เมื่อ Free TV ตอบรับกระแส Football Fever ตัวจริงอย่างยูบีซี จะทำอย่างไร

ถือเป็นกำไรให้กับแฟนบอลชาวไทยอีกหนึ่งต่อที่จะได้ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ผ่านทางช่อง3 ในช่วงคืนวันเสาร์และคืนวันอาทิตย์ เมื่อทาง Traffic Corner ได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และตกลงร่วมมือกับทางช่อง 3 และช่อง 7ให้เป็นผู้ถ่ายทอดสด ถือเป็นการรุกทางด้านกีฬาอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งของ Traffic Corner ที่ก่อนหน้านี้ก็ ชิมลางถ่ายทอดสดฟุตบอลอุ่นเครื่อง Champion World Serie ให้ได้ชมกันทางช่อง 3 และช่อง 11 มาก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ลิขสิทธิ์ที่ทาง Traffic Corner ได้มานั้นก็ไม่ใช่ลิขสิทธิ์แบบ Full Package ที่ได้ครบทุกนัด แต่จะได้เพียง 17 แมตช์เท่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกถ่ายคู่ไหนเท่านั้นเอง แต่แว่วข่าวมาว่าช่อง 3 จะยอมลงทุนหยุดละครในวันที่ถ่ายทอดสด เพราะช่วงเวลาแข่งขันตรงกับช่วงเวลา Primetime ของละครพอดิบพอดี ก็ไม่ทราบว่าทางช่อง 7 จะเอาด้วยหรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาช่อง 7 จะไม่ยอมที่จะยกละครหลบแต่จะใช้ถ่ายทอดบันทึกการแข่งขันแทนเสียมากกว่า

ทางด้านของ UBC เองก็ไม่ได้อยู่เฉย ถึงแม้จะได้ลิขสิทธิ์แบบ Full Package จากทาง ESPN ก็ตามที ทาง UBC ก็จัดแถลงข่าวประกาศความเป็น “ตัวจริง” ในการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกมากกว่า200แมตช์ ซึ่งเพิ่มกว่าฤดูกาลที่แล้วที่ถ่ายสดเพียง 165 นัด และจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 300 นัด ในฤดูกาล 2005-2006 และ 2006-2007 ซึ่งก็ยังถือว่า UBC ยังไงก็ยังคงเป็นตัวจริงอยู่ดี

Big 4 of Premier League

เริ่มต้นฤดูกาลใหม่อีกครั้งสำหรับฟุตบอลลีกประเทศต่างๆ ในยุโรปมักที่ดูจะได้รับความสนใจจากแฟนฟุตบอลชาวไทยเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้นพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แน่นอนความเข้มข้นก็คงจะหนีไม่พ้นการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ที่สำคัญฤดูกาลนี้การแข่งขันน่าจะเข้มข้นมากขึ้นเพราะคงจะไม่ได้มีเพียงการแย่งกันแค่ Arsenal และ Manchester United อีกต่อไป แต่ฤดูกาลนี้จะมีทีมอย่าง Chealsea และ Liverpool ที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทีมมากพอสมควร เพื่อจะมาเบียดแย่งแชมป์กับ 2 อำนาจเดิมอย่าง Arsenal และ Man Utd

Arsenal

ความสำเร็จที่เกิดจากระบบการเล่น – ต้องยอมรับว่าArsenal ในปีนี้ค่อนข้างมีปัญหาพอสมควรตั้งแต่ยังไม่เปิดฤดูกาล ปัญหาสำคัญคงหนีไม่พ้นความอึมครึมเกี่ยวกับการย้ายทีมของ Patrick Viera กองกลางคนสำคัญของทีม และ Arsen Wenger ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจในส่วนนี้ถึงกับประกาศจะไม่ให้ Viera ลงแข่งจนกว่าทุกอย่างจะชัดเจน

