ก่อนงานกาล่าดินเนอร์เมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย. 2547 ณ โรงแรม รอยัล ออร์คิด เชอราตัน ซึ่งมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาเป็นองค์ประธาน สายการบินแอร์ ฟรานซ์ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ณ โรงแรม เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท เช้าวันเดียวกัน เนื่องในโอกาสครบ 50 ปี การเปิดเที่ยวบินแรกจากปารีสสู่กรุงเทพฯ ของแอร์ ฟรานซ์ และมีการก่อตั้งสำนักงานขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
นอกจากจะเป็นการแถลงข่าวครบ 50 ปีในประเทศไทย ข่าวสำคัญกว่านั้นก็คือ การก่อตั้งกลุ่มสายการบินใหม่ที่มีชื่อว่า Air France – KLM เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการควบรวมสายการบินระดับชาติ 2 สายเข้าด้วยกัน แล้วก่อให้เกิดสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของรายรับ (ประมาณ 940,000 ล้านบาท) โดยทั้งสองสายการบินจะยังคงใช้เครื่องหมายการค้าเดิมของแต่ละแห่ง แต่จะผสานรวมกันในเรื่องเครือข่าย และการจัดการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับผู้โดยสาร การควบกิจการครั้งนี้ หมายถึง ตารางเวลาที่สัมพันธ์กันทั้งเที่ยวบินระยะสั้นและระยะไกลของทั้งสองสายการบิน หรือก็คือ flight connection ที่เลือกได้มากขึ้น รวมถึงการสะสมไมล์ของทั้งสองสายการบินสามารถทำร่วมกันได้ เป็นต้น
Did you know?
สายการบิน Air France เป็นสายการบินอันดับ 3 ของโลกด้านการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2476 (1933) เข้าเป็นสายการบินของรัฐบาลฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2488 ปัจจุบันมีเที่ยวบินกว่า 1,700 เที่ยวต่อวัน จำนวนเครื่องบินที่ให้บริการ 356 ลำ พนักงานทั่วโลก 70,156 คน และมีจุดหมายปลายทางกว่า 200 แห่ง ใน 85 ประเทศทั่วโลก ผู้โดยสารทั่วโลก 43.7 ล้านคนต่อปี และมีเที่ยวบินเข้ากรุงเทพฯ 7 เที่ยวบินต่อวัน ยอดรายรับ (เมษายน 2546-มีนาคม 2547) ประมาณ 602,000 ล้านบาท
สายการบิน KLM เป็นสายการบินอันดับ 4 ของโลกด้านการขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2462 (1919) และเป็นสายการบินของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์นับแต่นั้น ปัจจุบัน มีเครื่องบิน 188 ลำ พนักงานทั่วโลก 31,077 คน และมีผู้โดยสารทั่วโลก 23.4 ล้านคนต่อปี จุดหมายปลายทางราว 130 แห่ง ใน 80 ประเทศ และมีเที่ยวบินเข้ากรุงเทพฯ 7 เที่ยวบินต่อวัน ยอดรายรับ (เมษายน 2546-มีนาคม 2547) 287,700 ล้านบาท