Park Hotel Tokyo : Just the first in its Kind

การเปิดและดำเนินธุรกิจ business hotel แห่งใหม่ในเขตมหานครที่คลาคล่ำไปด้วยโรงแรมน้อยใหญ่เช่นในกรุงโตเกียว มิใช่เรื่องง่าย หากแต่ต้องจัดวางและสร้าง niche ให้เกิดขึ้นอย่างเด่นชัด ซึ่งสำหรับ Park Hotel Tokyo ทางเลือกในฐานะ “แห่งแรก” ของปรากฏการณ์มากมายคือ positioning ที่กำหนดไว้

พื้นที่ของโรงแรม ซึ่งมีพื้นที่รวม 10 ชั้น ตั้งอยู่ระหว่างชั้นที่ 25 ถึงชั้นที่ 34 บน Shiodome Media Tower อาคารที่มีฐานโครงสร้างเป็นรูปสามเหลี่ยมมนสูงขึ้นไป 34 ชั้น ได้รับการออกแบบให้เกิดมุมมองและความรู้สึกที่แตกต่างจากพื้นที่โรงแรมแห่งอื่นๆ ทันทีที่เดินทางมาถึง

โถงกลางบนชั้นที่ 25 ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องจาก counter check in มิได้ทำหน้าที่เป็นเพียง lobby lounge ที่มีไว้นั่งรอและจากไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ด้วยความสูงของ atrium ที่เป็นพื้นที่ใจกลางของตึกบนชั้นที่ 25 และสูงตลอดไปจนจรดหลังคากระจกแก้ว พื้นที่ส่วนนี้กลับให้ความรู้สึกโปร่งสบายทดแทนสภาพบีบอัด ซึ่งถือเป็นสภาพทั่วไปของกรุงโตเกียวได้เป็นอย่างดี

ขณะที่ แสงอาทิตย์ซึ่งโรยตัวรอดหลังคากระจกด้านบนเข้ามา ช่วยขับประกายของสีเขียวจากพรรณไม้ทั้งที่เป็นของจริงจากธรรมชาติและของประดิษฐ์จากฝีมือช่าง สลับกับความสดใสของดอกไม้นานาชนิดช่วยสร้างบรรยากาศของ hanging garden ที่กลมกลืนและอบอุ่นสบาย

“สิ่งที่เราพยายามเน้นและสื่อสารกับผู้ที่มาพักอยู่ที่ nature and health เพราะในการเดินทางไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยวสิ่งที่พวกเขาต้องการคือความสะดวกสบายทางกายและความปลอดโปร่งทางจิตใจ” Nanae Akazawa ผู้จัดการฝ่ายการตลาด Park Hotel Tokyo บอกขณะนั่งสนทนาอยู่ใน lobby lounge กลางโถงสูงแห่งนี้

โถงกลางซึ่งโปร่งโล่ง ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นประหนึ่ง first impression สำหรับผู้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ดูจะทำหน้าที่น่าอย่างสมบูรณ์โดยเฉพาะในฐานะ the biggest atrium in the metropolitan Tokyo area แต่นั่นเป็นเพียงปฐมบทที่ Park Hotel Tokyo หยิบยื่นให้

ด้วยจำนวนห้องพักระดับ 274 ห้อง Park Hotel Tokyo ภายใต้การบริหารงานโดย Shiba Park Hotel Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมที่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มานานกว่า 55 ปี เลือกที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Design Hotel ด้วยมุ่งหมายที่จะใช้ช่องทางของเครือข่าย Design Hotel ในการขยายตลาดระดับนานาชาติ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายจากภาคพื้นยุโรป

ในฐานะที่โรงแรมแห่งนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Design Hotels TM รูปแบบและบริการที่ Park Hotel Tokyo จะต้องจัดหาและตระเตรียมเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจำเป็นต้องมีมากกว่านั้น และมิได้จำกัดอยู่เฉพาะแง่มุมเชิงโครงสร้าง หากเป็นการลงลึกเข้าไปสู่รายละเอียดปลีกย่อยด้วย

“การตัดสินใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Design Hotels TM ทำให้เราต้องพิถีพิถันและให้ความสนใจกับการออกแบบและรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องสื่อสารความเป็น Design Hotel ซึ่งถือเป็นของใหม่ในสังคมญี่ปุ่นให้บรรษัทคู่ค้าและนักธุรกิจ นักเดินทางได้เข้าใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”

ก่อนหน้านี้ มีโรงแรมในญี่ปุ่นเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่ได้สมัครและรับเลือกเป็นสมาชิกของ Design Hotels TM โดยทั้ง Niki Club ซึ่งอยู่ในเมือง Nasu สถานที่สำหรับแปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อนของพระมหาจักรพรรดิ ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือประมาณ 200 กิโลเมตร หรือ Resonate Club ในเขต Oita ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ล้วนเป็นโรงแรมในรูปแบบของ resort hotel ในเขตที่พักตากอากาศ ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกรณีของ Park Hotel Tokyo ที่เป็น business hotel ในเขตมหานคร

จุดขายของ Park Hotel Tokyo ในชั้นต้นจึงเป็นไปในฐานะของการเป็น Design Hotels TM แห่งแรกของมหานครโตเกียว

สำหรับ Nanae Akazawa ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) เป็นเพียงบทบาทปลายน้ำ เมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งที่เธอรับผิดชอบงาน Project Planning ตลอดช่วงเวลาของการก่อร่างสร้างรูปแบบของโรงแรมแห่งนี้ให้เข้ากับเงื่อนไขของ Design Hotels TM

Deal ที่เธอต้องรับผิดชอบ นอกเหนือจาก conceptual design ที่เธอต้องประสานกับทั้ง Kajima Design ซึ่งเป็นผู้ออกแบบภายนอกแล้ว เธอยังต้องประสานกับ Frederic Thomas สถาปนิกนักออกแบบของ De’-Signe จากฝรั่งเศส เพื่อการตกแต่งภายในด้วย

ขณะเดียวกัน Nanae Akazawa ต้องติดต่อประสานและเชื้อเชิญ ผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ มาประกอบส่วนให้ Park Hotel Tokyo ดำเนินไปบนเส้นทางของการเป็น “แห่งแรก” ในมิติอื่นๆ ด้วย

ห้องอาหาร Salon Christofle ซึ่งได้รับการจัดวางให้เป็น private room บนชั้นที่ 26 และใช้อุปกรณ์ทุกชิ้นนับตั้งแต่ผ้าปูโต๊ะ ไปจนถึงจาน ชาม ช้อนและแก้วเครื่องดื่ม จาก Christofle ซึ่งเป็นผู้ผลิต tableware ชื่อดังจากฝรั่งเศสและมีเกียรติประวัติยาวนานมาตั้งแต่ ค.ศ. 1830 นับเป็น Salon นอกพื้นที่แห่งแรกของ Christofle

ขณะที่ Salon Chinois ซึ่งเป็นห้องอาหารจีนแบบ private room ที่รับสำรองที่นั่งจัดเลี้ยงขนาด 6-12 คน บนชั้นที่ 26 เลือกที่จะใช้อุปกรณ์ porcelain ของ Royal Copenhagen จากเดนมาร์คมาเป็นหลัก โดยมีเครื่องแก้วของ Orrefors จากสวีเดนเป็นส่วนประกอบ

“เราเชื่อว่า ห้องจัดเลี้ยงไม่จะเป็นต้องใหญ่ แต่ต้องมีความเป็นส่วนตัว และให้ความรู้สึกที่โอ่อ่าพิเศษ ซึ่งร้านอาหารหรือโรงแรมอื่นๆ ไม่มี โดยที่ผ่านมาอัตราการจองห้อง Salon Christofle และ Salon Chinois อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก ทั้งลูกค้าที่มาฉลองโอกาสพิเศษและการประชุมในเชิงธุรกิจ”