แน่นอนว่า Arsenal ฤดูกาลที่ผ่านมาถึงแม้จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกโดยไม่แพ้ใครก็ตาม แต่พวกเขาคงไม่พอใจเท่าใดนักเมื่อความผิดพลาดมักเกิดขึ้นในเฉพาะการแข่งขันนัดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการตกรอบ FA Cup โดยแพ้คู่แข่งสำคัญอย่าง Man Utd และการตกรอบ Champion League ด้วยฝีเท้าของ Chealsea คู่ปรับร่วมเมืองลอนดอนนั่นเอง สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดขายให้กับ Arsenal นับตั้งแต่การเข้ามาคุมทีมของ Arsen Wenger นั่นก็คือ ประสิทธิภาพจากระบบการเล่นที่ลงตัว ฤดูกาลที่แล้ว Arsenal ก็มีปัญหาตัวผู้เล่นบาดเจ็บเช่นเดียวกับทีมอื่น แต่ด้วยระบบการเล่นที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้นักเตะสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้เป็นอย่างดี ก็เพียงพอที่จะทำให้ Arsenal เป็นแชมป์ได้โดยไม่แพ้ทีมใดเลย

มาในฤดูกาลนี้ Arsenal คงจะต้องพึ่งกับจุดขายของระบบการเล่นต่อไป แต่ตัวแปรสำคัญก็คงจะหนีไม่พ้น Viera เพราะ ต้องยอมรับว่า Viera คือหัวใจของ Arsenal Viera เป็นผู้เล่นที่มีบทบาท ทั้งเกมรุก และเกมรับ เป็นตัวขับเคลื่อนเกมของ Arsenal ดังนั้นหากไม่มี Viera ในสนามถึงแม้ระบบของ Arsenal จะสมบูรณ์แบบ แต่ประสิทธิภาพก็จะลดลงอย่างแน่นอน และจะเป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดีว่า Arsenal แกร่งจริงหรือไม่

Manchester United

เข้าสู่ยุคถ่ายเลือดอีกครั้ง – Manchester United คือทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก เพราะพวกเขาเป็นแชมป์รายการนี้ไปถึง 8 ครั้ง จาก 12 ฤดูกาล แต่ต้องยอมรับว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้น มาจากนักเตะกำลังสำคัญหลายคน เรียกว่าเป็นชุด Wonder Kids ของ Sir Alex Ferguson ไม่ว่าจะเป็น David Beckham, 2 พี่น้อง Gary และ Phil Neville, Paul Scholes, Ryan Giggs และ Nicky Butt แต่มาจนตอนนี้นักเตะชุดนี้ก็โรยราลงไปหรือย้ายออกไปจากถิ่น Old Trafford อย่างเช่น Nicky Butt ที่ย้ายไปอยู่กับ Newcastle ในฤดูกาลนี้ ช่วงนี้เองจึงเป็นช่วงที่ Man Utd กำลังถ่ายเลือดหานักเตะหน้าใหม่เข้ามาแทนขุมกำลังเดิมเหล่านี้ อย่างที่เราเห็นภาพในนัดอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล เราจึงเห็นนักเตะวัยรุ่นหน้าใหม่ๆ ที่ Sir Alex Ferguson จัดตัวลงสนามมาเล่นเกือบเต็มแมตช์

ต้องยอมรับว่า Man Utd กำลังอยู่ในช่วงที่ตกลง และตกลงไปพร้อมกับที่ทีมอื่นกำลังยกระดับขึ้นมา และยิ่งไปกว่านั้น Man Utd เองยังมีปัญหาหลายด้านรุมเร้าในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหานักเตะบาดเจ็บ การติดโทษแบนของ Rio Ferdinand รวมไปถึงปัญหาที่ Man Utd ประสบอยู่ทุกฤดูกาล นั่นคือเกมรับที่เสียประตูมาก และบางครั้งเสียง่ายเกินไป ดังนั้นไม่น่าแปลกใจเลยที่ฤดูกาลนี้ Man Utd จะเป็นเพียงแค่เต็ง 3 เท่านั้น

