ยอดไลค์เป็นล้าน “ด.ช.หน้าหมา” ตลกร้ายที่คุณต้องไลค์

ในสงครามแห่งสังคมโลกออนไลน์ที่กำลังหมุนไปอย่างรวดเร็วอยู่ทุกวินาที จนใครหลายคนกำลังวิ่งตามอย่างไม่ลดละ เพียงเพื่อจะนำตนเองเข้าสู่สังคมแห่งนี้ ที่จะทำให้เราๆ สามารถตามกระแสต่างๆ ในโลกใบเล็กนี้ได้อย่างไม่ต้องไปค้นคว้าให้เมื่อยตุ้ม ที่สำคัญ เราจะกลายเป็นคนอินเทรนด์ทันที หากเรารับรู้ได้เร็วกว่าชาวบ้านเขา….
 
แน่นอนว่า สังคมออนไลน์ในทุกวันนี้ นอกจากเรื่องราวดราม่า (ทั้งเกิดขึ้นจริงและมโนไปเอง) จากทั้งแฟนเพจทั้งตัวหลักหรือตัวรอง เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมถูกเอ่ยถึงตามเพจต่างๆ ด้วย เพราะเรื่องเหล่านั้น ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของสังคมเราอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเรามักจะละเลยมองข้ามไป เพราะหากเราเจอเอง ก็คงจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาสามัญที่ไม่รู้จะตลกตรงไหน ก็เป็นได้
 

 
แต่สำหรับแฟนเพจ “ด.ช.หน้าหมา” กลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะแฟนเพจแห่งนี้ได้รวบรวมเรื่องราวของคนปกติ ให้กลายเป็นการ์ตูนลายเส้นง่ายๆ สบายๆ พร้อมกับแก๊กมุกที่ตรงใจคนในโลกออนไลน์โดยรวม จนสามารถมีแฟนเพจแตะไปถึงหลัก 1 ล้าน ในระยะเวลาแค่ปีกว่าๆ เท่านั้น
 
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของเพจดังกล่าว ย่อมหนีไม่พ้น คิธ-เปี่ยมรัก จีระเดชากุล ผู้ดำรงสถานะนักพัฒนาเกี่ยวกับไอทีคนหนึ่ง ที่แปลงสภาพจากตัวการ์ตูนหน้าตาเศร้าสร้อยที่วาดเล่นๆ ให้กลายเป็นแฟนเพจน่ารักที่เชื่อได้เลยว่า จะต้องอมยิ้มทุกครั้งยามที่ได้กดคลิกเข้าไป พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ กลับออกไป และเชื่อได้เลยว่า ถ้าไม่มี “ความอารมณ์ดี” กลับไป เราก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วเช่นกัน
 

 
• จุดแรกเริ่มก่อนมาเป็น “ด.ช. หน้าหมา”
 
ต้องบอกว่า ช่วงประมาณ 4 ปีก่อน ผมทำแอปพลิเคชันเล็กๆ ชื่อ หน้าหมาตกน้ำ ที่ตกแต่งหน้าตาตัวเองในสไตล์หน้าหมา แล้วก็อยู่ได้ประมาณปีนึงแล้วก็เงียบไป ซึ่งช่วงปีก่อน กระแสการ์ตูนเริ่มมี ผมก็เลยเริ่มวาดการ์ตูนอีกครั้ง ปรากฏว่าผู้คนให้ความสนใจติดตามกัน จนในที่สุดผมก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
 
จากที่เราอิงสถานการณ์เรื่องน้ำท่วม แล้วก็ดราม่าสถานการณ์ต่างๆ ในโลกโซเชียล พอมันเป็นกระแสมันก็ค่อนข้างง่าย เหมือนเรื่องน้ำท่วมที่ไม่สามารถต่อต้านมันได้ หลังจากนั้น ผมก็พยายามจะปรับให้มันไม่ใช่กระแสในบ้านเราอย่างเดียว เป็นกระแสที่ทำให้ทุกๆ ที่สามารถ หรือทุกคนที่ไม่ได้ตามกระแส ก็เข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารอยู่ด้วย
 
• เหมือนกับเราหยิบเรื่องราวของชีวิตคนปกติ เพียงแต่ว่าเรื่องปกติของเขาไม่น่าสนใจ แล้วเราก็มายำ
 
