คิดอะไรไม่ออกบอก ‘อากู๋ (Google)’ อีกหนึ่งออปชั่นเพื่อการศึกษาที่เรียกได้ว่าจำเป็นและสำคัญมากๆ ในยุคนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับน้องๆ นักเรียนนักศึกษาที่กำลังอยู่ในวัยเรียน ที่ต้องใช้ “Google” เป็นเครื่องมือในการค้นหาที่มีประสิทธิภาพที่สุด เพียงแค่พิมพ์คำสำคัญไม่กี่คำข้อมูลต่างๆ ที่เราอยากทราบก็จะมาปรากฎอยู่ตรงหน้าจอแล้ว แม้จะเป็นการค้นหาที่ง่ายมากๆ แต่ใครจะรู้ว่า Google ยังมีทริกดีๆ ที่หลายคนยังไม่รู้!!! และนี่คือ 10 เทคนิคดีๆ ในการใช้ Google Search สำหรับนักเรียนนักศึกษาทุกประเภท อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างตาม Life on campus มาเลย…
1. การระบุให้ค้นเฉพาะภายใน ‘domain’ ที่ต้องการเท่านั้น
ให้ใส่ “site” ไว้หน้าข้อความค้นหาของคุณ “site:” หากคุณทราบว่าคุณต้องการคำตอบจากภายในไซต์ใดไซต์หนึ่งโดยเฉพาะหรือไซต์บางประเภท (.org, .edu) เช่น ถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ “admission site:www.stanford.edu”
2. ค้นหางานวิจัยมหาวิทยาลัย
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนหรือนักเขียน อีกหนึ่งเคล็ดลับดีๆ ที่ google สามารถช่วยคุณในการค้นหางานวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้นั่นก็คือ เพียงแค่พิมพ์ “site:edu” และตามด้วยสิ่งที่คุณต้องการจะหา เช่น หากคุณต้องการผลงานวิจัยเรื่องอาหารและโภชนาการจาก มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ทั้งหมดก็ให้พิมคำว่า “harvard:edu diet” เพียงเท่านี้ผลงานวิจัยที่ดีที่สุดจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดก็จะมาปรากฎต่อหน้าคุณทันที
3. เลือกประเภทของไฟล์ (file type)
ข้อนี้มีประโยชน์มากสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการค้นคว้าหาข้อมูลในการทำรายงาน เพราะเราสามารถระบุประเภทของไฟล์ได้เลย ทำให้ค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยใส่ประเภทของไฟล์ระบุไปท้ายคำค้นหา ไม่ว่าจะเป็น pdf, ppt, xls, Google Earth, doc, rtf และอื่นๆ เช่น ถ้าเราต้องการค้นหาประวัติศาสตร์ไทย ในรูปแบบของไฟล์ ppt ให้เซิร์ทว่า “Thai history:ppt” เป็นต้น
4. ใช้ ‘คำเชื่อม’ หรือ ‘เครื่องหมายสัญลักษณ์’ ค้นข้อมูลได้ง่ายขึ้น
“OR” (หรือ) ในกรณีที่ต้องการให้ค้นคำใดคำหนึ่งก็ได้ แล้วนำผลมารวมกัน วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ เช่น university london OR paris คือหาทั้งใน London และ Paris
“ + ” (เครื่องหมายบวก) เชื่อมคำ โดยปกติโปรแกรมจะไม่ค้นคำประเภท commond word เช่น a, an, the, what, when, why ตัวเลขหรือตัวอักษรเดี่ยว แต่ถ้าต้องการบังคับให้ค้น จะต้องใส่เครื่องหมาย +นำหน้า เช่น star war episode +I
“__” (เครื่องหมายคำพูด) เพื่อเป็นการบังคับให้โปรแกรมค้นหาแบบทั้งวลี เช่น “study guide”
“ * ” (เครื่องหมายดอกจัน) ใช้เครื่องหมาย “ * ” เพื่อค้นหาคำที่มีการสกดคล้ายกัน เช่น smok*
