LIVE Digital LIVE More เพื่อขับเคลื่อนองค์กร และตอกย้ำภาพลักษณ์ดิจิตอลมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อตอบรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทางดิจิตอลแบบเรียลไทม์ทุกที่ ทุกเวลา
ทุ่มงบ 40,000 ล้านบาท สำหรับพัฒนาโครงสร้างระบบดิจิตอล โดยเน้น ใน 3 ส่วน ได้แก่ Business Platform ประกอบด้วยการขยายเครือข่าย Mobile และ Fixed Broadband ที่ยังลงทุนต่อเนื่อง และยืนยันถึงความพร้อมในการเข้าประมูล 4G ที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมไปถึงการพัฒนา Innovative service ใหม่ๆ การเริ่มเปิดให้บริการ Fixed Broadband และแพลตฟอร์มสำหรับบริการด้านดิจิตอลต่างๆอีกมากมาย
โดยเอไอเอสมุ่งหวังว่าจะสามารถเป็น Your Digital Life Partner กับผู้บริโภคทุกคน หรือ ผู้สร้างสรรค์บริการดิจิตอล เพื่อให้คนไทยได้ใช้บริการเพื่อเติมเต็มทุกแง่มุมของชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และด้วยจำนวนฐานลูกค้าของเอไอเอสในปัจจุบันที่มากกว่า 44 ล้านราย และด้วยจุดแข็งของพื้นที่ให้บริการ 3G ที่ครอบคลุมมากกว่า 97% ในประเทศไทย เท่านี้คงเป็นข้อยืนยันได้ว่าเอไอเอสยังคงเป็นเครือข่ายให้บริการโทรศัพท์มือถืออันดับหนึ่งในประเทศไทย