ก็เอาสิ่งที่เขาคิดว่าปกตินั้นมาสื่อให้เห็นว่า สิ่งที่คุณเจอ ใช่มันปกติ แต่มันควรจะเปลี่ยนแปลงมั้ย หรืออะไรแบบนี้ ผมยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการยืมเงินคน พอโดนทวงเงินก็ไม่คืน หรือการสูบบุหรี่ใกล้คนที่ไม่ชอบ แล้วก็ไปมองว่าเขาดัดจริต ซึ่งก็พยายามจะวาดในเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แล้วคนไม่กล้าออกมาพูด แล้วมันเป็นสิ่งที่คนเราได้เห็นอยู่ทั่วไป มันอาจจะโดนใจ ตรงใจ หรือขำๆ แต่ผมพยายามจะสอดแทรกตรงที่น่าจะให้การสอน หรือคนฉุกคิดว่ามันไม่ถูกนะ อะไรแบบนี้เหมือนกันนะ
 
• คล้ายๆ ว่าพอเปลี่ยนจากการทำแอปพลิเคชัน มาเป็นแก๊กการ์ตูน มันตอบโจทย์เราได้มากกว่า
 
คือก่อนหน้านี้โมเดลมันคนละอย่างเลย เป็นแอปพลิเคชันที่เล่นบนเว็บ ซึ่งมันก็ใช้เวลาแล้วก็ใช้ต้นทุนในการพัฒนา พอผมเปลี่ยนมาเป็นการวาดการ์ตูนเฉยๆ ต้นทุนต่างๆ มันลดลงเยอะ ซึ่งทำให้ผมสามารถผลิตต้นทุนออกมาได้เยอะๆ
 

 
• ดูจากคาแรกเตอร์ของ “ด.ช.หน้าหมา” แล้ว หน้าตาของมันดูสิ้นหวังเลยนะ
 
ถูกต้องเลยครับ หน้าตามันสิ้นหวังสุดๆ (ยิ้ม) เพราะผมรู้สึกว่า เทรนด์แบบหวือหวาหรือมีความสุขมันมีเยอะแล้ว ผมก็เลยเปิดโปงในด้านดาร์กบ้าง แต่ก็ดาร์กในแบบเรา ดาร์กแบบสร้างสรรค์ 
 
• คือสิ้นหวังแต่ไม่ฟูมฟาย
 
จะบอกแบบนี้ว่า การสิ้นหวัง พอเราผ่านมันไป แล้วกลับมามองอีกรอบ มันอาจจะเป็นเรื่องขำๆ ขอแค่เราผ่านมันไปได้ คิดว่าทุกคนก็เป็นแบบนี้ ตอนแรกก็มีสิ้นหวัง ร้องไห้ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ 3 วัน 3 คืน หรือเป็นเดือน พอผ่านมันไปแล้ว เราก็กลับมาย้อนชีวิตในช่วงที่เราฟูมฟายว่า เราทำอย่างงั้นทำไม เสียดายเวลา แถมไอ้เรื่องที่เราฟูมฟายน่ะ บางทีเราอาจจะเอามาเล่าเป็นเรื่องตลกซะด้วยซ้ำ เมื่อเวลาผ่านไป ฉะนั้นตัวละครในเพจก็คือจะเป็นตัวแทนของประสบการณ์ของทุกคน แต่อาจจะมีเรื่องของผมเข้าไปนิดหน่อย (หัวเราะเบาๆ) 
 
• เท่าที่สังเกตมา ในแฟนเพจ การมีหลากหลายตัวละคร จะสื่อถึงการเป็นตัวแทนในสังคมเช่นกัน
 
ใช่ครับ ก็จะเป็นคาแรกเตอร์ในแบบต่างๆ ทั้งในแบบ ด.ช.หน้าหมาเอง ด.ช.แสนดีที่แบบเป็นแสนดี ด.ช.แบดที่ทำตัวเป็นแบดบอย ด.ช.ติสต์ ที่ทำตัวเป็นคนที่ติสต์หน่อย และก็ ด.ช หนูน้อมที่เป็นคนเพอร์เฟกต์ ผู้ดี และก็ยังมีนักเรียนนักศึกษา หลายอย่างครับ
 
