ปิติ ภิรมย์ภักดี “สิงห์รุ่นใหม่”

ผมยึดในหลักที่ว่า “อย่าคิดที่จะทำ แต่ต้องทำ” ถ้าผมคิดได้ คนอื่นก็คิดได้เหมือนกัน แล้วที่สำคัญกว่านั้นถ้าเราไม่ทำ แน่นอนว่าคนอื่นก็จะแย่งเราทำก่อน และเราก็จะไม่ใช่ผู้นำอีกต่อไป ผมคิดว่า “ความคิด” ก็ไม่ต่างอะไรกับความฝัน ถ้าเราไม่เริ่มทำ เราก็จะอยู่กับความฝันที่ไม่มีตัวตน

“โชคดีที่ได้ทำงานบุญรอด อย่ามองว่าผมเป็นภิรมย์ภักดีเลย สิงห์อยู่มานาน เรามีธรรมาภิบาลมากว่า 70 ปี เดินไปไหนมาไหนไม่ให้คนเขาเหยียดหยามเราได้ ว่าบริษัทคุณเอาเปรียบสังคม เอาเปรียบประชาชน เราสามารถไปแล้วก็สง่าผ่าเผยอย่างสิงห์ เพราะเราทำธุรกิจอย่างโปร่งใส นโยบายรัฐบาลที่ออกมา เราเคารพกฎเกณฑ์ทุกอย่าง และก็เรามีการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยมาโดยตลอดเวลา ให้คำนึงถึงสังคมเป็นหลัก ผมเพียงแต่เข้ามาทำงาน และมีส่วนทำให้ธุรกิจของบุญรอดเติบโตได้” ปิติ ภิรมย์ภักดี กล่าวออกตัว

แม้จะเป็นบัณฑิตเกียรตินิยม ด้านวิศวะอุตสาหกรรม แต่วันนี้เขาคือผู้จัดการฝ่ายโฆษณา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้งจำกัด เขาเป็นผู้ปฏิวัติแนวทางโฆษณาของ “สิงห์” ใหม่โดยการนำ presenter คนดัง อู๋-ดอม-เคน แต่ยังคงวิถีความเป็นไทย การสังสรรค์กับเพื่อนสนิทมิตรสหาย เพียงแต่เป็นในรูปแบบตามกาลเวลาที่ล่วงไปตามยุคตามสมัย

“ผมไม่เห็นด้วยกับที่หลายคนบอกว่า สิงห์ rebranding หรือ reprositioning สิงห์ก็ยังเป็นสิงห์ ยังมี positioning แบบเดิม เพียงแต่เปลี่ยน mood & tone เท่านั้น ทำให้สิงห์ดูเท่มีมาด และมีความสดใหม่”

ความท้าทายอยู่ที่เขาจะทำอย่างไรให้บุญรอดเป็นแชมป์ในสังเวียนเบียร์ของไทยได้ภายในปี 2551 ตามแผน ซึ่งคาดว่าถึงเวลานั้นบุญรอดจะมีแชร์ประมาณ 40 กว่า% ขณะนี้มี 35-36%

ชีวิตการทำงานในบุญรอดฯ เริ่มต้นขึ้นอย่างพลิกผันไปจากความตั้งใจเดิม เป็นการเริ่มต้นที่เร็วเกินคาดแม้จะตระหนักรู้อยู่แน่ชัดว่าต้องมีวันนี้

“เรียนจบ วาดฝันว่าจะไปเที่ยวรอบโลกสักปี เพราะเรียนติดต่อกันมาตั้งหลายปี ก็อยากพักบ้าง แต่ปรากฏว่าพักได้แค่ 2 เดือน ฝันเริ่มหาย (หัวเราะ) โครงการปริญญาโทที่จะไปเรียนต่อ อุตส่าห์ศึกษาหลักสูตร เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ตอนนี้ก็ยังอยู่ในลิ้นชัก แต่อาจจะต่อโทในประเทศ มองศศินทร์เอาไว้ แต่ศศินทร์เรียนทั้งวัน (น้ำเสียงเครียด) เอาเป็นว่าสุดท้ายก็ต้องเรียนแต่รอให้ผ่านช่วงเงินช่วงทอง ช่วงพิสูจน์ตัวเองว่าหมู่หรือจ่าไปก่อน” …นับถึงวันนี้เขาทำงานที่บุญรอดเทรดดิ้งมาได้ 3 ปีแล้ว

“ลูกเจ้าของ” คำสั้นๆ ที่เขาต้องการลบคำสบประมาท คำสั้นๆ ที่ทำให้เขารู้สึกกดดันตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน

