“แกะกล่องเกย์” เขียนโดย นที ธีระโรจน์พงษ์ เป็นพ็อกเกตบุ๊กเล่มล่าสุดที่ ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น เลือกนำมาวางขายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ พลอยสีรุ้ง
“เรามองว่าเกย์นั้นมีอยู่แล้วในสังคม ใกล้ชิดกับตัวเรา ซึ่งเวลานี้กระแสเรื่องของเกย์มีมากขึ้น เซเว่นฯมองว่า หนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการอยู่ร่วมกันระหว่างคนในสังคม คนที่เป็นเกย์เอง จะได้ประโยชน์ในการเรียนรู้การใช้ชีวิตในสังคม” พจนารถ ภูวเศรษฐ์ รองผู้จัดการทั่วไป ด้านบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัทซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด กล่าว
“แกะกล่องเกย์” นับเป็นความต่อเนื่องหลังจากที่เซเว่นอีเลฟเว่นเคยประสบความสำเร็จจากการนำพ็อกเกตบุ๊ก “บันทึกรักสีม่วง (อิ๋ง อิ๋ง)” มาวางขาย ทำยอดขายได้ถึง 33,000 เล่ม ในเวลาเพียงแค่ 2-3 เดือน
“ไม่เกี่ยวกันโดยตรง แต่ก็มีส่วนอยู่บ้าง บันทึกสีม่วงนั้นเป็นการเปิดประเด็นเรื่องนี้ แต่สำหรับเลิกแอบเสียทีนั้น เป็นเรื่องสำหรับเกย์โดยเฉพาะ ตัวคุณนทีเอง ก็เป็นคนที่มีคนให้ความสนใจ จากกิจกรรมต่างๆ ที่เขาทำ ก็น่าจะเชื่อมโยงถึงกันได้”
ถึงแม้ว่า เซเว่นฯ จะไม่ได้คาดหวังเรื่องความสำเร็จในด้านยอดขายเท่ากับ บันทึกรักสีม่วง แต่ด้วยยอดพิมพ์ 18,000 เล่มของแกะกล่องเกย์ ซึ่งขายไปได้แล้ว 5,000 เล่ม ในช่วงเวลาเพียงแค่เดือนเดียว ก็เป็นการันตีให้เห็นถึงกระแสการรับรู้เรื่องราวของเกย์ ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ตำแหน่งวางขายก็เป็นตัวบ่งบอกได้เช่นกัน เพราะไม่ใช่พ็อกเกตบุ๊กทุกเล่มจะได้วางขายในใกล้กับจุดชำระเงิน เช่นเดียวกับแกะกล่องเกย์ พจนารถบอกว่า จะต้องเป็นพ็อกเกตบุ๊กที่อยู่ในกระแส และพูดถึงสังคมโดยรวม และต้องมีวางจำหน่ายเฉพาะในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว เซเว่นอีเลฟเว่น กลายเป็นช่องทางขายของสิ่งพิมพ์ ที่กำลังทวีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยจำนวนสาขาที่มีอยู่ถึง 3,000 แห่งที่กระจายไปตามชุมชนต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มที่เป็น mass ซึ่งเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายของ ร้านขายหนังสือทั่วไป โดย หนังสือที่คัดเลือกมาขายในร้านเซเว่นฯ จะต้องอยู่ในกระแสความสนใจ
ด้วยพื้นที่ที่มีอยู่จำกัด พ็อกเกตบุ๊กที่วางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น วางได้แค่ 32 ปก อายุการวางขายเฉลี่ย 2 เดือนต่อเล่ม ขึ้นอยู่กับความนิยม เล่มไหนขายดี ช่วงเวลาของการวางขายจะยาวขึ้น หรือยอดขายไม่เดิน จะถูกนำออกจากชั้นเร็วขึ้น
“เราจะมีลูกค้าขาจร และขาประจำอย่างละครึ่ง เฉลี่ยจะเข้าร้านเซเว่นฯ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ถ้าภาย 1 หรือ 2 อาทิตย์ขายไม่ได้เลย ก็ต้องมาดูกันแล้ว เพราะพื้นที่เราจำกัด แต่มีสินค้าให้เลือกมากขึ้น”
รายได้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแม้จะยังไม่มากเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ แต่ก็เติบโตขึ้นทุกปี เฉพาะพ็อกเกตบุ๊กอย่างเดียว มียอดขายในปี 2546 อยู่ที่ 101 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2546 ในอัตรา 25% คาดว่าในปี 2548 จะมียอดขาย 130 ล้านบาท
นอกจากพ็อกเกตบุ๊ก แล้ว สินค้าหมวดสิ่งพิมพ์ที่สำคัญอีกตัว คือ นิตยสาร แมกกาซีน และการ์ตูน ยอดขายจะมากกว่าพ็อกเกตบุ๊ก หนังสือพิมพ์บางเล่ม เช่น บางกอกทูเดย์ ใช้เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นช่องทางขายสำคัญนอกเหนือจากแผงขายหนังสือทั่วไป ข้อดีของการขายผ่านเซเว่นฯ อยู่ที่ข้อมูลที่สามารถเช็กยอดได้วันต่อวัน
