แอปเปิล (Apple) ประกาศปฏิเสธว่าไม่ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “Move to Android” เพื่อให้ผู้ใช้ไอโฟนย้ายค่ายไปใช้งานอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ง่ายขึ้นตามข่าวลือ แต่ยังปิดปากเงียบกรณีสื่อจีนรายงานว่าไอโฟน 4 นิ้วรุ่นใหม่ที่แอปเปิลจะเปิดตัวในปีนี้อาจมีชื่อเรียกว่า “iPhone 5e”
สื่อออนไลน์จีนระบุว่า “iPhone 5e” จะเป็นชื่อเรียกไอโฟนรุ่นใหม่ขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ที่เชื่อกันว่าแอปเปิลจะเปิดตัวเพื่อจำหน่ายแทน iPhone 5s รุ่นปี 2013 โดยคาดว่าจะเป็นไอโฟนรุ่นหน้าจอกระทัดรัดที่ถูกจัดเต็มคุณสมบัติใหม่ครบเครื่อง
รายงานนี้ถือว่าเป็นอีกกระแสข่าวที่แตกต่างไปจากกระแสหลัก ซึ่งระบุว่า แอปเปิลจะคลอด “iPhone 6c” รวมถึง “iPhone 7c” ต่อเนื่องไปสำหรับรุ่น 4 นิ้ว อย่างไรก็ตาม สื่อจีนชี้ว่า “iPhone 5e” นั้นสื่อความหมายของคำว่า “e” ในฐานะ “enhanced” หรือการพัฒนาให้ดีขึ้น
สื่อจีนยังระบุด้วยว่า iPhone 5e นั้นเริ่มต้นการผลิตอย่างเต็มตัวแล้วที่โรงงานฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้ ด้วยราคาราว 500 เหรียญสหรัฐ โดยจะมีจุดยืนเป็นไอโฟนระดับกลางระหว่างรุ่นท็อป และรุ่น iPhone 5s
แหล่งข่าวจีน ระบุว่า iPhone 5e จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล A8 และ RAM ขนาด 1GB หน่วยความจำ 16/64GB คาดว่า iPhone 5e จะรองรับบริการจ่ายเงิน Apple Pay และบริการโทรศัพท์ผ่านเน็ตเร็วสูงหรือ voice over LTE
ปัดไม่ทำแอป Move to Android
แม้จะไม่ออกมาตอบรับ หรือปฏิเสธข่าว iPhone 5e แต่ประชาสัมพันธ์ของแอปเปิลประกาศปฏิเสธข่าวเรื่องแอปพลิเคชัน Move to Android ซึ่งสื่ออังกฤษอย่างเทเลกราฟ (Telegraph) ระบุว่า แอปเปิลตกลงสร้างเครื่องมือเพื่อให้ผู้ใช้ไอโฟนย้ายไปใช้งานอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นผลจากแรงผลักดันจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสหภาพยุโรป
ก่อนหน้านี้ เทเลกราฟ ระบุว่า แอปเปิลตกลงจะพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้ผู้ใช้โอนย้ายข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ เพลง ภาพ รวมถึงข้อมูลอื่นจากไอโฟนไปยังอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ประชาสัมพันธ์ของแอปเปิล ระบุว่า ไม่เป็นความจริง โดยบริษัทจะยังให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคเลือกใช้ไอโฟนต่อไป
การเปิดเผยครั้งนี้ถูกรายงานโดยสื่อออนไลน์อย่างบัซฟีดนิวส์ (BuzzFeed News) โดยที่ผ่านมา แอปเปิลเคยเปิดตัวแอปพลิเคชันชื่อ “Move to iOS” เมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้ผู้บริโภคย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์แอนดรอยด์มายังไอโฟนได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แม้ว่าผู้ใช้แอนดรอยด์จำนวนไม่น้อยจะเปลี่ยนมาใช้ไอโฟนก็ตาม
ข้อมูลจากแอปเปิลระบุว่า ราว 30% ของผู้ซื้อไอโฟนช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้วเคยเป็นผู้ใช้แอนดรอยด์มาก่อน สถิตินี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากจนอาจมีนัยสำคัญอื่นตามมาในอนาคต