“ผมกดดันตั้งแต่วันแรก ผมถึงบออกว่า ความเป็นสิงห์ใช่ว่าจะมีแต่เรื่องดี ตอนที่ผมทำงานวันแรกตอนอายุ 22 ปี ลูกน้องผมเป็นร้อย เคยทำงานเหรอ ทำงานเป็นมั้ย เดี๋ยวเขาสั่งก็ต้องทำ ก็ลูกเจ้าของ ผมรู้ว่าความคิดนี้มันต้องเกิดขึ้น เข้ามาครั้งแรกผมก็ติด probation 3 เดือนเหมือนกัน งานออกต่างจังหวัด ผมก็เสนอตัวที่จะทำทุกๆ อย่าง กับลูกน้องเขากล้าที่จะเดินเข้ามาหาผมที่ห้องทำงาน แล้วบอกว่า คุณต๊อดครับ ผมมีปัญหานั่นนี่ ไปทำกิจกรรมข้างนอกผมพักกับเขา กินเบียร์กับเขา ทุกอย่างทำให้เหมือนกัน ผมไม่ต้องอยู่โรงแรม 5 ดาว ลูกน้องอยู่ 2 ดาว แต่ทุกอย่างก็มีเส้นกลาง วางตัวให้ดี เป็นเพื่อนได้ แต่ให้เขาเคารพว่าเราก็เป็นนาย”

“ถ้าให้มองย้อนกลับไปถามว่าทำได้ดีมั้ย ก็โอเคนะ ลูกน้องผมสามารถเดินเข้ามาคุยกับผมที่ห้องได้ คุณต๊อดครับผมมีปัญหา ถ้าวันแรกผม act ท่าสั่งโน่นนี่ ก็คงไม่ได้ใจลูกน้อง ผมเรียนรู้จากลูกน้องผม อย่างที่ผมบอก รบคราวที่แล้วคู่แข่งใช้อะไร ลูกน้องผมนี่แหละที่เป็นคนเอาข้อมูลขี่มาด่วนมาให้ สิ่งที่ผมได้คือข้อมูลที่ update และ fresh ตลอดเวลา”

“คนรู้จักเยอะก็ยิ่งมองเยอะ มองแบบจับผิด มองว่าทำได้จริงหรือเปล่า โม้หรือเปล่า ตอนนี้สิ่งที่ได้รับมอบหมายต้องทำให้ดี หรือทำให้ดีกว่าที่เขาคาดหวัง นี่เป็นสิ่งท้าทายในชีวิต”

“ไม่ใช่ว่าเป็นลูกสิงห์แล้วจะได้อะไรทุกอย่าง แต่ผมภูมิใจในครอบครัว ภูมิใจในบรรพบุรุษ คุณพ่อคุณแม่ไม่ตามใจ ผมเชื่อว่าความรักคือการให้ในสิ่งที่เห็นสมควร ถ้าให้อะไรหมด มันคือการตามใจ ครอบครัวผมอบอุ่นนะ นี่คือข้อได้เปรียบมหาศาลมากกว่าการเป็นภิรมย์ภักดีเสียอีก สมัยก่อนพ่อผมทำงานหนัก ไม่ค่อยมีเวลา แต่เสาร์อาทิตย์จะมีกิจกรรม ไปเล่นกีฬาด้วยกัน”

ด้วยความผูกพันอย่างใกล้ชิดกับคนในครอบครัว “คุณต๊อด”ของลูกน้องซึมซับลักษณะนิสัยหลายประการจากบิดามารดา ซึ่งเจอกันเกือบทุกวัน ทานข้าวเย็นด้วยกัน

“ที่บ้านผมคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีความลับ ผมสนิทกับพ่อมาก คุยกันเรื่องการทำงาน หลักการดำเนินชีวิต กับคุณแม่ก็สนิทกันโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว กับพี่ชายคนเดียวของเขา สันต์ ก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี กอดคอลงแข่งรถด้วยกัน”

“ถ้าถามว่าเพื่อนสนิทผมคือใคร ก็พี่ผม เป็นคู่ซี้คู่ซ่า ผมรักเขาเหมือนพี่ สนิทกับเขาเหมือนเพื่อน”

จากอุปนิสัยเป็นคนชอบขีดเขียน ในอีก 5-6 ปี เราอาจจะได้เห็น Pocket Book คารมและความคิดของเขาอีกด้าน “ผมชอบเขียนโน้ต จดๆ อะไรไว้ ต่อไปผมอาจจะออกหนังสือเกี่ยวกับความรัก ความสุข และความทุกข์ แต่ต้อง รอเวลาสั่งสมให้มากกว่านี้”

