ขาลง คอมมาร์ต !!ปรับเป้าเน้นขายของราคาถูก

หลังจากการถอนตัวของพันธมิตรรายใหญ่ เออาร์ไอพีปรับลดพื้นที่งานคอมมาร์ตลง พร้อมยังไม่มั่นใจยอดขายจะทะลุ 2,700 ล้านบาท และคนจะเข้าเดินงานถึง 800,000 คนหรือไม่ เผยยังไม่เน้นคอนเทนต์เพิ่มเพราะผู้บริโภคยังไม่ลืมภาพงานขายของลดราคา ทำให้งานนี้มีสินค้าลดสูงสุดถึง 50% ชี้เทรนด์สินค้าเปลี่ยนไปและเวนเดอร์คอมพิวเตอร์ลดลงทำให้อาจจะต้องปรับรูปแบบการจัดงานใหม่ แต่จะดูผลของการจัดงานในครั้งนี้ก่อน
 
นางเอื้อมพร ปัญญาใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เออาร์ไอพียังคงรูปแบบการจัดงานแบบเดิมคือเน้นการขายสินค้า 90% และอีก 10% เป็นในส่วนของคอนเทนต์ จากเดิมที่เคยตั้งสัดส่วนไว้ที่คอนเทนต์ประมาณ 20% และ 80% เป็นการขายสินค้า แต่เนื่องจากเสียงตอบรับของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังชินกับการเห็นงานคอมมาร์ตเป็นที่ขายสินค้าลดราคา ทำให้คอมมาร์ต ในครั้งนี้จะเน้นไปที่การลดล้างสต็อกมากกว่า 50% โดยมีการจัดพื้นที่ในโซน C ที่นำสินค้าเข้าไอทีหลายชนิดมาลดราคา
 

 
‘ยอมรับว่าพยายามที่จะใส่คอนเทนต์เข้าไปทีละนิด จากที่เคยอยากจะพลิกให้กระโดดข้ามไปเลย เพราะอยากให้มีสีสันใหม่ๆเข้ามา แต่กลับเจอกระแสที่ทำให้ภาพลักษณ์เดิมของคอมมาร์ตเปลี่ยนไป เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมาซื้อสินค้าอยู่ ทำให้ท้ายที่สุดแล้วจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และจะค่อยๆทยอยปรับให้สัดส่วนกับคอนเทนต์มากขึ้น จากปัจจุบันที่อยู่ราว 10% ก็จะทยอยเพิ่มเป็น 20% 30% ในอนาคต’
 
โดยก่อนหน้านี้มีความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์แต่ท้ายที่สุดมีการยกเลิกไป ก็จะส่งผลกระทบในแง่ของการลดขนาดดิจิตอลพาวิลเลียนลงไป และกลับมาเน้นขายของเหมือนเดิม ตามความต้องการของลูกค้า และจะยังชูจุดขายที่เป็น clearance salesที่มากกว่าปกตินำมารวมอยู่ในบริเวณ เดียวกัน ซึ่งลูกค้าจะมั่นใจได้ว่าได้สินค้าราคาถูกกว่าข้างนอกอย่างแน่นอน เป็นการขอความร่วมมือจากดีลเลอร์ที่ยังมีสินค้าในสต็อกที่ไม่สามารถนำไปจัดวางแสดงในบูธได้จากเงื่อนไขที่เวนเดอร์กำหนดไว้ จึงคิดว่าเป็นโอกาสดีที่เปิดพื้นที่ให้ร้านค้าสามารถนำมาจัดแสดงได้
 
นางเอื้อมพร กล่าวว่า ปัจจุบันผู้เล่นในตลาดโน้ตบุ๊กน้อยลง หันไปทำสมาร์ทโฟน นาฬิกา หรืออุปกรณ์อัจฉริยะ รวมถึงอุปกรณ์ไฮเทค ที่จะก้าวเข้าสู่ยุค Internet of Things กันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางผู้จัดคอมมาร์ตขอดูผลของงานครั้งนี้ก่อนว่า เป็นที่สภาพเศรษฐกิจหรือแนวโน้มของตลาดอย่างไร จึงจะบอกได้ว่าในอนาคตจะมีการปรับให้ 3 งานมีแนวทางเหมือนกันหรือไม่อย่างไร ซึ่งยังต้องดูทิศทางต่อๆไป
 
‘ภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาสแรกยังมองไม่ชัดว่าจะมีทิศทางอย่างไร การจัดงานคอมมาร์ตในครั้งนี้แม้ว่าจะลดขนาดการใช้พื้นที่ลง แต่ยังคงคาดว่ามียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านบาท และน่าจะมีผู้เข้ารวมชมงานถึง 800,000 คน หรือเทียบเท่ากับการจัดงานในครั้งที่ผ่านมา’