ธุรกิจร้านกาแฟยังบูม! "อโรม่า" บุกร้านกาแฟอินดี้ ปั้นแบรนด์ "ชาวดอย"

ด้วยกระแสของธุรกิจร้านกาแฟยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะคนรุ่นใหม่มีความนิยมอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากขึ้น ทำให้ “อโรม่า กรุ๊ป” ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟคั่วบด และอุปกรณ์เครื่องชงกาแฟพลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย

สอดคล้องกับตลาดกาแฟคั่วบดที่ในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 3,600 ล้านบาท มีการเติบโต 25% รวมไปถึงตลาดเครื่องชงกาแฟที่ทีมูลค่า 300 ล้านบาท
ธุรกิจหลักของอโรม่าเองมีทั้ง “อโรม่า ช้อป” ที่เป็นร้านค้าจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟทั้งหมด รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ เป็นรูปแบบของ Supply Use
ภายหลังอโรม่าแตกไลน์สร้างแบรนด์ร้านกาแฟเป็นของตนเอง เพื่อเป็นปลายน้ำแก่วัตถุดิบ ได้แก่ แบรนด์ 94 coffee ที่จับเซ็กเมนต์ระดับพรีเมี่ยม ที่ปัจจุบันมี 20 สาขา และแบรนด์ชาวดอย ที่จับเซ็กเมนต์ระดับแมส ปัจจุบันมี 180 สาขา

สิ่งที่อโนม่าโฟกัสเป็นพิเศษในปีนี้ก็คือการขยายอโนม่า ช้อปที่เป็นรูปแบบของดีลเลอร์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 27 สาขา โดยเน้นขยายตามต่างจังหวัด เพราะในกรุงเทพฯ มีการแข่งขันที่สูงมาก เพราะต้องการขยายตลาดของคนต้องการเปิดธุรกิจร้านกาแฟเป็นของตนเอง

กิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร อโรม่ากรุ๊ป กล่าวว่า “ตลาดกาแฟคั่วบด และตลาดเครื่องชงกาแฟยังเติบโตอีกมาก ซึ่งเป็นการเติบโตเพราะธุรกิจกาแฟที่ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งอยู่ในตอนนี้ เพราะในช่วงเศรษฐกิจดี คนก็ต้องการลงทุนธุรกิจส่วนตัว แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนก็อยากหารายได้ด้วยธุรกิจเสริมเช่นกัน และมองร้านกาแฟเป็นธุรกิจต้นๆ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคก็เข้าร้านกาแฟมากขึ้นเช่นกัน แม้ไม่ได้กินกาแฟก็กินเครื่องดื่มอย่างอื่น เพราะสมัยนี้คนเข้าร้านกาแฟเพราะต้องการใช้สถานที่”

ส่วนอีกธุรกิจหนึ่งที่อโรม่าโฟกัสเป็นพิเศษก็คือร้านกาแฟ “ชาวดอย” ที่ปั้นในรูปแบบของการขายแฟรนไชส์ สำหรับคนที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ราคาของแฟรนไชส์เริ่มต้นตั้งแต่ 4 แสน- 2 ล้านบาท ปัจจุบันมีทัิงหมด 180 สาขา ตั้งเป้าในสิ้นปีจะมีทั้งหมด 200 สาขา

“ตอนแรกเรามีร้าน 94 coffee ซึ่งจับตลาดพรีเมี่ยม แต่หาสถานที่ค่อนข้างยาก และตอนนี้แบรนด์ต่างประเทศก็เข้ามาตีตลาดเยอะเหมือนกัน เราจึงเน้นปั้นแบรนด์ชาวดอยที่จับตลาดแมส สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า เราเริ่มมารุกหนักเมื่อ 2-3 ปี มีการรีโนเวทแต่ละร้านให้เป็นทิศทางเดียวกัน และเรามีอโรมาข้อปที่สามารถควบคุมคุณภาพได้”

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของอโรม่าส่วนใหญ่ยังคงเป็นซัพพลายให้กับร้านกาแฟ 90% และรายได้จากร้านกาแฟ 94 coffee และชาวดอย 10%
รายได้ในปีนี้ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% และภายใน 3 ปี จะมีรายได้ 2,500 ล้านบาท

 

“ตอนแรกเรามีร้าน 94 coffee ซึ่งจับตลาดพรีเมี่ยม แต่หาสถานที่ค่อนข้างยาก และตอนนี้แบรนด์ต่างประเทศก็เข้ามาตีตลาดเยอะเหมือนกัน เราจึงเน้นปั้นแบรนด์ชาวดอยที่จับตลาดแมส สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่า เราเริ่มมารุกหนักเมื่อ 2-3 ปี มีการรีโนเวทแต่ละร้านให้เป็นทิศทางเดียวกัน และเรามีอโรมาข้อปที่สามารถควบคุมคุณภาพได้”

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของอโรม่าส่วนใหญ่ยังคงเป็นซัพพลายให้กับร้านกาแฟ 90% และรายได้จากร้านกาแฟ 94 coffee และชาวดอย 10%
รายได้ในปีนี้ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% และภายใน 3 ปี จะมีรายได้ 2,500 ล้านบาท