ด้าน Lifestyle ส่วนตัว เขาโปรดปรานการแข่งรถ ชื่นชอบความเร็วเป็นพิเศษ เขาแข่งรถมาเป็นเวลาถึง 12 ปีแล้ว เป็นครึ่งชีวิตของเขาที่ผูกพันกับกีฬาชนิดนี้ และกวาดรางวัลมาครองมากมายเป็นแชมป์ประเทศไทยมาก็หลายสนาม ถ้วยหลายใบวางอยู่ในห้องทำงานของเขา เช่นเดียวกับสินค้าของคู่แข่งที่เขานำมาพินิจพิจารณาอย่างละเอียด

ถึงจะมีภาระหนักอึ้ง แต่เขาก็เหมือนคนหนุ่มทั่วไปที่ต้องการสีสันในชีวิต ชอบออกกำลังกาย นอกจากแข่งรถเขายังชอบไดร์ฟกอล์ฟ เพื่อเป็นการปลดปล่อยความเครียด และบางครั้งก็ร่วมสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูงสนุกสนานตามที่เที่ยวกลางคืน

“มันเป็นไปตามวัย เรายังต้องการความครื้นเครงในชีวิตอยู่ เที่ยวกลางคืนก็พยายามลดลง เพราะมันจะทำให้ปวดหัว (หัวเราะ) เสาร์อาทิตย์ก็อยากไปพักผ่อน ไปชาร์จแบต เติมความสุขให้กับตัวเอง ไปแค่หัวหินก็ดีแล้ว”

แม้เขาจะเป็นหนุ่มหน้าตาดี เป็นคนดังในแวดวงสังคม แต่เขาเลือกที่จะดำเนินชีวิตในภาคธุรกิจมากกว่าที่จะสนใจงานบันเทิง หรือตระเวนออกงานเปิดตัวสินค้า แฟชั่นต่างๆ “ผมไม่ชอบเอาเสียเลยการออกงานช่องๆ ตามนิตยสาร บัตรเชิญมีมาทุกวัน ก็วางๆ ไว้ จะไปก็เฉพาะที่เป็นงานเพื่อน อีกอย่างผมไม่ชอบถ่ายแบบ คงไม่เห็นผมถ่ายแบบอีกแล้ว (หัวเราะ)”

ณ ตอนนี้หากให้เขา Positioning ตัวเอง

“ถ้าจะให้ผม Positioning ตัวเองผมคงวางตำแหน่งผมเป็น Middle Man คือผมเป็นลูกคนกลางของพี่น้อง 3 คน ตั้งแต่เล็กจนโตผมมักจะเป็นผู้ที่ประสานเรื่องต่างๆ ระหว่างพี่ชายกับน้องสาว รวมถึงพี่กับน้องกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย ผมมองว่าการประสานงานเป็นธรรมชาตินิสัยของผม ผมทำได้ดีและมีความสุขที่ได้ทำ ซึ่งตรงจุดนี้เมื่อได้มาทำงานที่บริษัทฯ ผมก็มาเสริมในจุดที่บริษัทฯ ขาดหายไป คือ เป็นผู้ทำนโยบายจากผู้บริหารระดับสูงมากระจายให้กับผู้ปฏิบัติงานในส่วนต่างๆ รวมถึงทำข้อมูลในระดับรากหญ้า วิเคราะห์และนำเสนอกับผู้บริหารระดับสูง ซึ่งในงานส่วนนี้ต้องใช้ทักษะในการประสานงานกับผู้คนต่างๆ มากมาย”

Profile

Name : ปิติ ภิรมย์ภักดี
Born : 3 กันยายน 2522
Education :
High school Wilbraham, Monson Academy
ปริญญาตรีเกียรตินิยมสาขาวิศวะอุตสาหกรรม Worcester Polytechnic Institute(WPI)
Career Highlights :
Project Coordinator, Wyman Gordon Company, Worcester, MA
ปัจจุบัน ผู้จัดการฝ่ายโฆษณา บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด
Family :
บิดา สันติ ภิรมย์ภักดี มารดา อรุณี ภิรมย์ภักดี
พี่ชาย สันต์ ภิรมย์ภักดี น้องสาว ปรีดิ์ติ ภิรมย์ภักดี (ศึกษา ณ สหรัฐอเมริกา)