อเมซอน (Amazon) เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซอเมริกันยื่นเอกสารจดสิทธิบัตรระบบชำระเงินด้วยภาพถ่ายตัวเอง หรือเซลฟี่ ทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์สำเร็จได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว แถมยังปลอดภัยสูงยากต่อการแฮก รวมถึงลดกรณีการเผลอซื้อสินค้าโดยไม่ตั้งใจจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบุตรหลาน
เอกสารจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีใหม่ของ Amazon ถูกเปิดเผยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลระบุว่า ระบบจะใช้กล้องดิจิตอลเป็นเครื่องมือยืนยันตัวบุคคลของผู้ใช้ผ่านระบบวิเคราะห์ใบหน้า ก่อนจะยืนยันอีกครั้งด้วยการขอให้ผู้ใช้แสดงท่าทางยืนยันการซื้อขั้นสุดท้ายอย่างการกะพริบตาข้างเดียว
เอกสารยังระบุว่า ขั้นตอนเหล่านี้จะทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์เกิดขึ้นได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ขณะเดียวกัน ยังตัดปัญหาการถูกขโมยรหัสผ่านเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าออนไลน์
นอกจากนี้ ระบบจ่ายเงินด้วยท่าทางอย่างการกะพริบตานั้นสามารถอำนวยความสะดวกให้การซื้อสินค้าบนอุปกรณ์พกพาทำได้ง่ายกว่าเดิม จุดนี้เจ้าพ่อค้าปลีกอเมริกัน อธิบายว่า ผู้ใช้หลายรายไม่สะดวกพิมพ์รหัสผ่านบนคีย์บอร์ดบนหน้าจอ โดยเฉพาะรหัสผ่านที่ประกอบด้วยเครื่องหมายเฉพาะ และตัวเลข หรืออักษรตัวพิมพ์เล็กใหญ่ ทั้งหมดนี้ทำให้การยืนยันตัวบุคคลด้วยใบหน้าทำได้สะดวกกว่า
ในเอกสาร ระบุว่า เทคโนโลยีนี้จะสามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต โดยระบบยืนยันตัวบุคคลจะถูกแยกต่างหากจากระบบซื้อขายสินค้า
ความเคลื่อนไหวของ Amazon เกิดขึ้นหลังจากหลายบริษัทแสดงจุดยืนพัฒนาระบบชำระเงินด้วยภาพถ่ายใบหน้าลักษณะเดียวกัน ตัวอย่างเช่น มาสเตอร์การ์ด (MasterCard) ที่ประกาศว่ากำลังพัฒนาระบบชำระเงินใหม่ที่ผู้ใช้จะสามารถถ่ายภาพเพื่อให้ระบบวิเคราะห์ภาพใบหน้าเป็นเครื่องมือยืนยันตัวบุคคลเช่นกัน ยังมีเจ้าพ่อค้าปลีกสัญชาติจีนอย่าง อาลีบาบา (Alibaba) ที่สาธิตระบบชำระเงินด้วยภาพใบหน้าตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เป็นระบบที่ไม่ต้องใช้การแสดงท่าทางอย่างการกะพริบตาอย่างที่ Amazon วางแผนไว้
ระบบชำระเงินของ Alibaba จะเริ่มขึ้นเมื่อผู้ใช้คลิกชำระเงิน จากนั้นระบบจะเปิดกล้องบนสมาร์ทโฟนพร้อมแสดงกรอบใบหน้าที่ผู้ใช้ต้องขยับกล้องให้จับภาพในระยะใบหน้าที่พอดีกับกรอบที่แสดงไว้ เมื่อระบบวิเคราะห์ใบหน้าจากภาพถ่ายสำเร็จ การซื้อสินค้าก็จะเสร็จสมบูรณ์โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลากรอกข้อมูลบัตรเครดิตใดๆ
ครั้งนั้น Alibaba เปิดเผยว่า ระบบชำระเงินด้วยการวิเคราะห์ใบหน้าจะเปิดใช้บนบริการอาลีเพย์ (Alipay) ซึ่งเป็นบริการรับชำระเงินดิจิตอลในเครือ Alibaba โดยระบบวิเคราะห์ใบหน้านี้จะต้องผูกบัญชีเข้ากับบริการเว่ยโบ (Weibo) โซเชียลมีเดียชื่อดังในจีน ก่อนที่ระบบจะค้นหาภาพใบหน้ากับฐานข้อมูลใบหน้าที่มีในระบบเครือข่ายสังคม ทำให้ระบบนี้สามารถใช้ใบหน้าเป็นเครื่องยืนยันตัวบุคคลได้เหมือนลายนิ้วมือ
เบื้องต้น ทั้งหมดยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาในการให้บริการ “จ่ายเงินด้วยภาพเซลฟี่” ที่แน่นอน คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะในการพัฒนาอย่างจริงจัง
