แจ็ค หม่า ซื้อสวนป่าฯ ในสหรัฐฯ มูลค่าเกือบ 800 ล้านฯ

เอเจนซี – แจ็ค หม่า หนึ่งในบุคคลผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศจีน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิรซยักษ์ อาลีบาบา ซื้อที่ดินในสวนป่าอดิรอนแดรกส์ (Adirondacks) เพื่ออนุรักษ์และใช้เป็นสถานปลีกวิเวกส่วนตัว ราคา 22.5 ล้านเหรียญ (765 ล้านบาท) 
 
สื่อจีนรายงาน (29 มิ.ย.) ว่า สวนป่าอดีรอนแดรกส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อแบรนดอนปาร์ค ซึ่งมีพื้นที่ราว 28,100 เอเคอร์ (ราว 71,064.9 ไร่) มีแม่น้ำเซนต์รีจิส ไหลผ่านยาวกว่า 9 ไมล์ รวมถึงทะเลสาบ ลำธาร หนองบึงมากมาย อีกทั้งแค้มป์ซุงสมัยทศวรรษ 1940 บ้าน 2 หลัง โรงคอกม้าอีก 1 หลัง อยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ของป่าอนุรักษ์ธรรมชาติอดิรอนแดรก ซึ่งแตกต่างจากป่าอนุรักษ์ของที่อื่นใด เพราะพื้นที่กว่า 3.4 ล้านเอเคอร์ เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน ขณะที่ 2.6 ล้านเอเคอร์ เป็นของรัฐ
 
ในพื้นที่ธรรมชาติดังกล่าวนี้ ยังมีสัตว์นานาชนิด ที่อุดมสมบูรณ์คือ ปลาเทราต์ โดยอดีตนั้นเคยเสื่อมโทรมและเผชิญกับการตัดไม้ ทำลายป่า (ราวปี ค.ศ. 1800) ซึ่งเต็มไปด้วยเหมือง ถ่านหิน และอุตสาหกรรมกระดาษ ในพื้นที่ จนดินเสื่อมโทรม ธารน้ำหนองบึงเต็มไปด้วยมลพิษ สัตว์ป่าลดน้อย จนรัฐต้องเข้าปกป้องพื้นที่ในปี ค.ศ. 1892 สร้างเขตพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งก็คืออดิรอนแดรกส์ปาร์ค อันเป็นส่วนหนึ่งของ แบรนดอนปาร์คนั่นเอง
 
รายงานข่าวกล่าวว่า พื้นที่สวนป่านี้ เคยประกาศขายในปี 2012 ราคา 28 ล้านเหรียญสหรัฐ และลดลงมาเป็น 22.5 ล้านเหรียญ (765 ล้านบาท) ในปี 2014 ซึ่งที่สุดก็เป็นแจ็ค หม่า ที่เข้ามาซื้อพื้นที่นี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผ่านบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์ นิวแบรนด์ แอลแอลซี
 
พื้นที่อนุรักษ์ป่านี้ นับเป็นการลงทุนครั้งแรกในที่ดินนอกประเทศจีนของแจ็ค หม่า โดยวางแผนจะพัฒนาให้เป็นสวนป่าที่ไม่แสวงหากำไร ขณะที่ประธานกรรมการอนุรักษ์ธรรมชาติจีน และผู้ก่อตั้งมูลนิธิอนุรักษ์ธรรมชาติเสฉวน กล่าวว่า นายหม่า มีความสนใจในที่ดินนี้ เพราะสนใจในประเด็นการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของพื้นที่
 
จิม วิลคินสัน โฆษกประจำตัวของแจ็ค หม่า กล่าวใน วอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่า การปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นความสนใจแรกๆ ของแจ็ค หม่าเสมอ และการซื้อที่ดินผืนนี้ ก็สะท้อนความเชื่อของแจ็ค หม่า ว่า เราต่างอาศัยในโลก หายใจด้วยอากาศเดียวกัน ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ตลอดจนรักษาไว้ให้คงอยู่ต่อไป
 
และอาศัยความเป็นเจ้าของ แจ็ค หม่าได้ประกาศหยุดกิจการค้าพัฒนาหากำไรต่างๆ ในพื้นที่ อาทิ กิจการตัดไม้ และเพิ่มการลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อปกป้องผืนป่าแห่งนี้