‘อินเด็กซ์ฯ” คว้าพันธมิตรใหม่ แทน แกรมมี่ มั่นใจช่วยปั๊มรายได้ 3 พันล้าน ในอีก 5 ปี

ตามที่มีกระแสข่าวว่า บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ขายหุ้น บริษัทอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ที่เคยเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 50% มาตั้งแต่ปี 2548  ออกไปให้กับ “กลุ่มมาลีนนท์” นั้น

ทางด้าน เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด มหาชน ได้ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า  จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ผู้ถือหุ้นส่วนนึงของอินเด็กซ์ฯ ต้องการระดมทุน เพื่อจะกลับไปโฟกัสธุรกิจ ทีวีดาวเทียม และทีวีดิจิตอล ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างสูงมากนั้น นับเป็นโอกาสที่ดี ที่อินเด็กซ์ฯ จะได้เดินหน้ายุทธศาสตร์ทิศทางการเติบโตของธุรกิจ โดยอินเด็กซ์ฯ ตั้งเป้าเป็นผู้นำ ความคิดสร้างสรรค์ “Hub of Creativity” ในภูมิภาคอาเซียน และได้มีการเตรียมตัว และวางแผนอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2011 จากการรุกตลาดพม่า ด้วยอีเว้นท์มาร์เก็ตติ้งต่อเนื่องมาตลอด

เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางการทำธุรกิจ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศเท่านั้น อินเด็กซ์ฯ จึงต้องมองหาพาร์ทเนอร์ที่สามารถซินเนอร์ยี่เข้ากันได้  เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละฝ่าย รวมถึงในเรื่องของวิธีคิด การทำงาน และต้องมีเป้าหมายในการนำพาธุรกิจเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างมั่นคง

“ในช่วงที่ผ่านมา ต้องบอกว่ามีหลายกลุ่มธุรกิจ เข้ามาติดต่อพูดคุยเจรจากับอินเด็กซ์ฯ อินเด็กซ์ฯ ได้มีการเลือกพันธมิตรใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้  อินเด็กซ์ฯ ได้เลือกพาร์ทเนอร์ใหม่ ที่สามารถพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจกันได้อย่างดี และสิ่งที่อินเด็กซ์ฯ ให้ความสำคัญมากที่สุด คือจะต้องมีวิสัยทัศน์ตรงกัน”

เกรียงไกร ระบุว่า มั่นใจว่าพาร์ทเนอร์ใหม่ทางธุรกิจในครั้งนี้ จะตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจภายใต้ความคิดสร้างสรรค์  รักษาตำแหน่งบริษัทครีเอทีฟอีเว้นท์ อันดับ 7 ของโลก (จัดอันดับโดยนิตยสารสเปเชี่ยล อีเว้นท์ แม็กกาซีน ประเทศสหรัฐอเมริกา) รวมทั้ง วางรากฐานโครงสร้างของธุรกิจเดิมให้แข็งแรง และเติบโตมากยิ่งขึ้น สร้างมุมธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศ ตามยุทธศาสตร์การเติบโตในฐานะผู้นำในภูมิภาค (Hub of Creativity in ASEAN)

“รวมถึงมั่นใจว่าการผนึกกำลังกับพันธมิตรใหม่นี้ จะสามารถสร้างรายได้ให้กับอินเด็กซ์ฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปี อย่างแน่นอน “ เกรียงไกร กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี2557 มียอดรายได้  1,625 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าปลายปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 15%

รุกอีเว้นท์ในพม่า

พม่า นับเป็นประเทศแรกๆ ในอาเซียนที่อินเด็กซ์เข้าไปรุกทำตลาดอีเว้นท์ เริ่มจากจัดงาน Countdown ครั้งแรกในพม่า รวมถึงงานเทศกาลสงกรานต์  งานด้านการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านงานวิจัย (Consumer insight: Research) ที่สำรวจพฤติกรรมการบริโภค ให้กับนักลงทุน การสร้างช่องทางในการสื่อสารแบบผสมผสาน (Integrated media platform) อาทิ การทำสื่อโฆษณารถโดยสาร และรายการทีวี เป็นต้น รวมถึงการจัดงานแฟร์ งานแสดงวัฒนธรรมเมียนมาร์แบบร่วมสมัย  ภายใต้ชื่อ “ดันดารี” ณ พระราชวัง บากัน โกลเด้น พาเลซ (Bagan Golden Palace) พระราชวังประจำเมืองพุกาม