จุดที่น่าสนใจบนชั้นที่ 26 อีกส่วนหนึ่งอยู่ที่ การมาเปิดร้านและโรงเรียนสอนการจัดดอกไม้ของ Constance Spry ซึ่งเป็นผู้จัดดอกไม้สำหรับประกอบพระราชพิธีให้กับราชวงศ์อังกฤษ โดย Constance Spry Flower School บนชั้นที่ 26 นี้นับเป็นโรงเรียนของ Constance Spry แห่งแรกนอกสหราชอาณาจักร และ Constance Spry Flower Shop บนชั้นที่ 1 ของ Shiodome Media Tower ก็เป็นร้านจำหน่ายดอกไม้แห่งแรกของ Constance Spry ในโลกด้วยเช่นกัน

แม้จะมีความโน้มเอียงไปสู่องค์ประกอบที่สะท้อนความเป็นแห่งแรกและคุณค่าของ ความเป็นยุโรป ตั้งแต่การออกแบบและตกแต่งภายใน ไปจนถึงร้านค้าและห้องจัดเลี้ยง แต่ Park Hotel Tokyo ไม่ละเลยที่จะใช้ประโยชน์จากของดีที่มีอยู่เดิม เป็นตัวเชื่อมประสานและเติมเต็มเรื่องราวทั้งหมดให้สมบูรณ์

ห้องอาหารบนชั้นที่ 25 ซึ่งประกอบด้วย ห้องอาหารญี่ปุ่น Hanasanshou ภายใต้การกำกับของ Head chef Yoshiaki Takada นอกจากจะมีสำรับอาหารแบบ Kaiseki ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอาหารแบบเกียวโตแล้ว ยังมี Shochu เครื่องดื่มจำพวกสุราแบบญี่ปุ่นให้เลือกลิ้มลองมากกว่า 50 ชนิด เพื่อรองรับการเรียนรู้ความเป็นญี่ปุ่นของนักเดินทางจากอีกฝากหนึ่งของโลก

นอกจากนี้ Gastronomie Francaise Tateru Yoshino ซึ่งดูแลโดย Tateru Yoshino เจ้าของและ Chef แห่ง Stella Maris ในกรุงปารีส และเป็น Chef ที่ชื่อเสียงมากรายหนึ่งของญี่ปุ่นในปัจจุบัน เป็นประหนึ่งจุดบรรจบของความเป็นตะวันตกและตะวันออก และไม่เพียงเป็นไปเพื่อให้อิ่มท้องหากแต่ดำเนินไปท่ามกลางการเสพศาสตร์และศิลป์ของการตระเตรียมอาหารแต่ละชนิดด้วย

โดย Bar a Vins Tateru Yoshino ซึ่งอยู่ถัดออกมาจาก Gastronomie Francaise Tateru Yoshino นอกจากจะเป็นที่นั่งดื่มในบรรยากาศสบายๆ แล้ว Tateru Yoshino ยังได้ปรุงและจัดแต่งอาหารอิตาเลียน และสแปนิช ให้มีความงามทางศิลปะ และเป็นเครื่องเคียงที่ลงตัวสำหรับการดื่ม

แม้องค์ประกอบส่วนใหญ่จะเป็นไปภายใต้ ความเป็นยุโรป แต่ก็มิได้หมายความว่า ความเป็นอเมริกัน จะเป็นของต้องห้ามใน Park Hotel Tokyo แห่งนี้ โดย Bar a Vins Tateru Yoshino ได้รับการออกแบบให้เป็น New York style โดยมีนักดนตรีขับกล่อมเพลง Jazz ที่รื่นรมย์ ควบคู่กับเครื่องดื่ม cocktails ที่มี Takayuki Suzuki ซึ่งผ่านการฝึกฝนทักษะ bar-tending ทั้งใน New York และสั่งสมประสบการณ์มากมายรวมทั้ง Niki Club มาเป็นส่วนเสริมให้เกิดความหลากหลายยิ่งขึ้น

“รายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ที่ประกอบส่วนเข้ามาภายใต้ concept หลักส่งผลให้ Park Hotel Tokyo แตกต่างจาก business hotel แห่งอื่นๆ มากขึ้น เพราะเราเลือกเฉพาะ designated products และ designated persons เข้ามาเป็นองค์ประกอบเท่านั้น” Nanae Akazawa กล่าวด้วยสีหน้าชื่นชมระคนภาคภูมิใจเมื่อกล่าวถึงผู้คนที่เข้ามาประกอบส่วนอยู่ใน Park Hotel Tokyo แห่งนี้

นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้เลือกสรรมาอย่างดีแล้ว ห้องพักซึ่งนับเป็นสิ่งสำคัญส่วนหลักของโรงแรมก็ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเช่นกัน

Frederic Thomas ซึ่งเป็น Project Manager ของ De’-Signe ได้กำหนดแนวทางการออกแบบโรงแรมแห่งนี้ไว้ที่ การเป็นที่ซึ่งผสมผสานกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรม ท่ามกลางโครงสร้างของตัวอาคารที่แวดล้อม ซึ่งผู้คนสามารถพักอาศัยอยู่และใช้ชีวิตได้

ขนาดของห้องพัก ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ Park Hotel Tokyo แตกต่างจากที่อื่น หากแต่องค์ประกอบของเครื่องใช้ ทั้งเครื่องสุขภัณฑ์ ที่เป็น Spa Therapy Collection ของ Gilchrist & Soames จากอังกฤษ โคมไฟหัวเตียง เครื่องรับโทรทัศน์ ผ้าคลุมและปูที่นอน หรือแม้กระทั่งขนาดของกระจกเงาภายในห้อง ทำให้ห้องพักเหล่านี้ดำเนินไปด้วยเรื่องราวที่ต่างออกไป

“Frederic Thomas เชื่อว่า กระจกเงาเหนือโต๊ะปลายเตียงไม่จำเป็นต้องมี เพราะสำหรับ business hotel โต๊ะที่อยู่ปลายเตียงควรจะเป็นโต๊ะสำหรับทำงานหรือเขียนหนังสือเล็กๆ น้อยๆ เพื่อบันทึกสรุปงาน มากกว่าจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งหน้า ซึ่งอาจใช้กระจกและพื้นที่ในห้องน้ำก็ได้” เป็นคำอธิบายถึงที่มาของกระจกเงากลมบานเล็ก ที่เป็นผลจากการประนีประนอมของผู้ประกอบการและนักออกแบบ

สีและหน้าสัมผัสของวัสดุและเครื่องใช้ภายในห้องพัก ได้รับการออกแบบให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับ ความหมายของ logo รูปโคมไฟ 3 สีที่ปรากฏเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมที่ประกอบด้วย สีฟ้า แทนความสะอาดสดชื่นสบาย สีเขียวแทนความเป็นธรรมชาติและสุขภาพ ขณะที่สีแดงแทนความอบอุ่น

แม้ว่า Park Hotel Tokyo จะมุ่งเน้นการออกแบบและจัดวางบริการ หลากหลายที่สะท้อนลักษณะเฉพาะสำหรับดึงดูดกลุ่มลูกค้าตามแนวทางของ Design Hotel แต่ดูเหมือนว่า เป้าหมาย ผู้เข้าพักจากต่างประเทศและลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่กำหนดไว้ในสัดส่วน 65:35 ภายใต้ความเชื่อที่ว่าเครือข่ายของ Design Hotel จะเป็นส่วนเสริมความสำเร็จนั้นจะยังคงห่างไกลจากความเป็นจริงในปัจจุบัน เพราะนับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการ (Grand Opening) เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2003 ลูกค้าชาวญี่ปุ่นกลับกลายเป็นผู้อุปถัมภ์หลักถึงกว่าร้อยละ 70

บางทีความสำเร็จหรือล้มเหลวของผู้ประกอบการโรงแรม อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยว่าด้วย niche และ positioning ของโรงแรมแต่ละแห่งที่จะกำหนดและจัดวางตัวเอง ท่ามกลางการแข่งขันของตลาด มากกว่า สถานะการเป็นสมาชิกหนึ่งในเครือข่ายซึ่งถึงที่สุดแล้ว อาจไม่มีค่ามีความหมายเลยสำหรับนักเดินทางแต่ละราย