ผิดหวัง Apple Pay เปิดมา 6 เดือน แต่ร้านค้าไม่พร้อม

แอปเปิลเพย์ ตายน้ำตื้น หลังพบร้านค้าที่เคยประกาศว่าจะร่วมเป็นพันธมิตรกับแอปเปิลในการเปิดบริการ Apple Pay กว่า 50 เจ้านั้น ยังไม่พร้อมสำหรับบริการรับชำระเงินสุดไฮเทคนี้แต่อย่างใด
       
การเปิดเผยดังกล่าวมาจากบริษัทวิจัยตลาด Phoenix ซึ่งได้ทำการสำรวจจากผู้ใช้ไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส จำนวน 3,000 ราย พบว่า กว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามได้พยายามใช้งานบริการแอปเปิลเพย์แล้ว แต่พบปัญหาจนไม่สามารถใช้งานได้
       
“เราพบว่ามีความพยายามใช้งานจากผู้ใช้อยู่ราว 59 เปอร์เซ็นต์ โดยคนเหล่านั้นได้ไปยังร้านค้าและถามว่า สามารถจ่ายเงินด้วยแอปเปิลเพย์ได้หรือไม่ ซึ่งผลออกมาน่าผิดหวัง เพราะมีผู้ตอบแบบสอบถามราว 47 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า ได้เข้าไปในร้านค้าที่อยู่ในรายชื่อพันธมิตรของแอปเปิล แต่ไม่สามารถจ่ายเงินด้วยแอปเปิลเพย์ได้ เนื่องจากร้านค้าไม่รับชำระด้วยวิธีการดังกล่าว”
       
ข้อมูลนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อแอปเปิลไม่มากก็น้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการเผยผลสำรวจของ Trustev เกี่ยวกับการใช้บริการแอปเปิลเพย์ออกมาเช่นกัน แต่ในครั้งนั้น การสำรวจของ Trustev พบว่า มีคนที่ยังไม่ทดลองใช้บริการแอปเปิลเพย์ถึง 79 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
       
อย่างไรก็ดี แม้จะมีคนลองใช้บริการถึง 57 เปอร์เซ็นต์ แต่ 2 ใน 3 ของผู้ใช้งานบริการดังกล่าวก็ระบุว่า พบปัญหาระหว่างการใช้งานด้วย
       
ลีออน เมเจอร์ส นักวิเคราะห์จาก Phoenix กล่าวว่า “ปัญหาที่ผู้ใช้พบส่วนมากคือ เครื่องรับชำระเงินไม่ทำงาน หรือไม่ก็ใช้เวลานานเกินไปในการทำธุรกรรม ขณะที่แคชเชียร์เองก็ขาดความรู้ความสามารถในการช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการจ่ายเงินด้วยบริการแอปเปิลเพย์”
       
ปัญหาการขาดความกระตือรือร้นของเจ้าหน้าที่ในร้านค้าปลีก รวมถึงการไม่ยอมลงทุนอบรมพนักงานของร้านค้าปลีกให้ปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของแอปเปิล และภาคธุรกิจที่คาดหวังต่อบริการนี้เอาไว้สูงว่าจะเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคได้
       
ซึ่งหากมีการอบรมให้ความรู้โดยเป็นการร่วมมือกันของทั้งแอปเปิล และร้านค้าปลีกก็อาจช่วยให้สถานการณ์ของแอปเปิลเพย์ดีขึ้นได้ แต่ถ้าไม่ทำเช่นนั้น และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของร้านค้าปลีกรับภาระด้านการจัดอบรมแต่เพียงฝ่ายเดียว ก็เป็นไปได้ว่า ปัญหาที่สะสมเอาไว้จะย้อนกลับไปหาแอปเปิลเองในที่สุด

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037468