หลังจากโหมโรงสร้างแบรนด์ “นกแอร์” สู่สาธารณชนมาเป็นเวลานานร่วม 5 เดือน และหลังจากเลื่อนพิธีเปิดมาแล้วหลายครั้ง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา บริษัท สกายเอเชีย ก็ได้ฤกษ์เปิดสายการบินนกแอร์เสียที งานนี้สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี โดยเนรมิตศูนย์ซ่อมเครื่องบินบริษัท การบินไทย ที่ดอนเมืองเป็นสถานที่จัดงาน ราวกับจะเน้นให้เห็นบรรยากาศความร่วมมืออันดีระหว่างทั้งสองสายการบิน
แม้จะเป็นสายการบินต้นทุนต่ำเหมือนกัน แต่การเปิดตัว “นกแอร์” กลับใช้ดนตรีแจ๊ส ร้องนำโดยสาวเสียงใสอย่าง รัดเกล้า อามาระดิษฐ์ ราวว่าอยู่คนละเวทีกับอีกสายการบินที่เปิดตัวด้วยวงคาราบาว …
“นกแอร์” เป็นสายการบินต้นทุนต่ำสายที่สามในประเทศไทย โดยชูจุดขายเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ “ของคนไทย” และมีแบ็ก-อัพเป็น “การบินไทย” ซึ่งเป็นสายการบินที่คนไทยให้ความเชื่อมั่นในเรื่องบริการและความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง จึงดึงสโลแกน “มั่นใจ… บินไปกับนกแอร์” แทนการเล่นเรื่องของราคา นอกจากนี้ “นกแอร์” ยังร่วมใช้ทรัพยากรบางอย่างร่วมกับ “การบินไทย” เช่น ศูนย์ฝึกอบรมลูกเรือ, แผนกซ่อมบำรุง, กัปตันก็ว่าจ้างจากการบินไทย รวมถึงเครื่องบิน 3 ลำแรกของ “นกแอร์” แต่ทั้งนี้ พาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ ย้ำว่า “เรามีการบริหารและการทำงานที่ค่อนข้างเป็นอิสระจาก TG รวมถึงลูกค้าก็เป็นคนละกลุ่มกันอย่างชัดเจน”
วันเดียวกันนี้ก็ได้เปิดตัว “นกสงขลา” เครื่องบินเพ้นต์รูปนกหน้าตาน่ารักซึ่งได้นามพระราชทาน “สงขลา” พร้อมเปิดตัว “นกสาวๆ” หน้าตาจิ้มลิ้มแจ่มใส ซึ่งเป็นแอร์โฮสเตสในชุดเรียบเก๋ เข้ากับคอนเซ็ปต์ “ความเป็นมิตร ความสนุกสนาน และความเป็นกันเอง” ก่อนเริ่มบินจริงในวันรุ่งขึ้น โดยมีเส้นทางบินเริ่มต้นเพียง 3 เส้นทาง ไป-กลับรวม 10 เที่ยวบิน ต่อวัน (ดูตาราง)
การมาทีหลังของ “นกแอร์” ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการให้ความรู้ลูกค้าถึงเงื่อนไขและวิธีการจองตั๋วมาก และยังได้ปรับรายละเอียดอื่นๆ ให้เหมาะสมมากขึ้น เช่น การระบุเลขที่นั่งเพื่อความเรียบร้อยบนเครื่อง และเพิ่มบริการชำระค่าตั๋วผ่านทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในเซเว่น-อีเลฟเว่น ได้ แต่ข้อเสียเปรียบคงอยู่ที่จำนวนเครื่องและเส้นทางบินที่น้อยกว่าคู่แข่งในเวลานี้ ซึ่งพาทีบอกว่า มีแผนขยายเส้นทางเพิ่มอีก 3 เส้นทางภายในตุลาคมนี้ และคนไทยอาจได้บิน “นกแอร์” โกเอเชียราวกลางปีหน้า ถ้า “ทุกอย่าง” ราบรื่น
Website
