แป้งตรางูเปิดนวัตกรรมสำหรับแป้งเย็นรับลมร้อน ด้วยสูตรเฮอร์เบิ้ล ทุ่มงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ 110 ล้านบาท หวังผลจาก TVC และ radio spot พร้อมอาศัยกระแส Health Concern คนรักผิว ผนวกกับการกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนอกเมืองให้มากขึ้นด้วยความร่วมมือกับชมรมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะการแย่งแชร์ตลาดนอกเมือง ที่ยังต้องตามคู่แข่งอยู่หลายขุม
ปัจจุบัน แป้งตรางูมีอัตราการเติบโตเพิ่มจากปี 2546 ประมาณ 10% ขณะที่ตลาดรวมแป้งเย็นมีการเติบโตลดลง 3% เนื่องจากสงครามราคาที่ต่างฝ่ายต่างห้ำหั่นกันอย่างรุนแรง การออกสูตรใหม่จะช่วยทำให้ตลาดมีความตื่นตัวและดึงดูดให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้แป้งเย็นตลอดทั้งปีด้วยคุณสมบัติของแป้งที่แตกต่างกันในแต่ละสูตร
แม้ Brand Image ของแป้งตรางู จะดูคลาสสิก เพราะเป็นแบรนด์ที่คนรู้จักกันมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ผลจากการสำรวจวิจัยเมื่อปลายปี 2546 พบว่า แบรนด์เริ่มแก่ มีภาพของผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และคงไม่มีลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาแล้ว ขณะที่การหยุดนิ่งด้วยการไม่ออก variant ใหม่ ทำให้แชร์ลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นเมื่อปีที่แล้วจึงได้ออกสูตรลาเวนเดอร์เพื่อจับกลุ่มผู้หญิง ทำให้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 20% ในปัจจุบัน (240 ล้านบาท) และคาดว่า 3 สูตรที่มีของแป้งตรางูจะช่วยกันดันส่วนแบ่งให้พุ่งเป็น 24% (320 ล้านบาท) ภายในสิ้นปี 2548 นี้และเพิ่มพฤติกรรมการใช้แป้งเย็นให้มากขึ้น
“คนในเขตเมืองใช้แป้งตรางูมาก แต่ในชนบทหรือเขตนอกเมืองยังใช้กันไม่มากนัก ดังนั้นการใช้โฆษณาทางทีวีจะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้ ขณะที่อีเวนต์จะใช้เจาะกลุ่มคนเมือง โดยมีคาราวานแจกแป้งขนาดทดลองใช้ 300,000 กระป๋อง ที่แหล่งชุมชน เช่น สยามและสีลม และโมเดิร์นเทรด เป็นต้น” สมชาย นิธิเสถียรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขายในประเทศ บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ให้รายละเอียด
ทำไมต้องเป็นกระป๋องเหล็ก
“ความใหม่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน packaging หรือโลโก้เสมอไป” และนั่นที่ทำให้แป้งตรางูอยู่ใน packaging กระป๋องเหล็ก ที่สำหรับคนบางกลุ่มอาจมองว่าเชย ล้าสมัย แต่ในความเชย ความเฉิ่มนี้ สมชายบอกว่า “เราเคยบอกผู้บริโภคไปแล้วว่า แป้งเย็นจะคงความเย็นได้ดีในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเหล็ก และเพื่อยืนยันข้อมูลนี้เราก็ได้เลิกผลิตแป้งตรางูในบรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกไปแล้ว”
ว่าไปแล้วความพยายามในการให้ความรู้ผู้บริโภคเรื่องคุณสมบัติของ packaging จะดูไม่เป็นผลเท่าไรนัก เพราะ Protex ที่มีส่วนแบ่งอันดับ 1 ก็มี packaging เป็นกระป๋องพลาสติก แต่ประเด็นที่เป็นตัวแปรเพิ่มเติมคือ เรื่องของราคาที่แป้งตรางูมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง 20% ซึ่งอาจทำให้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้บริโภคได้
ตลาดแป้งโดยรวม
– แป้งเด็ก 2,000 ล้านบาท
– แป้งเย็น 1,200 ล้านบาท
– แป้งหอม 600 ล้านบาท
ส่วนแบ่งทางการตลาดแป้งเย็นโดยรวมทั่วประเทศ
– Protex 24%
– ตรางู 20%
– 12 Plus 18%
– เภสัช 18%
แป้งตรางู
Classic
– จับกลุ่มผู้ชายอายุ 30 ปีขึ้นไป เด่นเรื่องความเย็นทน เย็นนาน แต่มีจุดอ่อนคือใช้ได้เฉพาะหน้าร้อน
Lavender
– จับกลุ่มผู้หญิงอายุต่ำกว่า 30 ปี เนื้อแป้งละเอียด ความเย็นลดลง มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ มุ่งเน้นให้ใช้ได้ทั้งปี
Herbal
– จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ชายหญิง ที่ใส่ใจสุขภาพผิว อายุประมาณ 24-25 ปีขึ้นไป