มาแล้ว! เนสเพรสโซ ได้ฤกษ์ทำตลาดไทย เปิดบูทีคช้อป 17 ธ.ค.ที่สยามพารากอน

หลังจากปล่อยให้คนไทยบินไปซื้อเนสเพรสโซ ทั้งตัวเครื่องทำกาแฟ และแคปซูล ในต่างประเทศ แถมยังหอบหิ้วมาเปิดขายกันกระหึ่มบนออนไลน์มาพักใหญ่  ในที่สุดเนสเพรสโซ ตัดสินใจเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ  เมื่อประเมินแล้วว่า โอกาสที่ตลาดกาแฟพรีเมียมยังเติบโตได้อีกมาก จากการเติบโตของชนชั้นกลาง และความนิยมบริโภคกาแฟของคนไทย 
 
การมาไทยในครั้งนี้  ส่งผลให้ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อเครื่องทำกาแฟ และแคปซูล (เนสเพรสโซ จะเรียกว่า กรองครู Grand Cru) ผ่านทางช่องทาง เว็บไซท์  โทรสั่งผ่านคอลเซ็นเตอร์ แอปพลิเคชั่น และเนสเพรสโซ บูติก(Nespresso Boutique) ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 17 ธันวาคม ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน  
 
เมื่อลูกค้าสั่งซื้อผ่านช่องทางดังกล่าวแล้ว  เนสเพรสโซจะจัดส่งสินค้าให้ในวันรุ่งขึ้น ตามเวลาและสถานที่ ที่ลูกค้ากำหนด โดยจะจัดส่งฟรี เมื่อมีการสั่งซื้อ 100 แคปซูล หรือ 3,000 บาท ขึ้นไป ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะจัดส่งในวันรุ่งขึ้น  ส่วนต่างจังหวัดจะใช้เวลา 2-3 วัน 
 
การขายผ่านช่องทางดังกล่าว ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดสำคัญของเนสเพรสโซ ที่จะไม่วางขายเครื่องทำกาแฟ และแคปซูลในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านค้าทั่วไป เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อยาก จะได้รู้สึกถึงความพิเศษ และแตกต่าง  แต่ต้องดูว่านโยบายนี้จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากเนสเพรสโซต้องการขยายตลาดให้มากขึ้น 
 
ที่สำคัญราคาขายแคปซูลในไทย  ซึ่งถือเป็นโจทย์สำคัญ หากตั้งราคาสูงโอกาสจะทำตลาดย่อมเป็นเรื่องยาก เพราะไหนจะต้องสู้กับคู่แข่งกาแฟสด และยังมีร้านค้าออนไลน์ที่หิ้วมาขาย เนสเพรสโซจึงได้เคาะราคาขายในไทยเฉลี่ยแคปซูลละ 28 บาท  หรือ 280 บาท ต่อ1 หลอด (1 หลอดมี 10 แคปซูล)  เรียกว่าราคาไม่ต่างจากที่หิ้วมาเปิดในออนไลน์  ซึ่งตั้งราคาขายตั้งแต่ 2400 – 300 บาท 
 
นอกจากนี้เนสเพรสโซ จะนำเรื่องของบริการมาเป็นจุดขาย เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนจากที่เคยซื้อเครื่องหิ้ว หันมาสั่งซื้อจากเนสเพรสโซโดยตรง  โดยลูกค้าที่ซื้อเครื่องทำกาแฟจากเนสเพรสโซโจะได้เป็นสมาชิก “เนสเพรสโซคลับ Nespresso Club” จะได้รับสิทธิพิเศษ เช่น หากเครื่องมีปัญหาไปรับและส่งเครื่องถึงบ้านท่านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และมีบริการให้เครื่องสำรองใช้ชั่วคราวในระหว่างซ่อม 
 
ต้องถือว่าเนสเพรสโซ ทำการบ้านมาอย่างดี ใช้ทั้งกลยุทธ์ราคา และช่องทางขาย ซึ่งเนสเพรสโซ อาจถือคติว่า มาช้าแต่ชัวร์น่าจะดีกว่า 
 
โดยเนสเพรสโซ ได้จัดตั้งสำนักงาน แต่งตั้งผู้จัดการประจำประเทศไทย และแบรนด์เมเนเจอร์ เพื่อดูแลตลาดในประเทศไทย ซึ่งไทยนั้น ที่ถือเป็นประเทศที่ 63 ของโลก และเป็นประเทศ ที่มีเนสเพรสโซ บูตีก แห่งที่  454 ของโลก