Chealsea

ผ่าตัดทีมครั้งใหญ่เพื่อความสำเร็จ – การผ่าตัดทีมอันดับแรกที่ Chealsea ทำในฤดูกาลนี้ก็คือการนำ Jose Mourinho เข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ซึ่งถือเป็นการยกระดับในด้านบารมีของตัวผู้จัดการทีมให้มีศักดิ์ศรีพอๆ กับ Sir Alex Ferguson และ Arsen Wenger จากนั้น Mourinho ก็เป็นผู้เข้ามาผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ โดยเป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดของทีมลง เพราะผลลัพธ์จากฤดูกาลที่แล้วเมื่อเทียบกับการลงทุนของ Roman Abramovich ถือว่าล้มเหลว เพราะการทุ่มซื้อ Super Star อย่างมากมายเข้ามาสู่ทีมแต่จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 2 แถมยังห่างจากแชมป์ถึง 11 แต้ม ดังนั้น Mourinho จึงต้องลดขนาดของทีมลง โดยปล่อยนักเตะชื่อดังที่ผลงานไม่คุ้มค่าตัวออกไป อีกทั้งเป็นการลดค่าใช้จ่ายของสโมสรอีกทางหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่า Chealsea เองจะหยุดซื้อนักเตะเสียทีเดียว แต่การซื้อครั้งนี้คงเป็นการซื้อที่ผ่านการกรองจาก Mourinho แล้วเท่านั้น

สิ่งสำคัญสำหรับตอนนี้สำหรับ Chealski หรือ Chealsea คือการคว้าแชมป์ใดแชมป์หนึ่งติดมือให้ได้ในฤดูกาลนี้ และนั่นจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเงินของ Abramovich สามารถซื้อได้ทุกอย่างจริง แต่นอกเหนือไปจากนั้นคือคำถามง่ายๆ คำถามหนึ่งที่คงจะสำคัญต่อแฟนๆ ของ Chealseaไม่น้อย นั่นคือ ถ้าวันหนึ่ง Roman Abramovich หมดสนุกกับการเป็นเจ้าของ Chealsea แล้วทิ้ง Chealseaไป ตอนนั้น Chealsea จะเป็นเช่นไร จะลงเอยเหมือน Leeds หรือ Blackburn หรือไม่ ?

Liverpool

ให้ Rafa Benitez เป็นคำตอบสำหรับทุกสิ่ง – การปลด Gerard Houllier ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมถือว่าเป็นการทำตามคำเรียกร้องของ The Kopได้อย่างถูกใจที่สุด เพราะที่ผ่านมาการทำทีมของ Houllier ถึงแม้จะไม่ได้ขี้เหร่แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แถม Liverpool ยังไม่ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเลย การเข้ามาของ Rafa Benitez คล้ายๆ กับการเข้ามาของ Mourinhoของ Chealsea คือทั้งฝีมือและศักดิ์ศรีที่สูสีกัน Benitez ก็ต้องผ่าตัด Liverpool ให้มีทีมที่ลงตัวที่สุด สิ่งที่ Benitez ทำในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลคือ เปิดอกพูดคุยกับนักเตะทุกคน ว่าคนไหนอยู่ในแผนการทำทีมของเขาบ้าง เพื่อให้โอกาสนักเตะเหล่านั้นได้ย้ายสโมสร แต่หากใครไม่ย้ายก็ต้องยอมรับเงื่อนไขการเป็นตัวสำรองของ Benitez ให้ได้ และที่จะดูเหมือนเป็นการทำร้ายความรู้สึก The Kop ไม่น้อยก็คือการที่Michael Owen ถูกปล่อยตัวให้กับ Real Madrid ก่อนเปิดฤดูกาลเพียงแค่วันเดียว ด้วยราคาเพียงแค่ 8 ล้านปอนด์เท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือการที่ Liverpool มั่นใจในการทำทีมของ Rafa Benitez มากถึงเพียงนี้และไม่ลังเลในการปล่อยนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมออกไป ถึงแม้จะเป็นการลดรายจ่ายให้กับสโมสรก็ตามที แต่ต้องติดตามดูว่าเมื่อทาง Liverpool มั่นใจในตัว Benitez ขนาดนี้แล้ว ผลงานของเขาจะทำให้ The Kop ต้องผิดหวังเหมือนกับ Gerard Houllier อีกหรือไม่ ?