3 จุดเด่น MacBook ใหม่เปลี่ยนโลก

ไฮไลท์ ที่น่าสนใจในงานของแอปเปิลที่ผ่านมา นอกจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Apple Watch แล้ว MacBook ใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ทำให้เราได้มองเห็นการก้าวไปข้างหน้าของวงการคอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ก) ที่แอปเปิลขอเริ่มปรับเปลี่ยนใหม่หมดพร้อมสร้าง 3 จุดเด่นสำคัญที่จะทำให้ MacBook ใหม่เปลี่ยนโลกโน้ตบุ๊กที่กำลังซบเซอยู่ในขณะนี้
       
1. เน้นความเป็นอุปกรณ์พกพาสูงขึ้น
       
สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยหลักให้ตลาดโน้ตบุ๊กไม่เดินไปข้างหน้าก็คือการไม่สามารถ ตอบสนองคนยุคใหม่ที่ต้องการอุปกรณ์ไอทีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ทรงประสิทธิภาพและสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
       
ด้วยเหตุนี้ทำให้การออกแบบ MacBook ใหม่เพื่อลดช่องว่างที่เกิดขึ้นแอปเปิลจึงเน้นไปที่เรื่องการปรับลดขนาด Logic Board ประกอบกับการเลือกใช้ซีพียู Intel Core M ใหม่บนสถาปัตยกรรมรุ่นที่ 5 และเทคโนโลยีการผลิตแบบ 14 นาโนเมตรที่บริโภคพลังงานต่ำเพียง 5 วัตต์ อีกทั้งตัวซีพียูใหม่ยังมีความหนาเพียง 1.05 มิลลิเมตร กว้างสุดเพียง 3 เซนติเมตร ทำให้แอปเปิลสามารถลดขนาดบอร์ดส่วนกลางลงได้มากกว่าเดิมและเพิ่มพื้นที่ บรรจุแบตเตอรีได้มากขึ้นพร้อมออกแบบจัดวางแบตเตอรีใหม่แบบวางซ้อนทับกลมกลืน ไปกับดีไซน์ที่บางเบา เป็นผลให้แบตเตอรี่ภายใน MacBook ใหม่จะมีความจุมากกว่าเดิม 35% สามารถใช้งานท่องเว็บไซต์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง ส่วนการรับชมภาพยนตร์ผ่าน iTunes จะใช้งานได้นานสุด 10 ชั่วโมง และการใช้งานทั่วไปสามารถทำได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องพกพาอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ ติดตัวตลอดเวลาเหมือนสมัยก่อน
       
นอกจากนั้น เพื่อตอบรับความเป็นโน้ตบุ๊กเน้นพกพามากขึ้น แอปเปิลได้ลดขนาดของ MacBook ให้เหลือความหนาเพียง 1.31 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักปรับเหลือ 920 กรัมและอะแดปเตอร์ชาร์จไฟถูกปรับให้รองรับมาตรฐาน USB-C แบบ 29 วัตต์พร้อมขนาดที่ลดลงประมาณอะแดปเตอร์ชาร์จไฟของไอแพดรุ่นหน้าจอใหญ่เท่านั้น
       
2. เน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย
       
เป็นการปรับเปลี่ยนแบบกล้าบ้าบิ่นมากของแอปเปิล ในขณะที่โลกยังใช้อุปกรณ์พกพาผ่านพอร์ต USB กันอยู่ แต่แอปเปิลมองว่าโลกยุคใหม่จะเน้นระบบไร้สายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง ฮาร์ดดิสก์พกพา และยังเชื่อว่าปัจจุบันข้อมูลของผู้ใช้ส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้บนคลาวด์สตอเรจ มากกว่าบนคอมพิวเตอร์ แอปเปิลจึงเลือกตัดพอร์ตเชื่อมต่อแบบเก่าออกหมดเหลือเพียง USB-C รุ่นใหม่ที่เด่นเรื่องสามารถเสียบสายสลับด้านได้เหมือน Lightning Port มาให้เพียงพอร์ตเดียว มิหนำซ้ำอุปกรณ์ที่แอปเปิลเลือกแถมมาให้กับ MacBook ใหม่นี้ตอนเลือกซื้อยังมีแค่ “อะแดปเตอร์และสายชาร์จไฟบ้านแบบ USB-C ไร้สายอะแดปเตอร์ USB, HDMI”
       
