จับตาเทรนด์กล้องมาแรง จากกล้อง “ฟรุ้งฟริ้ง” สู่ “ฮิปสเตอร์”

ใช่ว่าจะมีแค่ “ไอโฟน” เท่านั้นที่คนยอมเข้าคิวรอซื้อ กล้องถ่ายรูปสไตล์เรโทร อิงกระแสฮิปสเตอร์ จับกลุ่มสาวๆ นิยมถ่ายรูปก็เก๋ ๆ ห้อยคอก็เท่ สร้างปรากฏการณ์ ถึงขั้นยอมเข้าคิวกันแล้ว

ด้วยกระแสการถ่ายภาพแบบ “เซลฟี” ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในประเทศไทยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการถ่ายภาพ รวมไปถึงการใช้กล้องถ่ายรูป จากแต่เดิมที่หลายคนต้องมีกล้องถ่ายรูปคู่ใจเพื่อไว้เก็บภาพโดยเฉพาะ กลับถูกแทนที่ด้วย “สมาร์ทโฟน” เพราะถ่ายภาพแล้วแชร์ลงในโซเชียลมีเดียได้แบบเรียลไทม์ เรียกว่าถูกจริตคนไทยมากกว่าเดิม

ส่งผลให้กล้องถ่ายรูปแบบ “คอมแพกต์” หรือกล้องขนาดเล็ก เป็นกลุ่มแรกที่มีการหดตัวอย่างน่าใจหาย จึงเป็นโจทย์ใหญ่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจกล้องต้องแก้เกม เราจึงได้เห็นการเข้ามาของกล้องถ่ายรูปที่เจาะ “เซ็กเมนต์” หรือเจาะกลุ่มคนเฉพาะกลุ่มมากขึ้น

สอดคล้องกับตัวเลขใน 1-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องถ่ายรูปถือได้ว่าตกต่ำอย่างหนัก ทำให้กล้องดิจิตอลประเภทคอมแพกต์ถูกลืมไปจนแทบจะล่มสลาย ด้วยยอดขายที่ตกลงถึง 40% ต่อปี ในขณะที่กล้องประเภทดิจิตอล DSLR ก็ได้รับผลกระทบไม่ใช่น้อย ด้วยยอดขายปีนี้ที่ตกลงกว่า 40% เช่นกัน ในขณะที่กล้องดิจิตอลมิร์เรอร์เลสยังคงไปได้สวยด้วยยอดขายที่โตขึ้นกว่า 40-50% นั่นจึงเป็นสัญญาณว่า คนไทยยังนิยมถ่ายรูปจากกล้องดิจิตอลอยู่ เพียงแต่กล้องดิจิตอลที่จะอยู่รอดได้นั้น จะต้องเป็นกล้องที่สามารถตอบโจทย์และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคใหม่ได้

เริ่มจากการมาของ “กล้องฟรุ้งฟริ้ง” หรือที่ผู้ผลิตกล้อง Casio นำมาเจาะกลุ่มสาวๆ ที่รักการถ่ายเซลฟีโดยเฉพาะ เพราะมีรูปร่างลักษณะที่เล็ก กะทัดรัด มีสีสันที่โดนใจ ที่สำคัญมีฟังก์ชันปรับแต่งรูปที่ทำให้ภาพดูสวยออร่าขึ้นมา จึงเป็นที่มาของการเรียกกล้องฟรุ้งฟริ้ง และเป็นที่นิยมในกลุ่มพริตตี้ และเน็ตไอดอลอย่างมาก

ต่อมาในยุคที่กระแสที่คำว่า “ฮิปสเตอร์” ถูกเรียกกันทั่วบ้านทั่วเมือง และดูเหมือนว่าการใช้ชีวิตในวิถีของฮิปเตอร์นั้นจะมีอิทธิพลเข้าสู่ไลฟ์ไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างมาก ดังนั้นแบรนด์สินค้าต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหาร รวมไปถึงแบรนด์สินค้าของใช้ทั่วไป หันมาจับตลาดไลฟ์สไตล์ในแนวฮิปสเตอร์ โดยการคิดหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคฮิปสเตอร์นี้ให้มากขึ้น