ผมว่าเป็นคาแรกเตอร์ที่สร้างนั้น มันจะคงเป็นในแบบต่างๆ มากกว่า เพราะบางอย่างผมก็ไม่อยากเรียกว่าปัญหา แต่มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคม อย่าง ด.ช.แบดบอย ไม่ใช่ว่า โดนเรียกว่าแบดบอยแล้วถือว่าเลว ก็อยากให้มีที่มาที่ไป เพราะอดีตทำให้เขาเป็นแบบนี้นะ ซึ่งผมคิดว่าหลายๆ คนก็เคยโดน แล้วเป็นแบบ ด.ช.แบด เช่นกัน (หัวเราะเบาๆ)……
 

 
• จากการที่เรารวบรวมคาแรกเตอร์มา คิดว่ามันเหมือนการกัดคนในสังคมมั้ย
 
ใช่ครับ เน้นปัจจุบันมากเลย เพราะว่าเราก็เน้นโฟกัสในกลุ่มคนปัจจุบันมาก่อน และก็เน้นโซเชียลด้วย ถ้าเปรียบง่ายๆ ในกระแสอะไรต่างๆ เราก็จะหยิบมาแล้วดูด้วยว่า คาแรกเตอร์ที่เราสร้างมา ให้เข้ากับกระแสนั้นๆ พยายามทำให้จับกระแสดึงมา แต่ก็วาดให้กว้างๆ ด้วย เผื่อคนที่ไม่รู้กระแส
 
• ถือว่าเป็นหมัดเด็ดของเราเลย
 
ครับผม ต้องบอกว่าแก๊กของเพจเราจะค่อนข้างเปิด บางทีเนี่ย ถึงแม้ว่าการวาดแก๊ก อาจตีความได้หลายแบบ คนหลายคน อาจจะตีความกันไปคนละอย่าง ซึ่งเราจะพยายามไม่ชี้นำเท่าไหร่ อยากให้เขามาอภิปรายกันเองมากกว่า
 
• ขึ้นชื่อว่าเป็นเพจต้นๆ ในเมืองไทย แน่นอนว่ามีดราม่าอยู่ เวลาที่เขียนแก๊ก จะโดนบ่อยมั้ย
 
หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องดราม่าในคอมเมนต์ โพสต์วอลล์บ้าง แล้วอินบ็อกซ์ก็มีบ้าง ดราม่ากันเยอะแยะเลย แต่ว่าผมก็พยายามจัดการดราม่าให้มันไม่รุนแรง ซึ่งจริงๆ ผมชอบนะ มันทำให้เกิดการโต้เถียงกัน แต่ว่าถ้าให้ดราม่ากันแบบหยาบคายกันมากเกินไป ผมก็จัดการ hide หรือ ลบทิ้งมันซะ เพื่อตัดไฟแต่ต้นลมก่อน
 
• เรื่องดราม่าในนั้น ส่วนมากจะเป็นอะไร
 
คล้ายๆ ว่า คนหนึ่งตีความอย่างนึง แต่ว่ามีคนเห็นต่างออกมามองอีกมุมนึง แล้วคนเห็นต่างนั้น อาจจะเป็นเสียงส่วนน้อย ซึ่งทำให้คนเสียงส่วนใหญ่ ตีความเหมือนกันเนี่ย เข้ามารุมด่าว่า เสียงส่วนน้อยนั้น ซึ่งถ้าโต้ตอบด้วยเหตุผลเนี่ย ผมก็ยินดีปล่อยผ่าน แต่ถ้ามันรุนแรงเกินไป ผมก็ตัดมันซะ นั่นละครับ
 
 
• จากการเปรียบเทียบกับเพจดังเพจอื่น ที่เคยมีโดนกรณีปิดหรือเกือบโดนปิดไป แต่ ด.ช.หน้าหมา แทบไม่โดนปิดเลย มันเป็นเพราะอะไร
 
