จากโยเกิร์ตทั่วไปในตลาดที่มุ่งเน้นในเรื่องสุขภาพ และประโยชน์ของการช่วยขับถ่ายเสียส่วนใหญ่ ทำให้เกิดช่องว่าง และโอกาสทางการตลาดครั้งใหญ่ที่ “ซีพี เมจิ” จะลงมาเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ที่เน้นด้าน “บิวตี้” หรือ “ฟังก์ชั่นนอล โยเกิร์ต” ในการเพิ่มวิตามิน และคอลลาเจนเข้าไปในตัวโยเกิร์ต ในชื่อแบรนด์ “เมจิ พลัส”
ทั้งนี้มาจากเทรนด์เรื่องการดูแลสุขภาพที่ยังมาแรงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดฟังก์ชั่นนอล ดริ้งก์ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่ในตลาดโยเกิร์ตยังไม่มีผู้เล่นรายไหนลงมาจับเรื่องบิวตี้อย่างเต็มตัว โดยที่พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีฟังก์ชั่นหลายๆ อย่างเพิ่มมากขึ้น ซีพี เมจิจึงวางโพซิชั่นของเมจิ พลัสได้ทั้งในเรื่องสุขภาพ และความงาม
โดยที่เมจิ พลัสมี 2 รสชาติ คือ สูตรผสมคอลลาเจน เปปไทด์ พลัสวิตามินซีสูง และสูตรผสมอาซาอิ เบอร์รี่ พลัสวิตามินอีสูง มีทั้งในรูปแบบโยเกิร์ตแบบถ้วย และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่มีพฤติกรรมต่างกัน ผู้หญิงจะนิยมแบบถ้วยมากกว่า ในขณะที่ผู้ชายจะนิยมโยเกิร์ตพร้อมดื่มเพราะได้ความสะดวก
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ซีพี เมจิลงมาเล่นในตลาดโยเกิร์ตพร้อมดื่มด้วย ที่มีผู้เล่นใหญ่ในตลาดคือ “ดัชมิลล์” ครองส่วนแบ่งการตลาด 90% จากมูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท
ในการปั้นแบรนด์เมจิ พลัสครั้งนี้ ใช้งบลงทุน 40 ล้านบาท พร้อมดึง “เก้า สุภัสสรา ธนชาต” นักแสดงวัยรุ่นจากซีรีย์ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ขึ้นแท่นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่อายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยที่ซีพี เมจิตั้งเป้ารายได้จากเมจิ พลัสในปีนี้ 200 ล้านบาท และจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ “ซีพี เมจิ” ในตลาดโยเกิร์ตเป็น 25% จากเดิมมี 17% (เมจิบัลเกเรีย 10% และเมจิ 7%)