หมายความว่า ให้ค้นหาคำทั้งหมดที่ขึ้นด้วย 5 ตัวอักษรแรก เช่น smoke smoker เป็นต้น ข้อมูลที่ออกมาจากการสืบค้นจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับรากศัพท์คำนั้น ทั้งหมด หรือใช้กับคำหรือวลีที่อยู่ภายในเครื่องหมายคำพูดเพื่อระบุคำที่ไม่รู้จักหรือตัวแปร เช่น “imagine all the * living for today” หรือ “* is thicker than water” เป็นต้น
“ ~ ” (tilde) สำหรับการค้นคำพ้อง เช่น ~anthropologist ผลการค้นจะได้ทั้ง anthropologist (นักมานุษยวิทยา) และ archaeonologist (นักโบราณคดี)
“ – ” (เครื่องหมายลบ) ใช้เครื่องหมาย ” – “ เพื่อจำกัดคำบางคำออกไปที่คุณไม่ได้สนใจออกไปจากคำหรือวลีที่คุณทำการสืบค้นโดยใส่เครื่องหมายลบ ไว้ด้านหน้าคำที่ไม่ต้องการ เช่น ต้องการหาคำว่า “จากัว” ที่ไม่ใช่รถให้พิมพ์ว่า “jaguar -car”
5. ค้นบทความทางวิชาการ หนังสือ วารสาร และสิทธิบัตร
-GOOGLE Search Engine (ค้นเว็บไซต์) —> http://www.google.com
-GOOGLE Scholar (ค้นบทความวิชาการ) —> http://scholar.google.com
-GOOGLE Book Search (ค้นหนังสือ) —> http://books.google.com
-GOOGLE Patent Search (ค้นสิทธิบัตร) —> http://www.google.com/patents
6. ค้นหารูปภาพใน Googleโดยใช้ภาพ
โดยปกติแล้วการค้นหารูปภาพจาก google ทำได้ง่ายๆ เพียงแต่เราพิมคำ หรือวลี ลงไปในช่องค้นหาเท่านั้น โปรแกรมก็จะค้นหารูปภาพให้ตรงหรือใกล้เคียงกับคำ หรือวลี ตามที่เราต้องการ แต่การค้นหารูปภาพด้วยคำ หรือวลี ก็อาจจะได้รูปภาพที่ไม่ตรงกับความต้องการก็ได้ อีกหนึ่งทริกที่ google สามารถช่วยให้เราค้นหารูปได้อย่างง่ายดายโดยการ “ค้นรูปจากรูป” (Search by Image) ในกรณีที่เราต้องการภาพที่ใกล้เคียงกับภาพที่เรามีอยู่ แต่ต้องการขนาด และความละเอียดที่มากขึ้นนั่นเอง สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
วิธีที่ 1
เมื่อเข้าเว็บไซต์ของ Google (http://www.google.co.th) คลิกที่เมนูด้านบน “ค้นรูป” ในช่องค้น ด้านขวามือให้คลิกที่ รูปกล้องถ่ายภาพ (ค้นด้วยภาพ) จะมีหน้าต่าง “ค้นด้วยภาพ” ปรากฏขึ้นมา ให้คลิกที่ “อัพโหลดภาพ” และคลิกที่ Browse เลือกรูปภาพที่ต้องการจะให้ค้นหาอัพโหลดเข้าไป Google ก็จะค้นรูปภาพที่ตรงกัน แต่ที่มาต่างกัน หรือคนละขนาด หรือรูปที่คล้ายกันมาให้
หมายเหตุ : เราอาจถ่ายภาพจากภาพในหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือสิ่งพิมพ์อื่น นำขึ้นเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการค้นหาก็ได้ด้วย
วิธีที่ 2
การนำรูปภาพที่ Google ค้นหาจากคำ หรือวลี ให้เราแล้ว (ที่เราพิมพ์คำ หรือวลี เข้าไปในช่องค้นหา) นำมาหารูปภาพที่คล้ายกันให้อีกโดยนำเอาเมาส์วางไว้ที่รูปภาพนั้นๆ ให้ขยายใหญ่ขึ้น แล้วลากรูปภาพนั้นไปวางไว้ในกล่อง “ค้นด้วยภาพ” ที่มีข้อความว่า “วางภาพที่นี่” ก็ให้วางภาพนั้นตรงนั้น
7. ใช้ Language Tool ในการแปลภาษา
