ผลจากมูลค่าหุ้นที่พุ่งกระฉูด มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ซีอีโอผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กกลายเป็นบุคคลที่ได้ชื่อว่าร่ำรวยที่สุดอันดับ 6 ของโลกเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โดยหนุ่มมาร์ก ในวัย 31 ปี มีมูลค่าทรัพย์สินทะลุ 4.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐไปแล้วเรียบร้อย
ภาวะหุ้นเฟซบุ๊กที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ทำให้ซีอีโอเฟซบุ๊กมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 6 พันล้านเหรียญสหรัฐในวันเดียว (ราว 2.1 แสนล้านบาท) โดยมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากกว่า 4.75 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท แซงหน้าพี่น้องชาร์ลส์ และเดวิด โคช (Charles and David Koch) ซีอีโอแห่งอาณาจักร Koch Industries ผู้นำด้านเคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมน้ำมันที่มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 4.59 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลของดัชนี Bloomberg Billionaires Index
ภาวะหุ้นพุ่งของเฟซบุ๊กนี้ เกิดขึ้นหลังจากการประกาศยอดรายรับเพิ่มขึ้น 52% แตะระดับ 5.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ บนกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่ระบุว่า ผู้ใช้มากกว่า 1.59 พันล้านคนเข้าสู่บริการเฟซบุ๊กทุกเดือน ทั้งหมดเอื้ออำนวยให้ มาร์ก มีทรัพย์สินเหนือกว่าพี่น้องตระกูลโคช ที่มีมูลค่าทรัพย์สินลดลงตามภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ
สำหรับ 5 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยกว่า มาร์ก ส่วนใหญ่ยังอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น บิล เกตส์ (Bill Gates) ที่นั่งแชมป์บุคคลผู้ร่ำรวยอันดับ 1 ของโลกหลายสมัย อมันซิโอ ออร์เตกา (Amancio Ortega) เจ้าของแบรนด์ ZARA วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ (Warren Buffett) นักลงทุนมืออาชีพ เจฟ เบโซส (Jeff Bezos) เจ้าของ Amazon และคาร์ลอส สลิม (Carlos Slim) วิศวกรชาวแม็กซิกัน
อีกสถิติที่น่าสนใจ คือ ซีอีโอเฟซบุ๊กเป็น 1 ใน 7 ของมหาเศรษฐีในกลุ่มท็อป 100 ที่มีทรัพย์สินงอกเงยในปีนี้ โดยส่วนใหญ่พบพิษเศรษฐกิจจนทำให้มูลค่าหุ้นกิจการที่ถือในมือมีมูลค่าลดน้อยลงไป
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟซบุ๊ก ล่าสุด ซีอีโอมาร์ก ยืนยันว่า เฟซบุ๊กจะเปิดทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถกดแสดงความรู้สึกได้นอกเหนือจากปุ่ม Like เช่น ชอบ รัก ตกใจ โกรธ หรือเสียใจ โดยจะขยายบริการรีแอ็กชันส์ (Reactions) ซึ่งเฟซบุ๊กเปิดทดสอบมานานกว่า 2-3 เดือน ให้ผู้ใช้ในอเมริกาทุกคนสามารถร่วมแสดงความรู้สึกได้ในอีกไมกี่อาทิตย์ที่จะถึงนี้ ก่อนจะขยายพื้นที่ให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้คลิกบ้าง