In the name of consumer

POSITIONING ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 3 หนุ่มผู้มี lifestyle ตามวิถีของคนเมือง เพื่อสอบถามมุมมอง ทัศนคติในฐานะของผู้บริโภคที่ใช้เครื่องสำอางผู้ชาย ซึ่งบางคำตอบสะท้อนแนวคิดที่แตกต่างจากคนในธุรกิจเครื่องสำอาง แม้จะเป็นความคิดเห็นเพียงส่วนน้อยก็ตาม

1. กฤษณพงศ์ เกียรติศักดิ์

เหตุผลในการเลือกใช้เครื่องสำอาง

“ดูแลตัวเองเพื่อตัวเอง” ปกติใช้ skincare แค่ 2 ตัว คือ ครีมกันแดด และ cleansing gel แต่ไม่ชอบทา moisturizer เพราะเป็นคนแพ้ง่าย และอะไรที่จะมาอยู่ติดกับหน้าเลยจะไม่ชอบ

“เพราะทำงานหนัก เวลาพักผ่อนน้อย เหนื่อยกลับมาก็อยากจะรีบนอน ขี้เกียจทำอะไรที่ยุ่งยาก ถ้ามันซับซ้อนเกินไปนัก เวลาที่เสียไปมันไม่คุ้ม แต่โชคดีที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบสปาด้วย จึงได้เข้าไปใช้บริการสปาบ่อย รู้สึกชอบ ผ่อนคลายดี”

“เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ไม่อยากให้มีภาระต้องขนเครื่องสำอางไปไหนมาไหนด้วยมากมาย ปกติจะใช้ยี่ห้อง่ายๆ ไม่ใช้ยี่ห้อพิสดารที่หาซื้อยาก และการใช้งานต้องง่ายสะดวก เคยใช้บางยี่ห้อใช้มือเดียวกดเปิดได้เลย
ผมชอบเล่นกับกลไกที่ดูแล้วเขาออกแบบมาเพื่อให้เราใช้งานสะดวกจริงๆ”

ด้วยความเป็นนักออกแบบ เป็นสถาปนิก จึงเลือกเครื่องสำอางจาก packaging เป็นหลัก เพราะเขาเชื่อว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่แบรนด์ดังๆ ตามทันกันอยู่แล้ว ดังนั้นคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่แตกต่างกัน เขาชื่นชอบ packaging แบบ millennium เรียบแต่โก้ “ซื้อเพราะ packaging สวยน่าสัมผัส บางทีก็ไม่ได้ใช้ ซื้อไปตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ”

“ไม่ชอบฟังคนมาอธิบายว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ของ premium ก็ไม่สน ราคามีอิทธิพลบ้าง ดูว่าคุ้มค่ามั้ย ”

“ผู้ชายต้องดูแลตัวเอง ทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก ถ้าการศึกษาดีเท่ากัน แต่อีกคนบุคลิกหน้าตาผิวพรรณดูดีกว่า หมายความว่ามีครบเครื่องมากกว่า ก็เป็นฝ่ายที่ได้โอกาสดีๆ ในชีวิตมากกว่า มันเป็น marketing คนก็เหมือนสินค้า ”

คิดอย่างไรกับคำว่า Metrosexual คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มนี้หรือไม่

“เป็นแค่คนกลุ่มเดียว ณ ตอนนี้ผมว่าผมยังไม่ใช่ เพราะผมไม่เนี้ยบขนาดนั้น ในเมืองไทยก็ยังมีไม่มากหรอก อาจจะเป็นแค่ city guy เท่านั้น”

กล้าหรือไม่หากต้องไปเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์ในห้าง

“กล้า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่กล้า เขาทำไว้ขายให้เราอยู่แล้ว”

ผลิตภัณฑ์ในฝัน

อยากได้ผลิตภัณฑ์แบบ 10 in 1เลย เทลงในอ่างนอนแช่ ลุกขึ้นมาหล่อเสร็จสรรพเลย (หัวเราะ)

Profile

กฤษณพงศ์ เกียรติศักดิ์
อายุ 42 ปี
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท 3 ใบ ด้าน Interior Design จาก UCLA ต่อด้วย ปริญญาโทอีกใบด้านสถาปัตย์ จาก UC (Berkley) และ MBA จาก UCLA และประกาศนียบัตรด้าน Art & Design จาก Royal College of Art London, UK
Career highlight
อาจารย์พิเศษ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี, สถาปนิก, มัณฑนากร,คอลัมนิสต์, จัดรายการวิทยุ รายการโทรทัศน์

2. วรวิทย์ ศิริพากย์

ชายหนุ่มวัย 28 ปี หุ้นส่วนและผู้จัดการฝ่ายการตลาด Panpuri

เพราะอะไรถึงดูแลใส่ตนเองมากกว่าผู้ชายทั่วไป

“ตั้งแต่อายุ 17 แล้วตอนไปเรียนต่อที่แคนาดา เนื่องจากอากาศหนาวมาก ผิวจะแห้ง จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ และติดเป็นนิสัยจนถึงทุกวันนี้”

นิยามคำว่า “Metrosexual”

“ผู้ชายในเมืองที่ใส่ใจและให้เวลากับเรื่องรูปลักษณ์และบุคลิกภาพของตัวเอง ถ้าตามนิยามนี้ ผมก็เป็น”

