แม้ว่าการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่ผ่านมาจะมีความดุเดือดเชือดเฉือนกันในแง่ของฟีเจอร์ และประสิทธิภาพที่พัฒนาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำโดย 2 แบรนด์ใหญ่ในตลาดอย่างแอปเปิลและซัมซุง ที่เรียกได้ว่า ยึดตำแหน่งผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนอยู่ในปัจจุบัน
เพียงแต่ในแง่คำว่า ผู้นำฝ่ายหนึ่งอาจจะเคลมด้วยยอดขายสินค้าในจำนวนมาก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่ได้มียอดขายสูงเพราะจำนวนรุ่นมีน้อย และเน้นจับตลาดกลุ่มไฮเอนด์เป็นหลัก แต่ก็ถือเป็นผู้นำตลาดในแง่ของการใช้งานที่ก่อให้เกิดเหล่าสาวกขึ้น และพร้อมที่จะเปลี่ยนรุ่นที่โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการออกวางจำหน่ายรุ่นใหม่ในแต่ละปี
ปัจจุบันจะเริ่มเห็นว่า ทั้ง 2 แบรนด์ ต่างเริ่มอัดงบการตลาดมาแข่งขันกันในแง่ของประสิทธิภาพกล้องบนสมาร์ทโฟนรุ่นเด่น ไม่ว่าจะเป็น Apple iPhone 6 Plus และ Samsung Galaxy S6 โดยแต่ละฝ่ายต่างพยายามชูจุดเด่น เพื่อให้คนเข้าใจง่าย และทำให้ผู้ที่ได้เห็นอยากได้มาใช้งาน
ใช้ภาพถ่ายสื่อถึงผู้ใช้
ดังจะเห็นได้จากช่วงหลังๆ ที่โฆษณาของแอปเปิล จะพยายามเน้นประโยคที่ว่า “ถ่ายด้วย iPhone 6” ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ ข้อความเหล่านี้จะเริ่มล้อมรอบผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาตามป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ตามรถไฟฟ้าใต้ดิน รวมไปถึงโฆษณาบนโทรทัศน์ และเว็บไซต์ต่างๆ
มีความคิดเห็นจากวิศวกร ที่เชี่ยวชาญเรี่องกล้องสมาร์ทโฟน วิเคราะห์กลยุทธ์เรื่องกล้องครั้งนี้ของแอปเปิลว่า การที่แอปเปิลนำภาพถ่ายออกมาเป็นโฆษณาเพื่อแสดงถึงประสิทธิภาพในการบันทึกภาพของ iPhone นั้น มีปัจจัยหลักมาจากหลายๆ ส่วนด้วยกัน ไม่ใช่เพียงว่าแอปเปิลต้องการชูความโดดเด่นของสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีการพิสูจน์ที่เห็นผลแล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วย
โดยวิศวกรคนนั้น กล่าวต่อไปว่า ถ้าเข้าไปดูเว็บฝากไฟล์ภาพยอดนิยมอย่าง Flickr.com จะเห็นได้ว่า คลังภาพใน Flickr ถูกถ่ายด้วย iPhone เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยกล้องถ่ายภาพอย่าง Canon และสมาร์ทโฟนจากซัมซุง ซึ่งถ้านับเป็นรุ่นจะเห็นได้ว่า iPhone 6 ถือเป็นรุ่นที่นิยมมากที่สุดในการนำมาถ่ายภาพในระยะเวลานี้ ด้วยอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ทั้งนี้ จากสถิติล่าสุดใน Flickr มีภาพที่ถูกถ่ายจาก iPhone 6 อัปโหลดเข้าไปในระบบแล้วเกือบ 80 ล้านภาพ iPhone 5s อยู่ที่ประมาณ 167 ล้านภาพ iPhone 5 ประมาณ 250 ล้านภาพ และ iPhone 6 Plus 40 ล้านภาพ โดยการจัดอันดับจะวัดจากปริมาณผู้ใช้งานสูงสุดในแต่ละวัน ทำให้ปัจจุบัน iPhone 6 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แม้ว่าจะมีภาพในระบบน้อยกว่า iPhone 5s ก็ตาม
