เมื่อ “โค้ก” ทุ่ม 500 ล้าน สลัดภาพ “Open Happiness” สู่ “Taste the Feeling”

ถือเป็นการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ในรอบ 7 ปี ของ “โค้ก” เมื่อมีการเปลี่ยน Tagline ของแบรนด์ใหม่ที่เป็นแคมเปญระดับโลก กับ “Taste the Feeling” หรือ ดื่มรสชาติของความรู้สึก หลังจากที่ได้ใช้แคมเปญ “Open Happiness” มายาวนานเป็นเวลา 7 ปี
 
Taste the Feeling ที่โค้กต้องการสื่อสารถึงผู้บริโภคนั้น ต้องการให้ภาพกว้างมากกว่าเรื่องของความสุขของ Open Happiness แต่กลับมาที่เรื่องของ “รสชาติ” ของโค้ก ที่เป็นส่วนสำคัญของแบรนด์ ที่โค้กได้มองว่าให้รสชาติเป็นจุดเริ่มของความสุขทุกอย่าง เป็นเรื่องของช่วงเวลาที่สร้างความสุขด้วย เหมือนดื่มโค้ก ก็ได้ความสุข 
 
ซึ่งใจความที่สำคัญก็คือต้องการเพิ่มความถี่ในการดื่มโค้กนั่นเอง เพราะเหมือนเป็นการกระตุ้นด้วยอีโมชันนอลให้ผู้บริโภครู้สึกอยากดื่มมากขึ้น
 
ภายใต้แคมเปญนี้ยังมาพร้อมกับกลยุทธ์ใหญ่เช่นกัน “One Brand” เป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นหนึ่งเดียว ได้รวมแบรนด์โคคา-โคลาในเครือทั้งหมดอย่าง โคคลา-โคลา ซีโร่ และโคคา-โคลา ไลท์ ทำตลาดภายใต้แบรนด์โค้ก หรือโคคา-โคลา เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้แบรนด์มากขึ้น และสื่อให้เห็นว่าโค้กมีทางลือกให้กับผู้บริโภคทั้งแบบมีแคลลอรี่ และไม่มีแคลลอรี่ จากเดิมที่มีการทำตลาดแยกกันอย่างชัดเจนระหว่าง 3 แบรนด์
 
คลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แคมเปญนี้เป็นการเปลี่ยน Tagline ครั้งใหญ่ของแบรนด์ในรอบ 7 ปี ถือว่าเร็วกว่าที่ผ่านมา ปกติจะมีการเปลี่ยนในช่วง 10 ปี และประเทศไทยก็เป็นประเทศแรกๆ ที่มีการเปิดตัวแคมเปญนี้ เราจะกลับไปพูดถึงเรื่องรสชาติของโค้กที่ไม่ว่าจะดื่มในโมเมนต์ไหนก็มีความสุขได้”
 
สำหรับแคมเปญใหญ่นี้โค้กได้ทุ่มงบ 500 ล้านบาท ปูพรมการตลาดทั้งภาพยนตร์โฆษณา 5 เรื่อง ภาพสื่อประกอบแคมเปญ 50 ภาพสื่อถึงช่วงเวลาในชีวิตประจำวัน
 
รวมไปถึงกิจกรรมออนกราวน์ในการนำรถ Taste the Feeling Truck เพื่อตระเวนแจกโค้กขวดแก้ว ตั้งเป้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย 1 ล้านคน