กฤษณ์ ณรงค์เดช เปิดห้องทำงานบนชั้น 18 ตึก KPN ต้อนรับการมาเยือนของ POSITIONING ท่วงท่าที่ดูผ่อนคลาย ทำให้ “เรื่องราว” ของถูกถ่ายทอดอย่างมีอรรถรสและเป็นไปอย่างฉับไว
อดีตเขาวาดฝันที่จะเป็นสถาปนิก แต่เขาย่อมตระหนักรู้ว่าภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของเขาคือ การสืบทอดบริหารกิจการของ KPN ในฐานะทายาทอันดับ 1 ของตระกูล “ณรงค์เดช”
“อยากเป็นสถาปนิก ชอบ Art ชอบสร้างสรรค์ ตอนเด็กๆ หน่อยก็อยากเป็น rock star ชอบนักร้องเมืองนอก ชอบ lifestyle ชีวิตที่ไม่จำเจ”
ภารกิจของเขาที่กำลังถูกจับตามองอย่างสูงในขณะนี้คือการส่ง KPN Automotive กลุ่มธุรกิจหลักของ KPN GROUP เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
“ที่เลือก Automotive เข้าตลาดเพราะ sector มันได้ เราต้องมองก่อนว่าเมืองไทย competitive ในด้านไหนก่อน และ Automotive นี่เป็น 1 ใน 3 sector ที่มีศักยภาพ (อาหาร การท่องเที่ยว และธุรกิจยานยนต์”
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณเกือบ 7 ปีก่อน วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นสร้างความบอบช้ำให้กับ KPN GROUP แต่กฤษณ์ก็มีบทบาทสูงในการนำพา KPN GROUP ข้ามผ่านห้วงวิกฤตมาได้อย่างน่าชื่นชม และนับจากนี้ไป กลยุทธ์ใดที่จะนำพาให้ KPN GROUP ยืนหยัดต่อไปได้ในระยะยาว
“กลยุทธ์อะไรเหรอ ผมไม่มีกลยุทธ์ (หัวเราะ) สูตรสำเร็จก็ไม่มี โลกเราทุกวันนี้มีปัจจัยเยอะมาก ปัจจัยเปลี่ยน สถานการณ์ สภาพแวดล้อมเปลี่ยน จนไม่สามารถมีสูตรสำเร็จได้ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ รู้เขารู้เรา ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องของ common sense มีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ก็คิดว่าถูกมากกว่าผิด (หัวเราะ)”
กฤษณ์ร่ำเรียนที่อเมริกากว่า 7 ปี เริ่มทำงานใน KPN GROUP เมื่อปี 2537 “ก่อนหน้านี้เพียงแค่รับรู้ คลำทางอยู่ กว่าจะคลำได้ก็ 3-4 ปี เพิ่งมาคลำได้ 6 ปีหลังนี่เอง ถูกหลอกมาก็เยอะ มันเป็นเรื่องของวิวัฒนาการ เราโตมาในครอบครัวอย่างนี้ มันเรียนรู้ที่จะเป็นไปโดยธรรมชาติ”
The Power of Now ของ Eckhart Tolle คือหนังสืออีกเล่มที่เขาเรียนรู้เรื่องพลังแห่งจิต ที่เขาโปรดปราน ด้วยความเป็นคนรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ หลักในการดำรงชีวิตและการทำงาน ส่วนหนึ่งจึงมาจากตัวอักษรที่ร่ายเรียงและผ่านกระบวนการขบคิดของเขาอย่างเป็นระบบ
จากการศึกษาเรื่องจิตมากว่า 10 ปีทำให้เขานำมาปฏิบัติแล้วเกิดผลกับตัวเอง จนกลายมาเป็นความเชื่ออย่างแรงกล้า “ผมพยายามอยู่กับปัจจุบัน จิตคนส่วนใหญ่คิดไปอนาคต ว่าพรุ่งนี้ทำอย่างนี้จะดีมั้ย จะได้เลื่อนตำแหน่งมั้ย หรือคิดย้อนกลับไปอดีตว่า ไม่น่าทำอย่างนี้เลย ทีนี้พอจิตถูกแยกออกไป ทำให้พลังงานไม่เกิด ถ้าอยู่กับปัจจุบันสติจะอยู่กับตัว เห็นคน เห็นงาน เห็นแก่นแท้มากขึ้น การตัดสินใจมีข้อผิดพลาดต่ำมาก ผมพิสูจน์กับตัวเองมาแล้ว ผมเชื่อเรื่องนี้มาก และการที่จะมีความสุขจริงๆ เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร ไม่ใช่แค่ฝันไปฝันมา ฝันกลางวันฝันกลางคืน แล้วไม่เกิดเป็นรูปธรรม”
