เฟซบุ๊ก หวังดึงเงินจากสื่อทีวี

เฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดเวทีแนะนำเครื่องมือเพื่อนักโฆษณา หวังดึงเงินจากบริษัทผู้ลงโฆษณาบนสื่อทีวีให้หันมาสนใจสื่อใหม่เช่นโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กผ่านตัวเลขผู้ใช้งานล่าสุด “1.5 พันล้านคน”
 
ไม่เพียงแต่กลายเป็นแพลตฟอร์มเนื้อหอมที่นักโฆษณาหันมาให้ความสนใจ เพียงแค่ 7 เดือนก็มีนักโฆษณาเพิ่มขึ้นถึง 5 แสนราย จากเดิม 2 ล้านราย เป็น 2.5 ราย ที่มีการทำกิจกรรมบนเฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เฟซบุ๊กออกตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีการนำยอดการรับชมโฆษณาของเฟซบุ๊กมาเปรียบเทียบกับสื่อทีวีอย่างจริงจัง หวังดึงเงินจากนักโฆษณาบนสื่อทีวีให้หันมาทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มี “เฟซบุ๊ก” เป็นนัมเบอร์วันอยู่
 
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในงาน “New York City’s 12th Advertising Week” ซึ่งมีบริษัทโฆษณาชั้นนำต่างๆ มารวมตัวกันมากมาย โดยทีมผู้บริหารของเฟซบุ๊กได้นำข้อมูลมาดึงดูดใจนักโฆษณามากมาย เช่น แนวโน้มการใช้จ่ายเงินกับคลิปโฆษณาบนโลกดิจิตอลนั้นมีการเติบโตสูง โดยมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี ค.ศ.2019 หรือเพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีในช่วงเวลาเดียวกับกลับพบว่า มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ เป็น 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น (อ้างอิงจาก eMarketer)
 
นอกจากนี้ สำหรับสื่อทีวี นักโฆษณาสามารถซื้อเวลาโดยพิจารณาจากจำนวนผู้รับชมในแต่ละช่วง ขณะที่บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก ระบุว่า โซเชียลมีเดียมีจุดเด่นมากกว่าตรงที่สามารถระบุได้ถึงความนิยมพิเศษ เช่น ระบบสามารถชี้ชัดได้เลยว่า ผู้หญิงอายุระหว่าง 18-35 ปี นิยมเว็บไซต์ใดเป็นพิเศษ ซึ่งในจุดนี้สื่อทีวีไม่สามารถทำได้
 
หันมาในเรื่องการลงโฆษณาที่เน้นความจงรักภักดีในแบรนด์ นักลงโฆษณาก็สามารถใช้สื่อออนไลน์ในการทำโพลสอบถามความคิดเห็นต่อผู้บริโภคได้เลย
 
ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของชาวมิลเลนเนียล (Millennials) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ เฟซบุ๊กก็ระบุว่า คนกลุ่มนี้มีพฤติกรรมอยู่กับโทรศัพท์มากกว่ารับชมรายการต่างๆ ทางโทรทัศน์แล้วด้วย
 
“เราต้องการก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มที่มีความสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ” คาโรลีน อีเวอร์สัน รองประธานกรรมการเฟซบุ๊กฝ่าย Global Marketing Solutions กล่าวปิดท้าย