เสี่ยวหมี่ ขโมยซีนซัมซุงเสียแล้ว ด้วยการเปิดตัวคู่หูแฟบเล็ต “Redmi Note 2 และ Redmi Note 2 Prime” วันเดียวกับที่ซัมซุงจัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟน Galaxy Note และ Galaxy S6 Edge แถมยังชิงเปิดตัวก่อนการเปิดตัวสมาร์ทโฟนของซัมซุงเสียด้วย
สิงหาคมกลายเป็นเดือนเดือดสำหรับตลาดสมาร์ทโฟนไปโดยปริยาย เพราะนอกจากซัมซุงที่มีเคยมีข่าวว่าจะหนีกระแสของไอโฟนในเดือนกันยายน มาชิงเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของตนเองก่อนตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่ก็ถูกเบอร์ 3 ของตลาดอย่างเสี่ยวหมี่ ชิงเปิดตัวแฟบเล็ตของทางค่ายไปก่อนในวันเดียวกัน
โดยรุ่นที่เสี่ยวหมี่เปิดตัวในวันนี้ คือ Redmi Note 2 ในราคา 799 หยวน และ Redmi Note 2 Prime ราคา 999 หยวน ซึ่งมาในโทนสีพาสเทลอย่าง เหลือง ฟ้า ชมพู รวมถึงสีคลาสสิกอย่างดำและขาวด้วย โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในจีนตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนั้น ทางฮิวโก บาร์รา (Hugo Barra) รองประธานฝ่ายอินเตอร์เนชันแนลของเสี่ยวหมี่ยังเผยเป็นนัยๆ ด้วยว่า บริษัทอาจเริ่มวางแผนส่งสมาร์ทโฟนจากเสี่ยวหมี่ไปตีตลาดสหรัฐอเมริกาในเร็วๆ นี้
คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Redmi Note 2 คือ การใช้โปรเซสเซอร์ 2.0GHz MediaTek (MTK) Helio X10 หน่วยความจำ 16 กิกะไบต์ แรม 2 กิกะไบต์ ส่วน Redmi Note 2 Prime นั้นใช้โปรเซสเซอร์ 2.2GHz chip หน่วยความจำ 32 กิกะไบต์ และแรม 2 กิกะไบต์ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอความละเอียดสูง 5.5 นิ้ว กล้องหน้า 5MP กล้องหลัง 13 MP แบตเตอรี่ 3060mAh และรองรับการ์ด microSD
นอกจากนั้น เสี่ยวหมี่ยังได้เผยโฉมอัปเดตของ MIUI 7 ซึ่งทางบริษัทระบุว่า จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลกในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ด้วย โดยในเวอร์ชัน 7 นี้จะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ให้ดีขึ้น รองรับเทคโนโลยี Face Recognition ที่ช่วยให้ระบุตัวบุคคลในภาพถ่ายทั้งแบบเดี่ยว และแบบถ่ายหมู่ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี 2 แฟบเล็ตที่เปิดตัวในคราวนี้จะมาพร้อม MIUI 6 เท่านั้น และค่อยไปอัปเดตเป็น MIUI 7 ในภายหลัง จะไม่มีการติดตั้ง MIUI 7 มาให้เลยแต่อย่างใด
นอกจากการเปิดตัวแฟบเล็ตใหม่แล้ว เสี่ยวหมี่ ยังเปิดตัว Mi Wi-Fi nano ในราคา 79 หยวนอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่า เสี่ยวหมี่ มีความพยายามในการขยายไลน์ของสินค้าที่บริษัทผลิตออกมามากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเคยผลิตทั้งเครื่องฟอกอากาศ อุปกรณ์ดิจิตอลสำหรับสวมใส่ สมาร์ททีวี มาจนถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องต่อสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตอย่างเราเตอร์ และฮอตสปอต ไว-ไฟ
ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000091954