ก้าวไปอีกขึ้น เมื่อมีรายงานจากสื่อหลายสำนักในแวดวงเทคโนโลยีว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) มีแผนจะเปิดตัวฟีเจอร์การแชร์ภาพแบบใหม่ในชื่อ “โฟโต้ เมจิก” (Photo Magic) ที่สามารถล้วงลูกเข้ามาดูภาพถ่ายในสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ และสามารถวิเคราะห์ใบหน้าของบุคคลในภาพถ่ายได้ว่าเป็นใครบ้าง แถมด้วยความสามารถในการแจ้งเตือนเจ้าของเครื่องว่าน่าจะส่งภาพนี้ไปให้เพื่อนๆ ผ่านโปรแกรม Facebook Messenger นะ!!!!
อาจกล่าวได้ว่า เฟซบุ๊กเป็นโซเชียลมีเดียที่เติบโตอย่างสูง และกล้าหาญในการบอกกล่าวเรื่องผลประกอบการ และทิศทางการลงทุนของบริษัทต่อนักลงทุนมาโดยตลอด แถมในเดือนที่ผ่านมา บริษัทยังได้เผยข้อมูลสำคัญ นั่นก็คือ มีการส่งภาพถ่ายผ่านแอปพลิเคชันแมสเซนเจอร์ (Messenger) บริการส่งข้อความของเฟซบุ๊กแล้วถึง 9.5 พันล้านภาพ จึงเชื่อว่า หากเปิดใช้ฟีเจอร์โฟโต้เมจิกนี้จะทำให้การส่งภาพถ่ายผ่านแมสเซนเจอร์ทำได้ง่ายขึ้น แถมยังเป็นการส่งภาพที่เป็นส่วนตัวด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำงานได้ต้องได้รับคำอนุญาตให้สามารถเข้าถึงแกลเลอรีภาพจากเจ้าของเครื่องก่อน และจะไม่มีสิทธิอัปโหลดภาพโดยอัตโนมัติ แต่จะสามารถใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ใบหน้าภายในภาพโดยอิงจากภาพใบหน้าเพื่อนที่อยู่ในโปรไฟล์ของเจ้าของเครื่องในเฟซบุ๊กเท่านั้น
เมื่อโฟโต้ เมจิกพบภาพถ่ายใบหน้าที่เหมือนกัน มันจะแจ้งเตือนให้คุณส่งภาพนั้นไปให้เพื่อน ซึ่งกระบวนการส่งสามารถทำได้โดยตรงผ่านการแจ้งเตือนนั้น ผู้ใช้ไม่ต้องเข้าไปเปิดแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก หรือแมสเซนเจอร์เพื่อส่งรูปอีกแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี ทาง BuzzFeed รายงานว่า เฟซบุ๊กก็มีการเตรียมการเรื่องการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภาพถ่ายด้วยเช่นกัน เช่น อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถปิดส่วนการแจ้งเตือนได้ มิเช่นนั้นอาจมีการแจ้งเตือนดังขึ้นตลอดเวลา และทำให้ฟีเจอร์โฟโต้ เมจิกกลายเป็นฟีเจอร์ที่น่ารำคาญไปในที่สุด
รายงานยังระบุด้วยว่า ตอนนี้ฟีเจอร์ Photo Magic ได้เปิดทดลองใช้แล้ว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กเฉพาะระบบแอนดรอยด์ในออสเตรเลียจะได้ทดลองใช้บริการนี้กันก่อนใคร ส่วนการสแกนภาพถ่ายบนเครื่องนั้นจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการถ่ายภาพ ส่วนผู้ใช้ในระบบ iOS คาดว่าจะได้ใช้ในไม่ช้า แต่การสแกนภาพภ่ายบน iOS จะเกิดขึ้นได้น้อยครั้งกว่าแอนดรอยด์
ทั้งนี้ รายงานจาก The Verge ระบุด้วยว่า ฟีเจอร์ใหม่อย่างโฟโต้ เมจิกนี้เป็นการพัฒนาโดยทีมงานแมสเซนเจอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพัฒนาแอป Moments นั่นเอง การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่นี้จึงแสดงให้เห็นว่า แผนของเฟซบุ๊กในการนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ใบหน้ามาใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมได้เกิดขึ้นแล้วผ่านแอปต่าง ๆ ที่บริษัทพัฒนาขึ้น และคาดว่าจะมีผลต่อวงการเทคโนโลยีในอนาคตอย่างมากด้วย
