กูเกิล (Google) เปิดเสรีบริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ “โปรเจกต์ไฟ” (Project Fi) ให้ผู้อาศัยในสหรัฐอเมริกาทุกคนสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องต่อคิวรับคำเชิญอีกต่อไป พร้อมทำโปรโมชันขายสมาร์ทโฟนเน็กซัส (Nexus) ในราคาเพียง 200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,000 บาท
ก่อนหน้านี้ Project Fi เปิดให้บริการเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับเชิญมาตลอด 10 เดือน แต่วันนี้ผู้อาศัยในสหรัฐอเมริกาทุกคนสามารถสนับสนุนบทบาทใหม่ของกูเกิลในฐานะโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้แล้ว
ไซมอน อาร์สคอตต์ (Simon Arscott) ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กูเกิล ยืนยันว่า บริการ Project Fi จะทำให้ผู้ใช้ได้รับบริการข้อมูลไร้สายที่รวดเร็ว ยืดหยุ่น รองรับการใช้งานในต่างประเทศ และได้รับแจ้งค่าบริการรายเดือนในรูปแบบเข้าใจง่าย
อย่างไรก็ตาม Project Fi ยังรองรับเฉพาะผู้ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่น Nexus 6P, Nexus 5X และ Nexus 6 เท่านั้น ทั้ง 3 ล้วนเป็นสมาร์ทโฟนที่กูเกิลพัฒนาขึ้นเองเพื่อทำงานร่วมกับซิมการ์ดพิเศษที่สามารถทำงานร่วมกับบริการของกูเกิล และเครือข่ายเซลลูลาร์ของค่ายอื่นด้วย ความพิเศษของบริการ Project Fi คือ สมาร์ทโฟนจะสามารถเชื่อมต่อ หรือสลับเครือข่าย 4G LTE หรือ Wi-Fi ได้อัตโนมัติโดยไม่ขัดจังหวะผู้ใช้งาน จุดนี้จะทำให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากจุดให้บริการ Wi-Fi ฟรีนับล้านจุดทั่วอเมริกาอย่างเต็มที่ ซึ่งฮอตสปอตเหล่านี้ล้วนได้รับการตรวจสอบจากกูเกิลแล้วว่ารวดเร็ว และเสถียร
ค่าบริการเริ่มต้นของ Project Fi คือ 20 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 700 บาท ผู้ใช้สามารถโทรไม่อั้นในประเทศ และส่งข้อความไม่อั้นทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดย Fi รองรับเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่มากกว่า 120 ประเทศ
ค่าบริการดาต้าของกูเกิล คือ 10 เหรียญสหรัฐต่อกิกะไบต์ หรือประมาณ 350 บาท โดยจะคิดค่าบริการตามจริงเมื่อใช้งาน
เพื่อให้บริการนี้ กูเกิลจึงจัดโปรโมชันลดราคาสมาร์ทโฟนรุ่น Nexus 5X อย่างเต็มที่ด้วยราคายั่วใจ จุดนี้สื่ออเมริกันมองว่า กูเกิลจะสามารถดึงชาวอเมริกันบางส่วนให้ห่างจากคู่แข่งอย่างแอปเปิล (Apple) รวมถึงแบรนด์สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ราคาประหยัดได้แน่นอน
สำหรับ Nexus 5X กูเกิลยืนยันแล้วว่า จะเปิดอัปเดทซอฟต์แวร์ล่าสุดให้ในเดือนนี้ โดยจะแก้ปัญหากล้อง รวมถึงข้อบกพร่องอื่นๆ ที่ทำให้สมาร์ทโฟนทำงานได้ช้า และติดขัด รวมถึงปัญหาด้านการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth ด้วย