ในขณะที่ฝั่งของซัมซุง สมาร์ทโฟนที่มีการอัปโหลดภาพเข้ามายัง Flickr มากที่สุด คือ Galaxy S5 ที่ปัจจุบันมีภาพอยู่ในระบบราว 37 ล้านภาพ ตามมาด้วย Galaxy S4 ที่ 53 ล้านภาพ ส่วน Galaxy S6 ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปไม่นานมีอยู่ราว 2 ล้านภาพ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากในภูมิภาคเอเชีย Flickr อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
ประกอบกับการที่แอปเปิลพยายามให้ความสำคัญกับการใช้งานโหมดกล้องบน iPhone โดยเน้นไปที่ความง่ายในการใช้งาน มากกว่าการใส่ฟังก์ชันที่ไม่มีความจำเป็นเข้าไป ทำให้ที่ผ่านมาผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของการถ่ายภาพก็สามารถหยิบ iPhone ขึ้นมาแล้วถ่ายภาพได้ทันที
“สิ่งที่แอปเปิลพยายามทำ คือ การที่ไม่ให้ผู้บริโภคพลาดการบันทึกช่วงเวลาดีๆ ของชีวิตไป ด้วยการที่สมาร์ทโฟนซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่พกติดตัวตลอดเวลา เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญเพียงแค่หยิบ iPhone ขึ้นมา กดโหมดลัดเข้าสู่กล้องถ่ายภาพ และบันทึกภาพ ก็จะได้ความทรงจำเหล่านั้นเก็บไว้ทันที”
โดยในประเทศไทยจะเริ่มเห็นการทำตลาดของแอปเปิลในรูปแบบนี้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับตอนนี้ แอปเปิลเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นอย่างมาก จากเดิมที่แต่ละโอเปอเรเตอร์จะทำการโฆษณาเอง ก็กลายเป็นทางแอปเปิลเริ่มทุ่มงบประมาณมาให้ตรงนี้ เช่นเดียวกับการทำประชาสัมพันธ์ที่ล่าสุดได้มีทีมงานที่เป็นคนไทยได้เข้าไปร่วมงานในส่วนนี้เพื่อดูแลประเทศไทยโดยเฉพาะ
เปิดเว็บแสดงรูปถ่ายจาก iPhone 6
ตอนนี้ภายในหน้าเว็บไซต์หลักของแอปเปิล (www.apple.com) เมื่อกดเข้าไปในส่วนของ iPhone จะมีส่วนเฉพาะที่ขึ้นแสดงว่า “Shot on iPhone 6” เพิ่มขึ้นมา โดยทางแอปเปิลเรียกส่วนนี้ว่า iPhone World Gallery ที่เป็นแหล่งรวบรวมภาพที่ถ่ายจาก iPhone 6 ทั่วโลก ทั้งในส่วนของภาพนิ่ง และวิดีโอ พร้อมมีรายละเอียดสถานที่ถ่ายภาพ แอปพลิเคชันที่ใช้ตกแต่ง เพื่อแสดงรายละเอียดให้ผู้ใช้คนอื่นได้เห็นด้วย
โดยข้อมูลเหล่านี้ก็จะเกี่ยวโยงไปยังแอปสโตร์ของแอปเปิล ที่ปัจจุบันแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับภาพถ่ายบน iPhone ก็ยังเป็นแอปที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ อย่างต่อเนื่องอยู่เช่นเคย ดังนั้น การโปรโมตให้มีการนำ iPhone ไปถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น ก็จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตแอปสำหรับนักพัฒนาเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ก็จะมีเว็บไซต์ที่ทำการประกวดรูปที่ถ่ายจาก iPhone ภายใต้เว็บไซต์ IPPAWARDS (http://www.ippawards.com/) ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2007 จนล่าสุดเพิ่งได้มีการประกาศ IPPAWARDS 2015 ให้แก่ช่างภาพ 57 ราย จาก 19 ประเภท ได้แก่ รูปภาพแห่งปี สถาปัตยกรรม แอปสแตรกต์ สัตว์ ดอกไม้ เด็ก วิว ไลฟ์สไตล์ อาหาร ธรรมชาติ งานอีเวนต์ ผู้คน ฤดูกาล บุคคล พระอาทิตย์ตก พาโนราม่า ท่องเที่ยว ต้นไม้ และชีวิต
