ในการต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2559 หรือปีวอกทั้งที เรื่องเงินทองเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากที่เดียวที่หลายคนสนใจ และต้องการศึกษาจากกูรูเพื่อเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตในวันข้างหน้า เพราะเรื่องเงินทองได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของคนเราอยู่ทุกช่วงเวลาแล้วในขณะนี้ ต้องสร้างความพร้อมตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อความมั่นคงมั่งคั่งในปีวอก
ดังนั้นบริการ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย จึงได้จัดกิจกรรมสัมมนา “ถอดรหัสรวยปีวอก” เพื่อฟังคำแนะนำเรื่องควรรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ ความเสี่ยง เรื่องเงินทองที่ควรทำในปีหน้า 2559 นี้ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยบวก ปัจจัยลบ สภาพแวดล้อมต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพื่อเป็นคนใช้เงินอย่างชาญฉลาด ทำให้การเตรียมเรื่องเงินทองจะไม่ใช่เรื่องเครียด หรือยุ่งยากอีกต่อไป แต่ต้องทำอย่างจริงจัง
จากงานสัมมนาดังกล่าวสรุปใจความได้ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2559 ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นไปในลักษณะ “ดีขึ้นแบบระมัดระวัง” โดยคาดว่าดัชนีมวลรวมในประเทศ หรือ GDP จะอยู่ที่ 3% สำหรับแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้น มีแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ ดังนั้น ในปลายปี แต่ละคนจึงควรวางแผนการใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งประมาณการเงินรายได้ ค่าใช้จ่าย เงินสำรอง เงินลงทุน และเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ และนำมาวางแผนทดลองทำตามแผนไปก่อน 3 เดือน หลังจากนั้นควรมีการทบทวนแผนว่าทำได้ตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะระหว่างทางในการทำตามแผนจะมีหลายสิ่งๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น มีรายได้เสริมเพิ่ม เจ็บป่วย เป็นต้น
มาดูคำแนะนำของการบริหารการเงินจาก K-Expert ที่จะเปลี่ยนชีวิตการเงินของคุณให้สดใสมากขึ้น
1) เงินออม บางคนที่ไม่สามารถออมเงินได้สักที เพราะไม่มีวินัยในการออม ชอบคิดว่าใช้ก่อน แล้วเหลือค่อยเก็บ แต่ต้องเปลี่ยนคติเสียใหม่ด้วย “ออมก่อนใช้” ใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ เพื่อนำเงินไปฝากในบัญชีเงินฝากประจำหรือลงทุนในกองทุนรวมให้เราอย่างสม่ำเสมอทุกๆ เดือน ซึ่งจะช่วยให้มีวินัยการออมเงินอย่างอัตโนมัติ
ส่วนใหญ่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ จะเป็นการเน้นที่เงินฝากระยะยาว มี 2 รูปแบบ คือ “บัญชีเงินฝากพิเศษ” คือ “เงินฝากสำหรับผู้สูงอายุ” ที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้น เพราะตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร ให้สิทธิ์ยกเว้นภาษีสำหรับผู้ฝากที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และมีดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับดอกเบี้ย
นอกจากนี้อีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้ คือ ความคุ้มครองเงินฝากที่เดิมเคยคุ้มครองเต็มจำนวนเริ่มปรับลดลงมาอยู่ที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท และได้ครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 หลังจากนั้นจะลดลงเหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท จนถึง 10 สิงหาคม 2559 และไม่เกิน 1 ล้านบาทตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2559
2) เงินลงทุนใน LTF/RMF นอกจากการออมเงินแล้ว รายได้จากการลงทุนก็เป็นการเสริมรายได้อย่างหนึ่ง ซึ่งหลังจากที่เราออมเงินแล้ว ก็แปรเงินออมนั้นให้กลายเป็นเงินทุน ยึดคติ “ลงทุนน้อยๆ ลงทุนต่อเนื่อง” ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยให้เงินเก็บที่มีเพิ่มมูลค่าได้เร็วขึ้นกว่าอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับการลงทุนที่เป็นทางเลือกเหมาะกับวัยเริ่มต้นทำงานหรือคนที่อยากเริ่มต้นลงทุน คือ กองทุนรวม หรือการทำประกันแบบเงินออม เพราะยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป และผลตอบแทนในส่วนของกำไรส่วนเกินมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษี ควรลงทุนในกองทุนรวมเป็นรายเดือนเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการลงทุน และยังเป็นการช่วยเฉลี่ยต้นทุนที่ดี
3) เงินกู้ / สินเชื่อ ในกรณีที่ต้องซื้อของขวัญชิ้นโตให้กับชีวิต เช่น บ้าน หรือรถ ก็จงใช้ชีวิตการเป็นหนี้อย่าง “มีสติ” ต้องประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเอง การเปรียบเทียบดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกกับแบบอัตราคงที่
เมื่อดูจากทิศทางดอกเบี้ยในปี 2559 ที่อาจจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1.5% ต่อเนื่องตลอดปี ผู้ที่กำลังจะขอสินเชื่อใหม่หรือ Refinance แนะนำให้เลือกสินเชื่อที่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่
นอกจากนี้ ข่าวดีสำหรับคนที่มีหนี้ผ่อนบ้าน คือ มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ที่ทำให้คนที่ซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทสามารถนำเอา 20% ของมูลค่าที่อยู่อาศัย มายกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นเวลา 5 ปี โดยให้มีผลจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559
แต่ถ้าใครที่ไม่มีความมั่นใจในการวางแผนการเงินให้ตัวเอง ลองมองหากูรูผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำอย่างเต็มที่ ซึ่งทางธนาคารกสิกรไทยพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านที่ปรึกษาทางด้านการเงินให้กับทุกคน โดยได้เปิด K-Expert Center ศูนย์บริการให้คำปรึกษาด้านการเงินครบวงจร บนชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์ ที่เปิดให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อให้คำปรึกษาเจาะลึกเป็นรายบุคคล ตลอดจนเปิดพื้นที่ให้ได้เพิ่มพูนทักษะการเงินที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยในทุกระดับ
K-Expert Center ตั้งอยู่บนชั้น 2 อาคารจามจุรีสแควร์ เปิดให้บริการทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ประกอบด้วยพื้นที่ให้บริการ 3 ส่วน ได้แก่
– ห้องเรียนรู้สู่ความสำเร็จ พื้นที่จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปด้านการเงินโดยทีม K-Expert และผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาร่วมให้ข้อมูลและความรู้ โดยเวิร์คชอปดังกล่าวจะจัดตลอดทั้งปี
– มุมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ พื้นที่ให้บริการด้านคำปรึกษารายบุคคล โดยทีม K-Expert ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและนักวางแผนการเงินมืออาชีพที่ผ่านการรับรอง Certified Financial Planner เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น พร้อมช่วยคิด ช่วยวางแผน ร่วมกับผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้แผนการบริหารจัดการการเงินที่เหมาะสมกับแต่ละคน
– โซนเรียนรู้ด้วยตัวเอง พื้นที่เรียนรู้เรื่องเงินทองด้วยตัวเองในบรรยากาศผ่อนคลาย เพียบพร้อมด้วยข้อมูล เครื่องมือทางการเงินในรูปแบบแอพพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน
ในวันจันทร์-ศุกร์ เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 20.00 น. และวันเสาร์ – วันอาทิตย์ เปิดให้บริการเวลา 10.00 – 19.00 น. และสามารถนัดหมายเพื่อเข้ารับคำปรึกษา และติดตามข้อมูลการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปได้ที่ www.askkbank.com/k-expert