ปัญหาที่คนไทยส่วนใหญ่พบในการสืบค้น หรือหาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ตนั่นกคือส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลภาษาอังกฤษ แต่ google สามารถช่วยทำให้ภาษาเหล่านั่นง่ายขึ้นด้วย “เครื่องมือแปลภาษา” ที่นอกจากจะแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยแล้ว ยังสามารถแปลเป็นภาษาอื่นๆ ได้อีกมากมายด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้คือ
วิธีที่ 1 : เข้าไปที่หน้าเว็บเพจพื้นฐาน www.google.com ให้คลิกที่แท็บแปลภาษา สามารถใส่ข้อความภาษาอังกฤษที่เราต้องการและพร้อมแปลเป็นภาษาไทย หรือจะเลือกเป็นภาษาอื่นๆ ก็ได้ตามต้องการ นอกจากนั้นยังสามารถคลิกฟังเสียงคำอ่าน จากสัญลักษณ์รูปไมโครโฟนได้อีกด้วย
วิธีที่ 2 : แปลหน้าเว็บทั้งหน้าเป็นภาษาของเราเองได้ทันที Google สามารถแปลเว็ปภาษา Italian, French, Spanish, German, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยได้โดยคลิ้กที่คําวา “Translate this page” ด้านข้างชื่อเวป
8. Google search เครื่องคิดเลข
นอกจากจะค้นหาข้อมูลต่างๆ จากเวปไซต์ตามคำค้นที่ป้อนเข้าไปแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่มีประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง โดยเราสามารถแปลง Google ให้กลายมาเป็น “เครื่องคิดเลขแบบ Scientific” ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่พิมพ์ตัวอักษร “PI” หรือคำว่า “calculator” ที่กล่องค้นหา Google Search ก็จะแสดงผลเป็น เครื่องคิดเลขแบบ Scientific มาให้เช่นเดียวกัน
หากคุณขี้เกียจเปิด App เครื่องคิดเลขให้ยุ่งยากก็สามารถพิมพ์จำนวนตัวเลขที่เราต้องการคำนวนลงไปในช่องค้นหาของ Google Search ได้เลยเพียงแค่ใช้ตัวอักษรบนแป้นพิม + (บวก), – (ลบ), * (คูณ), / (หาร) และกด Enter เพียงเท่านี้ก็จะได้คำตอบ
9. ค้นหาคลังข้อมูลข่าวที่ย้อนกลับไปในช่วงกลางยุค 1880
“Google News” มีตัวเลือกในการค้นหาข่าวจากสำนักพิมพ์ต่างๆ จากทั่วโลก ย้อนกลับไปกว่า 100 ปี จาก “https://news.google.com” โดยคลิก “ข่าวสาร” จากหน้าเว็บเพจปกติของ Google ได้ทันที และสามารถพิมพ์คำค้นที่ต้องการได้ทันที โปรแกรมจะทำการเซิร์ทข้อมูลที่เป็นข่าวจากสำนักพิมพ์ทั้งหมด
10.ค้นหาด้วยเสียงจาก ‘Voice Search’
หากคุณเบื่อที่จะพิมพ์ ลองค้นเว็บด้วยเสียงของคุณแทน ซึ่งเป็นวิธีค้นหาที่สะดวกในทุกที่ทุกเวลา เพียงแค่เปิดเบราเซอร์ Chorme คุณจะเห็นไมโครโฟนเล็กๆ สีเทา ปรากฎอยู่ตรงช่องที่ใส่คำค้นหา คลิกที่ไอคอนไมโครโฟน และพูดในสิ่งที่คุณต้องการค้นหาและรอสักครู่ ข้อมูลต่างๆ ก็จะปรากฏอยู่ตรงหน้าคุณทันที
ที่มา :
-12 Tips and Tricks for Using Google Search
-11 Google Tricks That Will Change the Way You Search
ภาพประกอบจาก : Internet
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ได้ที่ : [email protected]
ที่มา >> http://manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9580000039199