Galaxy S6 ดึงกระแส “คุณล่ะเปลี่ยนหรือยัง”
ไม่ใช่ว่ามีแค่ iPhone เท่านั้นที่นำความโดดเด่นของกล้องมาเป็นจุดขาย เพราะปัจจุบันซัมซุง ก็ถือเป็นอีกแบรนด์ที่เน้นตรงจุดดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน ดังที่เห็นได้จากการปล่อยชุดโฆษณา “ทางนี้เค้าเปลี่ยนกันแล้ว แล้วคุณล่ะเปลี่ยนรึยัง?” ไล่ตั้งแต่โฆษณาจาก โอปอล์ ชมพู่ รัดเกล้า โจอี้บอย บัณฑิต อึ้งรังษี แพม อรอาภา เต้ย จรินทร์พร ที่คอยมาใส่ข้อมูลลูกเล่นต่างๆ ให้ชมผ่านโฆษณา
จุดสำคัญของโฆษณาชุดนี้ คือ การเปิดให้ผู้บริโภครู้สึกว่า เป็นกันเองกับนักแสดง ในการที่เชิญชวนให้ลองเปลี่ยนมาใช้สินค้า และในขณะเดียวกัน ภายในโลกออนไลน์ ทางซัมซุงก็ได้มีแคมเปญในการให้ช่างภาพชื่อดังนำ Galaxy S6 ไปใช้ถ่ายงานตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสดงคุณสมบัติของกล้องให้ได้เห็นกันจริงๆ
หัวเว่ย ลุยบ้าง ชูกล้องถ่ายที่มือ
หัวเว่ย ถือเป็นอีกแบรนด์ที่เริ่มนำความสามารถของกล้องออกมาเป็นจุดขาย หลังจากเริ่มวางจำหน่าย Honor 6 Plus เข้าสู่ท้องตลาด ด้วยการนำเสนอโฆษณาการถ่ายภาพในเวลากลางคืน พร้อมกับชูจุดเด่นเรื่องกล้องหลัง 2 ตัวทำให้สามารถเลือกจุดโฟกัสได้หลังการถ่ายภาพ
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์ หัวเว่ยก็เดินทิศทางเดียวกับซัมซุง ในการให้ช่างภาพ และบล็อกเกอร์ นำ Honor 6 Plus ไปถ่ายภาพตามงานต่างๆ เพื่อนำมาโพสต์โชว์ให้เห็นถึงคุณภาพของรูปที่ได้จากกล้องของสมาร์ทโฟนตัวเด่นรุ่นนี้
จากข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เห็นได้ว่า การตลาดของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน จะเน้นไปที่การเข้าถึงผู้บริโภคผ่านจุดที่ง่ายที่สุดมากยิ่งขึ้น และมองว่า การนำสมาร์ทโฟนมาบันทึกภาพ กลายเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของผู้บริโภค ดังนั้น จึงเลือกที่จะนำจุดนี้ออกมาสื่อถึงผู้ใช้ให้เลือกเปลี่ยนมาใช้งานสินค้าแบรนด์ของตน
กล้อง iPhone 6 / Galaxy S6 ต่างกันตรงไหน
ด้วยการที่ทั้ง 2 แบรนด์ต่างแข่งขันกันในเรื่องของการถ่ายภาพ ซึ่งทั้งคู่ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป อย่าง iPhone 6 จะเด่นในแง่ของความง่ายในการใช้งาน ผู้ใช้สามารถหยิบขึ้นมาและกดถ่ายภาพที่ดีที่สุดได้แบบอัตโนมัติในทุกๆ โหมด ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพนิ่ง ภาพวิดีโอ ภาพเร่งความเร็ว (Time Lapse) และภาพช้า (Slomotion)
ในขณะที่ Galaxy S6 แม้ว่าจะมีโหมดอัตโนมัติมาให้เหมือนกัน แต่การถ่ายภาพในโหมดโปรจะเพิ่มความสนุกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น รวมกับการที่มีฟีเจอร์พิเศษอย่างการแยกจุดวัดแสง กับจุดโฟกัส การสั่งถ่ายภาพด้วยเสียง ประกอบกับการที่ใช้กล้อง f1.9 ทำให้สามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า
ท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับว่า ต้องการใช้งานกล้องในรูปแบบใด และเลือกแบรนด์ที่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานให้มากที่สุด