วิธีเลือกเครื่องสำอางผู้ชาย

“อย่างแรกเลยจะดูที่ส่วนผสม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อะไรก็ตาม จะอ่านฉลากอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจเลือกใช้ ชอบผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมธรรมชาติ ไม่ชอบสารเคมี หรือใส่น้ำหอม เพราะแพ้น้ำหอม นอกจากนี้ packaging และ identity ของผลิตภัณฑ์ก็ต้องโดนใจ ต้องตอบโจทย์ทั้งด้าน technical, functional และ emotional

มองเทรนด์การใช้เครื่องสำอางของผู้ชาย

“การใช้เครื่องสำอางของผู้ชายในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากการพัฒนาและความเปลี่ยนแปลงทัศนคติทางสังคมในเรื่อง gender role ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเห็นค่อนข้างชัดเจนว่า ผู้ชายก็ถูก objectify ว่าเป็นวัตถุทางอารมณ์ได้เช่นเดียวกับผู้หญิง ถึงแม้ว่าจะไม่มากเท่า ตอนนี้มองว่าผู้ชายก็โดนกดดันว่าจะต้องดูดี ต้องน่าค้นหา เหมือนกับผู้หญิงที่โดนแรงกดแบบนี้มาตลอด นอกจากนี้แนวโน้มในการดูแลตัวเอง ให้รางวัลกับตัวเอง มีส่วนผลักดันให้ผู้ชายใส่ใจกับตัวเองมากขึ้นโดยเฉพาะผู้ชายในเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป

ตลาดยังไปได้อีกไกล ประชากรครึ่งหนึ่งของโลกคือผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้เครื่องสำอาง ฉะนั้นยังมีโอกาสอีกมาก

3. ฐากูร อุชชิน

หนุ่มมาดเท่ Brand Manager, Watch Station บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด

“อันที่จริงก็ใช้ aftershave มาตั้งแต่เด็กตอนอายุ 16-17 ปี เพราะไม่ใช้น้ำหอม ปกติก็ใช้ครีมล้างหน้า moisturizer แล้วก็ lotion ทาผิว ทาตัวธรรมดา ยิ่งสมัยเด็กๆ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าตลอด”

ทุกวันนี้เขาใช้เครื่องสำอางมากชิ้นขึ้น ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ เพราะอายุมากขึ้น ผิวพรรณเริ่มมีริ้วรอย “ล่าสุดเริ่มใช้ eye gel ส่วนครีมกันแดดก็ใช้เฉพาะเวลาต้องเล่นฟุตบอลเท่านั้น”

“เน้นเลือกผลิตภัณฑ์โดยคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก แต่ไม่ถึงกับพลิก packaging อ่านละเอียดทุกส่วน แต่จะดูจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้วย ถ้าเพื่อนแนะนำว่าดีก็จะลองใช้ หากเป็นแบรนด์ที่ไม่รู้จัก ไม่แน่ใจว่าถ้าใช้แล้วจะเกิดผลอย่างไร โดยส่วนตัวไม่ชอบใช้ครีมที่เหนียวเหนอะหนะ ที่สำคัญต้องใช้งานง่ายไม่ต้องมีพิธีรีตองนัก”

เรื่องของ packaging และของ premium เขามองว่า ไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขามากนัก “มันก็เตะตาในตอนแรก ดึงดูดให้เราเข้าไปหา สุดท้ายก็ต้องเลือกที่คุณสมบัติอยู่ดี ไม่ใช่เพราะ packaging สวยหรือเพราะอยากได้ของ premium”

ต่อไปเมื่ออายุมากขึ้นกว่านี้อีก ก็คงต้องใช้ผลิตภัณฑ์มากชิ้นกว่าเดิม

Profile
ฐากูร อุชชิน
อายุ 35 ปี
จบการศึกษาที่กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ต่อด้วยสาธิต มศว.ประสานมิตร และปริญญาตรีด้าน Business Management ที่ Waynesburg College, USA และปริญญาโทด้าน Information System จาก George Washington University มีประสบการณ์ทำงานที่ Deloitte Consulting ก่อนกลับมาเมืองไทย เริ่มทำธุรกิจส่วนตัวด้าน software จัดการร้านอาหาร ก่อนจะมาเป็น Brand Manager – Watch Station, เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด

ฐากูร โชว์ขั้นตอนปรนนิบัติผิวอย่างง่ายๆ ในชีวิตประจำวันของเขา

1. ล้างหน้าด้วยครีมล้างหน้า
การล้างหน้า ควรบีบเนื้อเจลหรือเนื้อครีมใส่บนฝ่ามือพร้อมถูขยี้จนเกิดฟอง แล้วค่อยลูบไล้บริเวณ T-Zone ก่อน

2. ทา moisturizer
การทา moistourizer ควรทานอกบริเวณ T-Zone ก่อน เนื่องจากบริเวณ T-Zone จะมีความมันวาวอยู่แล้ว ไม่ควรทา moisturizer บริเวณดังกล่าวมากนัก

3. ทา aftershave
การทา aftershave ช่วยทำให้สมานผิว

4. ทา eye gel
ทาเบาๆ บริเวณใต้ตา ใช้เป็นประจำทุกวัน สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน

5. ทา lip gloss
เพื่อบำรุงรักษาริมฝีปากให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอ

6. สุดท้ายก็หล่อเสร็จสรรพ พร้อมออกจากบ้าน