“LOVE WHAT YOU DO AND MONEY COMES TO YOU คุณจะต้องทำสิ่งที่คุณรักและเงินจะมาหาคุณเอง ผมไม่เคยเห็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการทำงานที่ฝืนตัวเองทุกๆ วัน เพราะถ้าตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วจำใจหรือฝืนตัวเองมาทำงาน ในระยะยาวแล้วจะไม่สามารถอยู่ได้ แต่คนที่รักชีวิต รักงานจริงๆ จะส่งพลังงานบวกออกไป ซึ่งจะช่วยดึงคนรอบข้างเข้ามาเสริมเรา เงินก็วิ่งเข้ามาหา ฟังดูเหมือนแฟนตาซีนะ แต่เป็นอะไรที่ผมเชื่อมากๆ เลย” กฤษณ์เล่าถึงอิทธิฤทธิ์ของจิตที่เขาพานพบมาด้วยตัวเอง
ทำอย่างไรถึง “เก่งคนเก่งงาน”
CEO หนุ่มแห่ง KPN GROUP บอกว่า “อยากได้อย่างไรต้องให้อย่างนั้น ถ้าอยากได้ความจริงใจ ก็ต้องให้ความจริงไปก่อน มันเป็นเรื่องของกรรม ผมเชื่อนะ ถ้า deal กับลูกน้อง อยากให้เขาซื่อตรง เราต้องเปิดใจให้กับเขาก่อน เรื่องของหลักการบริหาร ทฤษฎีรู้กันเยอะแยะ ร่ำเรียนมาสูงมีสมองกันทั้งนั้น แต่ถ้าอยากให้เขาอยู่กับเราแบบ longterm ต้องเปิดใจให้กับเขาก่อน เพราะผมเชื่อว่าคนเรามี sense ว่าใครจริงใจไม่จริงใจ เพราะความจริงคือความจริงอยู่ดี หลอกกันไม่ได้ ผมทำงานทุกวันนี้ผมไม่สนใจเรื่องภาพพจน์เลยนะ ผมเป็นอย่างนี้ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน ผมทำใจได้ด้วยใครจะเกลียดใครจะรักผม เพราะผมไม่มีเจตนาร้าย ในที่สุดคนจะเห็นค่าของเรา เพราะความจริงมันอยู่ยืน คนจะรับได้ก็ต้องรับได้ที่เราเป็นตัวของเราเอง อย่างร็อกสตาร์ ทำไมถึงมีแฟนเพลงคลั่งไคล้ทั่วโลก และเป็นแฟนเพลงที่เหนียวแน่น ก็เพราะเขาเป็นตัวเขาเอง”
ทุกวันนี้ “ต้นแบบ” ของเขามาจากหลากหลายบุคคล และแปรเปลี่ยนไปตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น
“ผมดึงข้อดีจากคนนี้นิดคนโน้นหน่อย ไปเรื่อยๆ แล้วก็เปลี่ยน ยิ่งโตขึ้นมันก็เปลี่ยนไปเรื่อย มีหลายคนที่ผมชื่นชม เยอะมากเลย อย่างริชาร์ด แบรนสัน เจ้าพ่อ Virgin” เขาพูดพร้อมปรายตามองไปยังหนังสือเล่มสีแดงเรื่อง Richard Brandson : The Autography บนชั้นหนังสือ “ Richard ใช้ชีวิตมันดี ใช้ชีวิตเป็น ผมว่าคนเราสำคัญอยู่ตรงการใช้ชีวิตให้เป็น บางคนทำงานงกๆ ตื่นขึ้นมาหัวขาวนี่ไม่เอา ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ”
ดร.เกษม-คุณหญิงพรทิพย์ ถ่ายทอดหลักการดำเนินชีวิตที่สำคัญให้กับลูกชายทั้งสามคน คือ ให้มีความจริงใจ เพราะมนุษย์ทุกคนไม่โง่ และสิ่งที่สำคัญสำหรับเขาก็คือ “คุณแม่บอกอย่าใจร้อน (หัวเราะ) มันเป็นดวงของผมด้วยแหละ ดวงผมเกิดมาร้อน) ผมเป็นคนคิดเร็ว พูดเร็ว” จากการพูดคุยก็เห็นจริงดังว่า เพราะเขาเป็นคนพูดเร็วมาก (ๆ) แต่ก็สอดรับกับบุคลิกที่ดูคล่องแคล่ว ปราดเปรียวสมกับเป็นผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่
