Instagram โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คสำหรับคนรักการโพสต์ภาพที่มี Facebook เป็นเจ้าของและมีผู้ใช้กว่า 400 ล้านคนทั่วโลก เพิ่งเปลี่ยนอัลกอริธึมในการแสดงรูปภาพบนหน้าฟีดของตนเองใหม่ และการเปลี่ยนแปลงนี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ใช้จำนวนมากในชั่วข้ามคืน
ก่อนหน้านี้รูปภาพในฟีดของ IG จะเรียงตามลำดับเวลา โดยจะแสดงรูปภาพที่โพสต์ล่าสุดขึ้นมาก่อน แล้วย้อนกลับไปเรื่อยๆ แต่ปัจจุบัน รูปภาพในหน้าฟีดจะไม่เรียงตามลำดับเวลา แต่จะเรียงตามเงื่อนไขลับที่ทาง Instagram อธิบายว่า “เรียงตามแนวโน้มคอนเทนต์ที่คุณน่าจะสนใจ ความสนิทสนมกับคนที่โพสต์ภาพ และเวลาที่โพสต์ภาพ” ซึ่งแปลว่า สิ่งที่ Instagram คิดว่าคุณจะสนใจจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณติดตามคนคนนั้น การคอมเมนต์ การไลค์ ความถี่ ความเป็นปัจจุบัน และดัชนีชี้วัดอื่นๆ ที่คล้ายกับที่ Facebook ใช้อยู่
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนเท่าๆ กัน แบรนด์ที่ “ดึงดูดความสนใจ” จากผู้ใช้อยู่แล้ว (อย่างแบรนด์แฟชั่น ดนตรี และวงการบันเทิง) ย่อมเอาตัวรอดได้กับฟีดแบบใหม่ และอาจจะส่งผลดีขึ้นด้วยซ้ำเพราะมีเอ็นเกจเมนต์ที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบที่แท้จริง คือ แบรนด์ที่ “ไม่โดนใจ” ผู้ใช้ เพราะจะยิ่งหายไปจากหน้าฟีดของผู้คน เป็นการบีบให้แบรนด์ต้องเสียเงินซื้อโฆษณากับ Instagram ในที่สุด แนวคิดในการเปลี่ยนอัลกอริธึมในครั้งนี้คือต้องการให้ผู้ใช้กดติดตามแอคเคาท์ต่างๆ ได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าฟีดจะรก หรือภาพจากแบรนด์หรือบุคคลที่ชื่นชอบจริงๆ จะถูกเลื่อนตกไปท้ายๆ แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดที่จะบังคับให้แบรนด์ต่างๆ ยอมควักเงินซื้อโฆษณาทาง Instagram กันมากขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ เรามี 5 เคล็ดลับที่จะช่วยให้นักการตลาดเช่นคุณเอาตัวรอดได้กับอัลกอริธึมใหม่ของ Instagram โดยไม่ต้องเสียเงินให้กับ IG และโพสต์ภาพแต่ละภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดมาฝาก
อย่าโพสต์รูปภาพถี่เกินไป
หลังการเปลี่ยนอัลกอริธึม แน่นอนว่าแต่ละโพสต์ของคุณจะไม่ได้รับเอ็นเกจเมนต์ที่ดีเหมือนเดิม ให้พิจารณาง่ายๆ ว่า Instagram ใหม่นั้นเหมือน Facebook การโพสต์ภาพมากเกินไปจะทำให้โพสต์ของคุณดูเหมือนเป็นคอนเทนต์คุณภาพต่ำและจะถูกดันลงไปด้านล่างของฟีดในที่สุด อย่าทะนงตนว่าทุกโพสต์ของคุณจะต้องได้รับความนิยมและคุณจะโพสต์ถี่แค่ไหนก็ได้
เคล็ดลับ โพสต์ให้เหมาะสมกับจำนวนผู้ติดตามของคุณ ดูตารางข้อมูลด้านล่างเพื่อการอ้างอิงได้
มีนาคม 2016 ข้อมูลจาก: Quintly
สร้างเครือข่ายเพื่อเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ ทั้งภายในและภายนอก