คำถามจึงเกิดขึ้นว่า “แล้วอย่างนี้ MacBook ใหม่จะรองรับ USB และพอร์ตเชื่อมต่อแบบเก่าหรือไม่”
       
คำตอบนี้แอปเปิลให้ข้อมูลไว้อย่างเป็นทางการว่า “ยังรองรับ USB 3.1/3.0/2/1 รวมถึง HDMI และ Thunderbolt เหมือนเดิม” แต่ต้องใช้ผ่านอะแดปเตอร์ที่แอปเปิลขายแยกต่างหาก

 

3. คีย์บอร์ด-ทัชแพดมาตรฐานใหม่
      
เริ่มตั้งแต่คีย์บอร์ดที่ใช้โครงสร้างกลไกลภายใต้ปุ่มกดแบบปีกผีเสื้อ เพื่อลดอาการปุ่มกดโยกเยกไปมาเหมือน MacBook รุ่นก่อน ทำให้ปุ่มกดใหม่นี้ทำงานได้แม่นยำขึ้น ปุ่มมีขนาดใหญ่กว่าเดิมพร้อมความบางและมองเป็นส่วนหนึ่งของ MacBook มากขึ้น
      
ในส่วนของทัชแพดใหม่ในชื่อ Force Touch จากเดิมแอปเปิลค่อนข้างมีชื่อเสียงที่ดีกับทัชแพดแบบ Multitouch ที่ออกแบบคล้ายไม้กระดาน Diving Board มานาน เพราะความแม่นยำและลื่นไหลของเซนเซอร์ที่ทำให้หลายคนติดใจและใช้แทนเมาส์ได้ แต่บนเสียงชื่นชมก็มีหลายคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องการคลิกบริเวณส่วนบนของทัชแพดมักทำได้ยากเนื่องจากเป็นส่วนของแกนหลัก
      
แอปเปิลจึงคิดค้น Force Touch ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในใหม่หมด ตั้งแต่การเพิ่ม Taptic Engine และเซนเซอร์รับรู้แรงกดลงไปทั่วแผ่นทัชแพด ทำให้ทัชแพดใหม่สามารถกดได้ทั่วทั้งแผ่น อีกทั้งยังสามารถกดสั่งงานด้วยการใช้แรงกดที่ต่างกันได้
      
ยกตัวอย่างเช่น กดหนึ่งครั้งอาจหมายถึงเลือกข้อความและถ้ากดเต็มแรงอีกหนึ่งครั้งระบบจะเข้าใจว่าให้เปิดโน้ตข้อความแบบสั้นขึ้นมา นอกจากนั้น จากตัวอย่างที่แอปเปิลโชว์ในงานเปิดตัว Force Touch ยังสามารถใช้นิ้วขีดเขียนลายเซ็นแทนการใช้ปากกาดิจิตอลได้
      
ด้วยการมาของ Force Touch การคลิกขวารูปแบบเดิมอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ อีกทั้งเทคโนโลยีที่อยู่ใน Force Touch มีสิทธิ์ถูกนำไปเป็นมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาหน้าจอสมาร์ทโฟนในอนาคต เพราะในปัจจุบันนอกจาก Force Touch จะอยู่ในทัชแพดของ MacBook ใหม่แล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวยังถูกใส่ในนาฬิกา Apple Watch ด้วย
      
ทั้งหมดคือการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญของกลุ่มผลิตภัณฑ์ MacBook ที่มาพร้อมมาตรฐานใหม่ครั้งแรกในตลาดโน้ตบุ๊กทั้งหมด โดยแอปเปิลเชื่อว่าทั้ง 3 จุดเด่นและมาตรฐานการออกแบบใหม่นี้จะทำให้ตลาดโน้ตบุ๊กกลับมาคึกคักได้ด้วย แรงแข่งขันที่เกิดขึ้นจากกระแสผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ ในขณะที่ยอดขายไอแพดหรือแท็บเล็ตของแอปเปิลเริ่มไม่เป็นอย่างที่หวัง การมาของ MacBook กับการสร้างหมวดหมู่ใหม่ขึ้นแทรก หน้า MacBook Air ถ้าผลตอบรับดี ไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้เห็น MacBook เข้าใกล้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอแพดมากขึ้น ส่วน MacBook จะกลืนกินกลุ่มไอแพดหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000032355