กว่าจะเป็น “แกะกล่องเกย์”
กว่าจะคลอดออกมาเป็นพ็อกเกตบุ๊ก “แกะกล่องเกย์” “นที ธีระโรจน์พงษ์ ” หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี เจ้าของผลงาน “แกะกล่องเกย์” ต้องผ่านอุปสรรคนานัปการ
ด้วยความคิดที่ต้องการ “ไถ่บาป” จากหญิงสาวในอดีต นทีเขียนเรื่องราวประสบการณ์ความเป็นเกย์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับหญิงสาว ใช้ชื่อว่า “ผู้หญิงวันนี้? สามีเกย์วันหน้า” เป็นต้นฉบับแรกที่เขาเขียนขึ้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้พิมพ์เป็นเล่ม เพราะได้รับการปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ถึง 2 แห่ง ความคิดที่จะมีพ็อกเกตบุ๊ก เป็นอันต้องพับไว้ พร้อมกับต้นฉบับที่สูญหาย
แรงกระตุ้นของการทำพ็อกเกตบุ๊กผุดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ได้อ่าน “บันทึกรักสีม่วง (อิ๋ง อิ๋ง)” บวกกับความต้องการลงเล่นการเมือง สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. จำเป็นต้องสร้างความรู้จักในสังคม นทีจึงตัดสินใจหยิบปากกา รื้อฟื้นความทรงจำอีกครั้ง โดยใช้ช่วงเวลา 8-9 วัน ระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจที่สหรัฐอเมริกา คืนละ 2 ชั่วโมง ต้นฉบับของนทีได้รับความสนใจจาก ผู้บริหารของหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ของค่ายทราฟฟิก คอร์นเนอร์ แต่ค่ายทราฟฟิกฯ ไม่สามารถจัดพิมพ์ได้ทันเดือนธันวาคม 2547 ตามที่นทีตั้งเป้าหมายไว้ นทีหอบต้นฉบับมาพิมพ์ที่สำนักพิมพ์ A-line ที่จัดพิมพ์ให้ “อิ๋งอิ๋ง” แต่มาเจอจังหวะที่ อิ๋ง อิ๋ง จะออกพ็อกเกตบุ๊กเล่มที่ 2 จึงหอบต้นฉบับมาพิมพ์ที่บริษัทดีน่าดู แต่ต้องเจอปัญหาอีกจนได้ ครั้งนี้ทำเอานทีถึงกับเลิกล้มความตั้งใจ
“เวลานั้นเราคิดจะเผาทิ้ง ไม่เอาแล้ว ให้ทางสำนักพิมพ์เอาต้นฉบับมาทิ้งไว้หน้าบ้าน พอดีทางเซเว่นอีเลฟเว่นติดต่อมา เพราะเห็นว่ามีประโยชน์ เลยบอกให้เขามาหยิบต้นฉบับที่วางไว้หน้าบ้านเอง ทางเซเว่นฯ ให้สำนักพิมพ์พลอยสีรุ้งเป็นผู้จัดพิมพ์ให้”
แต่อุปสรรคไม่ได้หมดลงเพียงแค่นั้น เมื่อเพื่อนที่เขานำรูปไปลงในพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้ ยื่นคำขาดให้เอารูปออกโดยด่วน เป็นผลให้พ็อกเกตบุ๊ก 13,000 เล่มที่เตรียมวางตลาด ต้องนำมาแก้ไข
ยอดพิมพ์พ็อกเกตบุ๊ก 13,000 เล่ม ในการพิมพ์ครั้งแรก ถูกพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 (3,000 เล่ม) และครั้งที่ 3 (3,000 เล่ม) คือผลตอบรับที่ได้ พร้อมๆ กับสร้างบทบาททางการเมือง ภายใต้ชมรมกลุ่มเกย์การเมืองไทย เพื่อให้ความรู้ทางด้านการเมือง และส่งเสริมให้มีตัวแทนชาวเกย์ไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎร
“แกะกล่องเกย์”ไม่ใช่พ็อกเกตบุ๊กเล่มแรกในชีวิต เมื่อ 16 ปีที่แล้ว นทีเคยมีผลงาน “ก่อนจะก้าวข้ามเส้นสีขาว” ออกมาในปี 2533 ซึ่งเป็นเรื่องราวของเกย์ และเตรียมจะออกผลงานเล่มใหม่ ตำราเกย์สำหรับเด็กอายุ 10 ขวบ เพื่อให้เป็นข้อมูลแก่พ่อแม่ ผู้ปกครอง
นที เป็นชาวตำบลทุ่งครอบ จังหวัดสุพรรณบุรี จบมัธยมปลายที่โรงเรียนทวีธาภิเษก จบคณะเทคนิคการแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำงานเป็นตัวแทนขายยาเกือบ 5 ปี ก่อนจะตัดสินใจไปใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกา ทำให้เขาตัดสินใจเปิดเผยตัวเอง และกลับมาโลดแล่นเรื่องของการเมืองในไทยในฐานะตัวแทนของเกย์