ฉลองเทศกาลแบบอนุรักษ์ทรัพยากร

มากเท่าไรแล้วที่มนุษย์แทบทุกคนพากันผลาญทรัพยากรธรรมชาติด้วยกำหนดการเปลี่ยนแปลงเวลาที่เรียกว่าเทศกาล “ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่” กิน ดื่ม ซื้อ และเปิดไฟ จำนวนมากมายเป็นหลายร้อยเท่าของช่วงเวลาธรรมดา ปี 2005 นี้ และปีต่อๆ ไป เราลองหันมาเรียกร้องการประหยัดความฟุ่มเฟือยทุกอย่างในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่เรียกว่าเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกกันไหม

สิ่งที่ทุกคนร่วมกันทำได้ เช่น การให้ของขวัญที่ไม่ต้องห่อ (ประหยัดกระดาษ ริบบิ้น และสก็อตเทป) การส่งการ์ดใบเดียว มอบให้ทั้งครอบครัวและบริษัท (ประหยัดกระดาษจำนวนมาก) การส่งคำอวยพรทางอินเทอร์เน็ต(ประหยัดกระดาษ) และส่งแบบ BCC ถึงหลายคนทีเดียว (ประหยัดไฟ) การกินและดื่มที่ไม่ปรุงและรินมากเกินกว่าช่วงมื้อปกติ (ประหยัดไฟที่ปรุงอาหาร ไม่มีของเหลือ ไม่เปลืองน้ำล้างจานชาม รวมถึงอาจประหยัดสุขภาพด้วยการลดเครื่องดื่มมึนเมา)

นอกจากนั้นการไม่ฉลองยาวนานชั่วโมงเกินไป ยังประหยัดไฟฟ้า ที่ทำแสงสว่างและใช้ในอุปกรณ์บันเทิง รวมถึงอาจประหยัดชีวิตที่ไม่ต้องขับรถกลับบ้านดึกและมึนเมา

สำหรับประเทศที่ฉลองเทศกาลคริสต์มาส มีการเรียกร้องให้ใช้ต้นคริสต์มาสพลาสติกแทนกิ่งสนจริงๆ จะได้เอาเก็บไว้ใช้ใหม่ทุกปี โดยไม่ต้องตัดกิ่งสนกันปีละมากๆ แล้วเอาไปโยนทิ้ง ทั้งน่าเสียดายและสิ้นเปลืองการกำจัดทิ้ง ทั้งรถขนขยะ แรงงาน และการเผาทำลาย

ที่แคนาดา เรียกร้องให้หันมาประหยัดพลังงานด้วยการใช้หลอดไฟ LED ราคาแพง แทนหลอดขั้วหรือ bulb ซึ่งถูกกว่ามากก็จริง แต่เปลืองไฟกว่ามาก นอกจากนั้นหลอดขั้วยังส่งความร้อนสูง ทำให้ต้นไม้จริงเฉาตาย

ราคาจำหน่ายในตลาดแคนาดาคือ หลอดขั้วแบบจิ๋ว 50 หลอด 4 ดอลลาร์แคนาดา แต่หลอดประหยัดไฟราคาราว 8 ถึง 14 ดอลลาร์ หรือแพงเป็น 2-3 เท่า แต่ประหยัดเวลาได้มากกว่า คำนวณแล้วเงินที่จ่ายเกินไปเท่ากับการประหยัดไฟในแค่เดือนแรก

ที่แคนาดาก็ส่งเสริมการใช้ต้นคริสต์มาสเทียมเช่นกัน เพราะนอกจากอยู่ได้นานแล้ว ยังสามารถเลือกต้นคริสต์มาสสีเงิน สีฟ้า หรือสีทองให้เข้ากับห้องได้