การสร้างเครือข่ายนั้นทำได้หลายประการ แต่การทำให้คอนเทนต์ดูน่าสนใจมากขึ้นถือเป็นหนทางที่น่าจะดีที่สุด แต่เครือข่ายที่ใกล้ตัวคุณที่สุดก็คือเหล่าพนักงานในบริษัทของคุณเอง นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถสร้างเครือข่ายจากโซเชี่ยลอื่นๆ เพื่อมาเพิ่มเอ็นเกจ้มนต์แอคเคาท์ IG ของคุณได้ ทั้งทาง Twitter, Facebook, อีเมล หรือโซเชี่ยลอื่นๆ
เคล็ดลับ สร้างกรุ๊ป Line สำหรับสมาชิกหรือพนักงานที่จะสามารถช่วยเป็นหน้าม้า เผื่อกรณีฉุกเฉินที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดเอ็นเกจเมนต์กับโพสต์ใดโพสต์หนึ่งเป็นพิเศษ
สร้างสไตล์ภาพที่โดดเด่นให้คนจำได้ว่าภาพลักษณะนี้มาจากแบรนด์ของคุณ
Tom Ford, Cadbury’s, Adidas และ Starbucks เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับข้อนี้ ทั้งด้านการใช้ฟิลเตอร์ โทนสี และแบรนด์ไอคอน ใช้ขอบภาพ ฟอนต์ สีสัน และฟิลเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองเพื่อสร้างสไตล์ที่แข็งแกร่งจนผู้ติดตามจำได้ว่านี่คือ “คุณ” ซึ่งนอกจากการสร้างสไตล์เช่นนี้จะช่วยให้คอนเทนต์ของคุณมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มเอ็นเกจเมนต์เพราะผู้คนจะไม่เลื่อนผ่านโพสต์จากแบรนด์ที่เขารู้จัก จำได้ และไว้วางใจ
เคล็ดลับ ใช้เครื่องมืออย่าง Canva เพื่อสร้างเท็มแพลตรูปภาพที่ดูเหมือนกัน และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในทุกๆ โพสต์
อย่าซื้อผู้ติดตาม
ไอเดียในการซื้อผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเพื่อแก้ปัญหาอัลกอริธึมใหม่นี้ดูจะเป็นทางออกที่น่าสนใจ (เมื่อข้อมูลจากหลายๆ ด้านพบว่าผู้คนชอบที่จะเข้าร่วมกลุ่มที่มีขนาดใหญ่มากกว่า) แต่การซื้อผู้ติดตามจะทำลายสถิติการเอ็นเกจของแฟนๆ ของคุณลงให้พังไม่เป็นท่าอย่างแน่นอน เนื่องจากแอคเคาท์เหล่านั้นเป็นผู้ใช้ที่ไม่แอคทีฟแล้ว แม้จะมีใครสัญญากับคุณว่าทุกแอคเคาท์ยังแอคทีฟอยู่แน่นอน แต่แฟนที่ซื้อมาเหล่านี้จะไม่มากดไลค์ คอมเมนต์ หรือแชร์อะไรกับคุณอย่างแน่นอน จึงทำให้ค่าเฉลี่ยของการเอ็นเกจของแฟนๆ จะตกลงอย่างไม่ต้องสงสัย อย่าเสียเงินหลักร้อยเพื่อได้ผู้ติดตามหลักพันจากประเทศไหนก็ไม่รู้บนโลกนี้เลย
เคล็ดลับ หากจะเสียเงินแล้ว ก็เสียเงินซื้อโฆษณากับ Instagram โดยตรงไปเลยดีกว่า อย่างน้อยแฟนๆ ที่ได้มาก็เป็นคนที่สนใจแบรนด์เราจริงๆ และจะได้เอ็นเกจเมนต์ที่ยั่งยืนกว่า
ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เพื่อเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
Dan Zarella คือนักวิจัยผู้เก็บข้อมูลด้านโซเชี่ยลที่เชื่อถือได้และเป็นปัจจุบัน ลองใช้ข้อมูลของเขาในการอ้างอิงในการโพสต์คอนเทนต์ต่อๆ ไปของคุณเพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่า เช่น ยิ่งใส่แฮชแทคมากก็จะยิ่งได้ไลค์มาก Willow คือฟิลเตอร์ที่ใช้แล้วคนกดไลค์มากที่สุด (รองจากการไม่ใส่ฟิลเตอร์เลย) รูปภาพสีซีดได้ไลค์มากกว่า รูปที่มีหน้าคนได้ไลค์มากกว่า 35% หรือ ยิ่งขอบภาพหนาก็จะยิ่งได้ไลค์เยอะ
เคล็ดลับ สามารถดูข้อมูลสถิติแอคเคาท์ของคุณได้ผ่านเครื่องมืออย่าง PicStats