ถ้ามีคำถามว่า ภราดร ศรีชาพันธุ์ เป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาให้กับสินค้าอะไรบ้าง? แน่นอน แฟนพันธุ์แท้หลายๆ คนของภราดรคงจะตอบได้ไม่ยากเย็นนัก แต่ถ้าถามว่า เมื่อนึกถึง ”ภราดร” นึกถึงสินค้าอะไร? เช่นเดียวกัน ถ้าถามคำถามเดิมแต่เปลี่ยนโจทย์เป็น พอลล่า เทย์เลอร์ หรือ “ติ๊ก” เจษฎาพร ผลดี สำหรับคำถามหลังก็ยังคงมีหลายคำตอบเช่นกัน
ด้วยรูปแบบตลาดของประเทศไทยที่มีความอ่อนไหวสูง เรียกได้ว่าเป็นตลาดที่รับกระแสเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ไว แต่ก็หายไปไวเช่นกัน เมื่อมีใครสักคนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็หายไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ประกอบกับในยุคที่ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายต่อการเข้าถึงมากยิ่งขึ้น วงจรชีวิตสำหรับความโด่งดังจึงสั้นลง เหตุผลเหล่านี้เองจึงคล้ายเป็นเบ้าหลอมให้กับทัศนคติของเหล่าดาราและคนมีชื่อเสียงของไทย ต่างตอบสนองสุภาษิตที่มีมาแต่โบราณของเราว่า “น้ำขึ้นให้รีบตัก”
แน่นอนว่าดาราสามารถสร้าง “mass appeal” หรือแรงดึงดูดต่อคนหมู่มากให้กับสินค้าใดสินค้าหนึ่งได้มากกว่า แต่ด้วยทัศนคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” เมื่อดาราคนไหนที่มีชื่อเสียงมาแรงมากๆ ก็จะมีบรรดาสินค้าต่างๆ ต้องการดาราคนนั้นไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าของตน และด้วยหลักการทางเศรษฐศาสตร์ที่เมื่อความต้องการมากขึ้นก็จะทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น แน่นอนค่าตัวสำหรับการเป็นพรีเซนเตอร์ก็สูงขึ้นตามไปด้วย ปัญหาของเจ้าของสินค้าที่ต้องนำมาคิดทั้งก่อนและหลังจ้างดาราสักคนหนึ่งมาเป็นพรีเซนเตอร์ก็คือ “คุ้มหรือไม่?”
เมื่อดาราเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าหลายชนิด แน่นอนความสับสนก็ตกไปอยู่กับผู้บริโภคในประเด็นที่ว่า ตกลงแล้วดาราคนนี้โฆษณาอะไรบ้าง แล้วยิ่งถ้าสินค้านั้นไม่ใช่สินค้าที่ติดตลาดอยู่แล้ว (establish)
ทัศนคติ “น้ำขึ้นให้รีบตัก” ผนวกกับกระแสมาไวไปไวของตลาดผู้บริโภคในประเทศไทยทำให้กลยุทธ์ idol marketing ในประเทศไทยไม่เป็นที่นิยมนัก ใช้ได้เฉพาะบางสินค้า และบางช่วงเวลา เพราะความเสี่ยงสูง ยากที่เราจะหลับตานึกถึงใครสักคนแล้วนึกถึงสินค้าชิ้นหนึ่งขึ้นมาพร้อมๆ กัน หรือคุณจะลองดูด้วยตัวเอง ง่ายๆ ลองนึกถึงภราดร ศรีชาพันธุ์ ดู แล้วมีสินค้ากี่ชนิดผุดขึ้นในความคิด?
น้องวิว (กระแส) ฮีโร่คนล่าสุด
ใครจะคิดว่าแค่คำพูดของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา เพียงไม่กี่คำจะทำให้เด็กสาวนักกีฬาเทควันโดทีมชาติ คนหนึ่ง กลายเป็นฮีโร่ของสังคมขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แต่คำพูดของสรยุทธเองนั้นก็เปรียบเสมือนดาบสองคมเพราะถ้าจะมองในแง่บวกการที่มีผู้สนับสนุนมากมายเข้ามายัง “น้องวิว” เยาวภา บุรพลชัย ก็ทำให้คุณภาพชีวิตของเธอดีขึ้น เธอเป็นที่รู้จัก เป็นที่ยอมรับในสังคมระดับเดียวกับนักกีฬาที่ได้เหรียญทองด้วยซ้ำ แต่เมื่อ “น้ำขึ้นต้องรีบตัก” น้องวิวต้องแลกกับชีวิตความเป็นส่วนตัว อนาคตการศึกษา เมื่อต้องตระเวนเดินสายมากมายขนาดนี้