เรื่องโดย ดร.ธเนศ ศิริกิจ
ในปี 2016 ธุรกิจจะต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายนอก (External Factors) และปัจจัยภายใน (Internal Factors) อยากให้ธุรกิจต่างๆลองมองดูว่าประเด็นต่างๆเหล่านี้ ท่านได้ทำสิ่งเหล่านี้บ้างแล้วหรือยัง
1.สร้างจุดยืนและลักษณะเฉพาะทางการขายสินค้า (Unique Selling Point)
ในการทำการตลาด ท่านต้องสร้างสิ่งที่เป็นตัวตนและยากที่จะลอกเลียนแบบ การสร้างสิ่งที่เรียกว่า “สร้างความแตกต่าง (Differentiate)”เป็นสิ่งที่ดี ต้องแตกต่างและลูกค้าต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านต้องการ ซึ่งนอกจากแตกต่างแล้ว ยังต้องเป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง ดังนั้นธุรกิจที่ผลิตสินค้าต้องสร้างสินค้าที่ไม่ใช่แค่แตกต่างเพียงอย่างเดียว ยังต้องเกิด Unique ด้วย คือแตกต่างและต้องมีลักษณะเฉพาะด้วย
2.มุมมองลูกค้าภายใน (Internal Customer Focus)
ปี 2016 นอกจากการสร้างรายได้ กำไรแล้ว ควรจะเห็นความสำคัญในเรื่องของแรงงาน บุคลากรที่เป็นส่วนผลักดันให้การบริหารประสบความสำเร็จ เพราะยอดขายรายได้ของบริษัทเกิดจากบุคลากรเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นองค์กรควรให้ความสำคัญกับบุคลากรมากขึ้น หรือมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าเป็นฝีมือแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ จะเกิดการหมุนเวียนแรงงานเกิดขึ้นในแรงงานที่เป็นทักษะเฉพาะ
ดังนั้นองค์กรหรือธุรกิจนอกจากจะมองลูกค้าภายนอก (External Customer) แล้ว ยังไม่เพียงพอ จะต้องออกแบบในการรักษาลูกค้าภายใน (Internal Customer) ไว้ให้ได้ ส่วนใหญ่
แนวทางที่ใช้ในการรักษาบุคลากรคือ 3R
R = Reward การให้รางวัล จูงใจสำหรับผู้ที่มีผลงานดี
R = Recognition การกล่าวถึงหรือชื่นชมเพื่อให้รับรู้ต่อที่สาธารณะ เช่น กล่าวชื่นชม ในการทำดี
R = Remove Barrier ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขอุปสรรคที่เกิดขึ้น โดยไม่ปล่อยปัญหาให้ผ่านไป ที่สำคัญคือไม่ปล่อยให้พนักงานแก้ไขปัญหาโดยลำพัง จะต้องคอยเป็นที่ปรึกษาและขจัดปัญหาให้พวกเขา
3.การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ (Business Network)
ในโลกธุรกิจปัจจุบันมีการแข่งขั้นสูง (Speed) และความต้องการเพิ่มขึ้น (More Demand) บางครั้งการมีเครือข่าย (Business Network) จะสร้างอำนาจในการต่อรองทางธุรกิจได้มากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การสร้างอำนาจทางธุรกิจ (Power Strategy) จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเป็นการต่อยอดทางธุรกิจและทำให้ประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันธุรกิจใดมี connection มากๆ จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น
4.การตลาดบริการ(Service Marketing)
คำว่า Service Marketing หรือการตลาดบริการ ได้ถูกกล่าวถึงมาเมื่อหลายปีก่อน แต่ในปี 2559 นี้ เป็นสิ่งที่ธุรกิจควรให้น้ำหนักมาก ทั้ง Service และ Marketing เพราะในยุคปัจจุบัน 4P : Product, Price, Promotion, Process สามารถทำการแข่งขันได้ แต่ในเรื่องของการบริการนั้น นักการตลาดจะต้องเข้าใจ โดยเฉพาะการทำการตลาดในเรื่องของความรู้สึกหรือ Emotional เพราะบางครั้งผู้บิโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าเป็นเพราะคนหรือ People กลายเป็นผู้บริโภคใช้อารมณ์ ความรู้สึกในการตัดสินใจ
5.ความหลากหลาย (Product Variety)
การตลาดนั้นนอกจากธุรกิจจะผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ นอกจากจุดเด่นของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของตนแล้ว อย่าลืมทางเลือก (Choice)สำหรับลูกค้า เพราะการทำธุรกิจ คุณต้องตอบสนองและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนั้นคำว่า ทางเลือก จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะคุณไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด เพราะพฤติกรรม หรือความต้องการของผู้บริโภคแต่ละรายไม่เหมือนกัน จึงต้องมีความหลากหลายของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า เช่น ร้านอาหาร ต้องมีเมนูเด่น แต่ก็ต้องมีอาหารที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือก ธุรกิจต้องไม่มุ่งเพียงลูกค้าบางกลุ่ม แต่ต้องปรับตัวให้เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม จะต้องมีการขยายตลาดให้มากขึ้น เพิ่ม Target อื่นด้วย
บทความโดย : ดร.ธเนศ ศิริกิจ : ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาการวางแผนกลยุทธ์การตลาด /อาจารย์ ในระดับปริญญาโท หลายสถาบัน , นักวิชาการ และวิทยากรทั้งภาครัฐและเอกชน
Email : s_thaneth @yahoo.com