กล้องถ่ายรูป ก็เช่นเดียวกัน หันมาจับตลาดกับไลฟ์สไตล์นี้ ใส่ดีไซน์ความอาร์ต และกลิ่นอายของแนวเรโทร หรือวินเทจเข้าไปหน่อย เพื่อให้ดูย้อนวัย เอาใจคนเล่นกล้อง ประกอบกับกระแสการมาของกล้องถ่ายรูปประเภท “มิร์เรอร์เลส” หรือกล้องที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ อยู่กึ่งกลางระหว่างความเล็กกะทัดรัดของกล้องคอมแพกต์ กับความเป็นมืออาชีพของกล้อง DSLR เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างสูงมากในขณะนี้

“ฟูจิ ฟิล์ม” กลับมาบูม ด้วยกล้องสไตล์วินเทจ

“ฟูจิ ฟิล์ม” ถือเป็นแบรนด์หนึ่งที่ปรับตัวได้ถูกจังหวะ ท่ามกลางการแข่งขันสูงทั้งกล้องมือถือสมาร์ทโฟน และกล้องดิจิตอลทั่วไป ฟูจิส่งกล้องดิจิตอลรุ่น X-A2 ซึ่งเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส ใส่ฟีเจอร์เด่น ถ่ายเซลฟีได้ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ด้วยดีไซน์และลักษณะกล้องเป็นแนวเรโทรสไตล์ เข้ายุคสมัยที่แฟชั่นวินเทจและฮิปสเตอร์กำลังมาแรง พกพาแล้วดูมีสไตล์ ทำให้กล้องรุ่นนี้ได้รับความสนใจ กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย พกพาสะดวกและทำให้ผู้ใช้กลายเป็นคนที่มีสไตล์มากยิ่งขึ้น และยังเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส ฟูจิยังได้ออกมาระบุว่า ด้วยกล้องรุ่นนี้ ทำให้ฟูจิก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 สามารถครองส่วนแบ่งตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส โดยมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 35% 

เมื่อจุดติดสร้างกระแสความนิยม จาก รุ่น X-A2 แล้ว ฟูจิไม่รอช้าส่งกล้องมิร์เรอร์เลสรุ่นใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟูจิดิจิตอลรุ่น X-T10 ที่ฟูจิตั้งใจจะใช้เป็นแฟลกชิปสำหรับปีนี้ โดยลักษณะของกล้องยังคงเน้นไปที่รูปแบบของกล้องแนววินเทจสไตล์ แต่เพิ่มฟังก์ชันและความหลากหลายของการใช้งานให้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ของความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการภาพที่สวยงามมีสไตล์ เพื่อนำไปโพสต์ลงในโชเชียลมีเดีย

ขณะเดียวกัน ฟูจิเพิ่มดีกรี เปิดเกมรุกการตลาดด้วยเช่นกัน หันมาเน้นเจาะกลุ่มผู้หญิง โดยการใช้ Influencer บนโลกออนไลน์ อย่างเน็ตไอดอลชื่อดัง ”พิมฐา” และได้คว้าตัว “แป้งโกะ” จินตนัดดา ลัมะกานนท์ นักร้อง-นักแสดง และเน็ตไอดอล มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงที่รักการถ่ายภาพ ฟูจิตั้งเป้าให้ X-T10 เป็นรุ่น “เรือธง” ทำให้ฟูจิได้มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปีนี้ ด้วยงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท

ฟูจิ ถึงกับออกมาฟันธงว่า ตลาดของกล้องมิร์เรอร์เลสได้นำหน้าตลาด DSLR ไปแล้ว ทั้งในด้านจำนวนตัว (unit) และมูลค่า (value) (ข้อมูลเมษายน 2558) สอดคล้องกับค่ายอย่างโอลิมปัสที่เผยว่า ปัจจุบันตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ทั้งหมดแบ่งเป็น กล้องมิร์เรอร์เลสมีสัดส่วนอยู่ที่ 60% และ กล้อง DSLR 40% จากปีก่อน กล้องมิร์เรอร์เลสมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% และกล้อง DSLR 60% นั่นจึงเป็นสัญญาณว่าตลาดของกล้องมิร์เรอร์เลสกำลังกลับมาสดใสและคึกครื้นอีกครั้ง ในขณะที่กล้อง DSLRอาจจะกำลังสูญหายไป

สร้างปรากฏการณ์คนต่อแถวซื้อกล้องดิจิตอล

งานนี้ฟูจิน่าจะมาถูกทางจริงๆ เพราะดูจากงาน BIG CAMERA 2015 จัดขึ้นวันที่ 1-6 กันยายน 2558 ผลปรากฏว่า มีคนมาเข้าแถวรอซื้อกล้องดิจิตอล X-A2 ของฟูจิเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา

