เศรษฐกิจยังแย่ ค้าปลีกต้องเร่งจัดแคมเปญกระตุ้นดึงลูกค้า เทสโก้โลตัสส่งแคมเปญ “อาหารสดราคาขายส่ง” นาน 6 เดือน ลดภาระผู้บริโภค 600 ล้านบาท ด้านบิ๊กซีลดอาหารสดด้วยยาวทั้งปี หวังลดภาระ 1,200 ล้านบาท
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการพาณิชย์ เทสโก้โลตัส บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสแรกนี้กำลังซื้อเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดีหรือเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นและยังไม่กลับไปถึงจุดที่ควรจะเป็น อีกทั้งการเข้ามาใช้บริการในไฮเปอร์มาร์เกตก็ลดลงจากความถี่อาทิตย์ละ 2 ครั้งเหลือเพียง 1 ครั้ง อีกทั้งผู้บริโภคจะเข้ามาจับจ่ายเมื่อมีการทำโปรโมชันลดราคาเป็นหลัก
ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าวทางเทสโก้โลตัสจึงได้จัดทำแคมเปญ “อาหารสดราคาขายส่ง” เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยลดราคาสินค้าแผนกอาหารสดทุกกลุ่มลงสูงสุด 50% จำนวน 100 รายการ ที่คัดเลือกมาซึ่งเป็นรายการอาหารสดที่ผู้บริโภคซื้อมากที่สุด มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 40% ของกลุ่มอาหารสดทั้งหมดมาลดราคา ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคมเป็นต้นไปนาน 6 เดือน เฉพาะที่เทสโก้โลตัสไฮเปอร์มาร์เกตเท่านั้น เช่น ปลากะพง ไซส์เอ็ม เดิมราคาตัวละ 115 บาท เหลือ 82 บาท ไข่ เดิม 25 บาท เหลือ 22 บาท หมูสามชั้นราคาเดิม 140 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 122 บาท พริกขี้หนูสวนเดิม 160 บาทต่อกิโลกรัม เหลือ 115 บาท เป็นต้น
หลังจากนั้นหากประสบความสำเร็จก็จะทยอยลดราคากับสินค้ากลุ่มอื่นและในโมเดลอื่น เช่น เทสโก้โลตัสเอ็กซ์เพรส และตลาดโลตัส เป็นช่วงๆ ต่อไป ซึ่งปัจจุบันเทสโก้ฯ มีเครือข่ายทุกโมเดลประมาณ 1,800 สาขา ซึ่งการจัดแคมเปญครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าราคาสินค้าที่ลดลงกว่า 600 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสที่สองนั้น นายสมพงษ์กล่าวให้ความเห็นว่า แนวโน้มตลาดและกำลังซื้อน่าจะดีกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นช่วงที่มีหลายเทศกาลกระตุ้นการจับจ่ายเช่น สงกรานต์ เปิดเทอม เป็นต้น
นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิ๊กซีจะทำแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องเพื่อลดภาระผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมลดราคา การลดราคาลง 10% ในแผนกอาหารสดทุกวันพุธสำหรับลูกค้าที่ถือบัตรบิ๊กการ์ด ล่าสุดนำสินค้าอาหารสดกว่า 100 รายการมาทำการลดราคาระหว่าง 10-30% จนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดภาระผู้บริโภคประมาณ 1,200 ล้านบาท