นอกจากเป็นหนอนหนังสือตัวยงแล้ว เขายังรักการออกกำลังกายเล่นกีฬาหลายประเภท อาทิ เทนนิส แบดมินตัน ว่ายน้ำ และวิ่ง “สมัยก่อนแข่งรถด้วย เดี๋ยวนี้แก่ (หัวเราะ) ตาไม่ค่อยดีล่ะ ขับไม่ได้”
Lifestyle ที่บ่งบอกถึงความเป็นคนรักการเรียนรู้อีกอย่างหนึ่งของเขา คือ การท่องเที่ยว “ผมชอบเที่ยวมาก เพราะการท่องเที่ยวเป็นการเปิดสัมผัสทั้งหมด เราเรียนรู้ได้โดยที่เราไม่รู้ตัว เรียนรู้ชีวิต วัฒนธรรม นำมาใช้เรื่องงานเรื่องส่วนตัวได้มาก”
วันที่ POSITIONING นัดสัมภาษณ์เขา เขาเพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่ถึง 24 ชม. “เพิ่งกลับจากยุโรป ก่อนหน้าเพิ่งไปอียิปต์ อินเดียมา สนุกมาก ปกติไปทำงานแต่ก็ขอบวกเรื่องเที่ยวไปด้วย ทำงาน 2 วัน เที่ยวซักวัน”
ภาพของชายหนุ่มหน้าตาดี การศึกษาสูง เกิดมาในตระกูลมหาเศรษฐี ดูทันสมัย เกินกว่าจะนิยมในศิลปะโบราณ เขายังคลั่งไคล้ในศิลปะ และเป็นนักสะสมของเก่า ภายในห้องทำงานของเขา มีรูปปั้นโบราณหลายชิ้น ภาพเขียนบนผนัง โต๊ะทำงานเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ตู้ลิ้นชักซื้อมาจากฝรั่งเศสอายุร่วม 200 ปี ของเก่าเหล่านี้หากไม่บอกว่า เจ้าของ คือ “กฤษณ์ ณรงค์เดช” ก็คงอยากที่จะเชื่อ และนี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนบุคลิกอันหลากหลายของเขา
“ถ้าดูบุคลิก ผมไม่มีนะ นี่ก็เก่ามาก (ชี้ไปที่โต๊ะทำงาน) การใช้ชีวิตเป็นเรื่องของการผสมผสาน คนเราต้องมีสมดุลในชีวิต ทุกวันนี้ผมก็เป็นตัวของผมเอง ผมเปลี่ยนไปเรื่อย ผมไม่รู้เป็นอะไร เอาเป็นว่า ผมเป็นอะไรที่เปลี่ยนไปเรื่อย (หัวเราะ) บุคลิกก็เป็นอย่างนี้”
เป้าหมายชีวิตในอนาคต
“ก็อยากมีคู่คิดซักคนเหมือนกัน ตอนนี้ 34 ปีก็แก่แล้ว (หัวเราะ) แต่มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ผมเชื่อเรื่อง soul mate นะ แต่ soul mate นี่อาจไม่ได้มีคนเดียวในช่วงชีวิตหนึ่ง แต่ว่า soul mate จริงๆ นี่จะมีเพียงคนเดียว”
Profile
Name : กฤษณ์ ณรงค์เดช
Age : 34 ปี
Education :
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
ปริญญาตรี และ ปริญญาโท บริหารธุรกิจ Boston University
Career Highlights :
ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท KPN
Family :
บิดา-มารดา ดร.เกษม-คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช น้องชาย 2 คน ณพ ณรงค์เดช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคพีเอ็น มิวสิค จำกัด
, ประธานกรรมการ บริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด กรณ์ ณรงค์เดช รองประธานการมการบริษัท เคพีเอ็น ไลฟ์สไตล์ จำกัด