ผมไหลลื่นครับ ผมเป็นปลาไหลครับ (หัวเราะ) คือไม่ขวางน้ำเชี่ยว น้ำเชี่ยวมาก็ไม่ขวาง ในขณะที่เพจดังๆ อื่นๆ เขากล้าที่จะสวนกระแส ซึ่งมันก็ทำให้เกิด viral ที่ดี แต่ก็มีเสียงในการที่จะเกิดดราม่าที่รุนแรงมากด้วย ซึ่งผมก็จะพยายามตัดในส่วนนี้ออก เพราะไม่กล้าเสี่ยง พอ อารมณ์เหมือน เอาปี๊บคลุมหัวแล้วตี ผมจะเป็นแบบเอาปี๊บคลุมหัวแล้ววิ่งหนีก่อนเลย (หัวเราะเบาๆ)
 
• ล่าสุด ทางเพจบอกกับลูกเพจว่า จะรับโฆษณาด้วย มันสะท้อนมั้ยว่า เรานี่ดังแบบสมบูรณ์แบบแล้ว
 
โดยส่วนตัวผมคิดว่า ผมไม่อยากบอกว่าผมดัง เพียงแต่ว่า ผมอยากจะบอกว่า ไอ้สิ่งที่ผมทำเนี่ยมันสร้างรายได้ได้ และสูงด้วย ซึ่งถ้าหากว่า กระแสการ์ตูนในบ้านเรามันค่อนข้างไปในทางลบ แล้วก็ทางผู้ใหญ่ต่างๆ ไม่เห็นคุณค่าในส่วนของการ์ตูน ซึ่งผมก็อยากจะออกมาบอกว่า สิ่งที่ผมทำ มันมีกระแสตอบรับที่ดี แล้วมันเข้าถึงวงกว่างได้เยอะ แล้วก็ในมุมมองของคนวาดการ์ตูนที่บอกว่า วาดการ์ตูนแล้วศิลปินจะต้องไส้แห้ง คือเราจะอยากลบภาพตรงนั้นออกด้วย
 
• และแน่นอนว่ามันมีกระแสที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และลังเล ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง
 
พอผมได้ประกาศอย่างนั้น ก็มีกระแส ส่วนมากเขาก็ยอมรับ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก แต่มันก็มีกระแสต่อต้านที่มีอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นปกติ จริงๆ โฆษณามันอยู่คู่กับทุกๆ สิ่งอยู่แล้ว ทั้งในรายการวาไรตี้หรืออะไรที่เราเคยดูมา ในระหว่างที่เราดูรายการ เขาก็โชว์ป้ายโฆษณา ตัดเข้าสู่โฆษณา ทุกๆ อย่างก็โฆษณา สิ่งที่เราทำมันก็คือการโฆษณา เพียงแต่เราทำให้มันอยู่ในเนื้อหาของเรา และสร้างความสนุกให้กับทุกคน
 
• เพราะดูจากในเพจ ที่มีสินค้าเพียบเลย พูดกันตรงๆ ว่าเราขายวิญญาณมั้ย
 
(นิ่งคิด) ผมมองว่าเป็นความท้าทายอย่างนึง ที่เราจะต้องทำให้มันดีด้วย ระหว่างลูกค้า กับกระแส ที่เราจะต้องทำให้ควบคู่กันได้ ซึ่งหลายๆ คน พอเจออย่างงี้ อาจจะถอดใจ แต่ผมมองว่ามัน challenge อย่างนึงที่ผมต้องยอมรับว่า ถ้าผมทำได้ มันก็ดีไป ถ้าล็อตไหนไม่ได้ ก็ต้องปรับปรุง
 

 
• ในฐานะที่เราเป็นศิลปินคนหนึ่ง แล้วมีวันนึงเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ในความคิดเห็นรู้สึกยังไง
 
ผมก็ยังจะคงอยู่ในจุดยืนของผมอยู่ ซึ่งผมมองว่ามันจะต้องปรับไปเรื่อยๆ ในสิ่งที่เราเป็นอยู่ มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แล้วในการปรับเปลี่ยน มันก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดอยู่ดี เราก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ pirote ต่อไป ซึ่งหาจุดที่มันลงตัวที่สุด มากที่สุดน่ะครับ แต่ว่า ถ้าถามถึงจุดมุ่งหมายของผม ผมก็อยากจะให้การ์ตูนนี้มันสามารถอะไรแบบนี้ได้ เข้าถึงมวลชนได้มากขึ้น
 