ธนสิทธ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิ๊ก คาเมร่า จำกัด เผยว่า นับเป็นครั้งแรกของการจัดงาน BIG CAMERA และเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของวงการถ่ายภาพของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่มีคนมาเข้าคิวรอซื้อกล้องดิจิตอลประเภทมิร์เรอร์เลสจำนวนมาก ซึ่งการต่อคิวแบบนี้ หากไม่ใช่โอโฟนแล้วคงทำไม่ได้ แต่วันนี้ฟูจิสามารถทำได้ กับการทำให้กระแสกล้องกลับมาคึกคักอีกครั้ง

สิทธิเวช เศวตพัชร์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุธโส ผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฟูจิในประเทศไทย ที่มีคนมาเข้าแถวต่อคิวซื้อกล้องดิจิตอลจำนวนมาก รุ่นที่ขายดีที่สุดคือกล้องดิจิตอลรุ่น X-A2 นับตั้งแต่เปิดตัวมา 6 เดือนก็ขายดีมาตลอด และกระแสยังแรงไม่หยุด เฉพาะในงาน BIG CAMERA 2015 ฟูจิคาดว่าจะมียอดขายประมาณวันละ 200-300 ตัว เฉพาะวันแรกขายได้แล้ว 1,000 ตัว

สาเหตุที่กล้องดิจิตอล X-A2 ขายดีจนเป็นปรากฏการณ์นั้น สิทธิเวช มองว่า เป็นเพราะกล้องฟูจิรุ่น X-A2 เป็นกล้องที่ตอบโจทย์และเข้ากับไลฟ์ไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง นักเรียนนักศึกษาที่ชื่นชอบการถ่ายรูปและการเซลฟี ซึ่งกล้องรุ่นนี้จะใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้กล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ และด้วยดีไซน์ที่ออกมาเป็นกล้องแนววินเทจ จึงเหมาะกับวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตแบบมีสไตล์ เมื่อนำห้อยคอหรือพกพา ก็รู้สึกเท่แล้ว เรียกได้ว่าเราวาง positioning ได้ตรงใจกลุ่ม

โอลิมปัสลุยตลาดมิร์เรอร์เลส รับกระแสฮิปสเตอร์

ทางฟาก “โอลิมปัส” ถือเป็นแบรนด์กล้องในแนวเรโทรสไตล์รุ่นแรกๆ ที่มีดีไซน์และเน้นความวินเทจมาได้พักใหญ่ ในปีนี้โอลิมปัสได้ส่งกล้องมิร์เรอร์เลสในตระกูล OM-D รุ่น E-M10 Mark II เพื่อเป็นเรือธง รับกับกระแสการถ่ายรูปในแนวฮิปสเตอร์ฟีเวอร์ โดยเน้นฟังก์ชันใช้งานง่ายและรวดเร็ว รวมทั้งเน้นตกแต่งภาพแนวอาร์ต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการถ่ายภาพในบรรยากาศที่แปลกใหม่ เพื่อแชร์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมทั้งรูปทรงสไตล์เรโทร เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มที่เริ่มใช้กล้องมิร์เรอร์เลส ซึ่งในจำนวนนี้ กลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นกลุ่มที่น่าจับตา

สุชาดา ตั้งเลิศสัมพันธ์ ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ตลาดกล้องที่เหมาะสำหรับผู้หญิงจะเป็นเทรนด์ที่จะมาแรง เพราะผู้หญิงชอบถ่ายรูปและหันมาสนใจกล้องประเภทมิร์เรอร์เลสมากขึ้น เนื่องจากกล้องมิร์เรอร์เลสจะถ่ายภาพได้สวยและภาพที่ได้มีคุณภาพสูงกว่ากล้องมือถือ พกพาสะดวก มีรูปทรงน่ารัก และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในแนวฮิปเตอร์ของคนรุ่นใหม่ 

ชินโช อิเคดะ กรรมการบริษัทและผู้จัดการ ฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ภาพรวมของตลาดกล้องมิร์เรอร์เลสในปีนี้นั้น คาดว่าจะมียอดจำหน่าย 150,000 เครื่อง โอลิมปัสคาดว่าจะรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ในปีนี้ไว้ที่ 25% สำหรับงบประมาณในการทำของกล้อง E-M10 Mark II นั้น โอลิมปัสวางงบไว้ที่ 50 ล้านบาท จากงบการตลาดรวมทั้งปี 150 ล้านบาท