• ปัญหาในการทำเพจ หลักๆ คือ
 
ส่วนใหญ่ก็จะมาจากโฆษณานี่แหละ ซึ่งบางที เราไม่สามารถสร้าง content ได้ ตามที่เราออกแบบ แต่เราก็พยายามที่จะทำออกมาให้ดีที่สุดทั้งระหว่างเราและลูกค้า ส่วนในเรื่องที่ปรึกษา ส่วนใหญ่จะเจอเรื่องอกหักทั้งหลาย ซึ่งจะเป็นเด็กๆ ที่เข้ามาระบาย แล้วผมก็จะให้คำแนะนำเชิงสั่งสอนด้วยซ้ำ อีกปัญหานึงคือพูดจาไม่สุภาพ แบบทักแบบ เฮ้ยกูมึง เลย ผมก็ตอบกลับไปว่า ไม่ใช่เป็นอีกเพจนึงนะ คุยดีๆ หน่อย อะไรแบบนี้ ซึ่งในนั้น ผมก็จะพยายามตอบให้มากที่สุด แล้วก็สั่งสอนให้ความรู้ให้มากที่สุด เป็นที่ปรับทุกข์ เป็นที่ระบาย เพราะฉะนั้น inbox ตอบช้าก็อย่าว่ากันนะ (หัวเราะ)
 
• เรื่องประเภทไหนที่จะไม่แตะเลย
 
เรื่องที่จะก่อให้เกิดความบาดหมางดีกว่า ที่ผมจะไม่แตะ เรื่องการเมือง ถ้าหากเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เราก็จะแซวๆ ล้อๆ ไป เรื่องฟุตบอลก็พอได้ แต่ผมจะไม่ดูมาก ก็อาศัยจากเพื่อนๆ ละครก็ด้วย ซึ่งผมจะไม่ค่อยตามกระแสเท่าไหร่ มันจะมาจากคำแนะนำของเพื่อน 
 
• การที่เราไม่สนใจกระแสเลย มันรู้สึกว่า เราทำงานยากมั้ย
 
(นิ่งคิด) ส่วนนึงอาจจะไม่อินกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่ แต่ในกรณีที่ผมจะเขียนเรื่องอะไรขึ้นมาซักเรื่อง ผมจะพยายามศึกษาเรื่องนั้นให้มากที่สุดก่อนเขียน ให้เหมือนเป็นโปรนิดๆ เช่นเรื่องมอเตอร์ไซค์ ผมก็ทำการศึกษาอยู่หลายวันนะ ว่ามันมีแบบนี้ๆ เพื่อเขียนในแก๊กๆ นึง 
 
• จากการทำหลายอย่าง คิดว่าตัวเองเป็นอะไร
 
เรียกว่าเป็นเป็ดก็ได้ครับ จับหลายอย่าง แต่ยังไม่ดีซักอย่าง แต่ในที่สุด ผมก็สามารถมีความรู้แบบครึ่งๆ กลางๆ ได้ ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง เพื่อต่อยอดในการควบคุมการสร้างสรรค์อะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งผมคิดว่าเป็นช่วงของการหาหลายๆ อย่างว่า อยากเล่น อยากจับอะไรมากที่สุด ซึ่งในที่สุดแล้ว เราก็ต้องมีจุดเด่นในสักทางอยู่ดี
 
• ในฐานะที่เราเป็นตัวแทนของสังคมผ่านทางแฟนเพจ ถ้าหากเราเปลี่ยนแปลงได้ จะเปลี่ยนอะไร
 
ผมอยากให้สังคมดีขึ้น อยากจะเป็นส่วนนึงในการเปลี่ยนความคิด หรือวัฒนธรรม เปลี่ยนรูปแบบในสังคมในประเทศ ให้ไปในทางที่ดีขึ้น หรือว่าทางที่ดีกว่าเดิม ในหลายๆ เรื่อง ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนสักครั้ง ผมอยากจะสร้างนวัตกรรม มันมีส่วนช่วยในการเปลี่ยนพฤติกรรมของทุกคน แล้วก็เปลี่ยนในทางที่ดีขึ้น
 

 

 

 

 

 
เรื่อง : สรวัจน์ ศิลปโรจนพาณิช
ภาพ : พลภัทร วรรณดี