คนอเมริกันเลือกรถคันเล็กลง

อเมริกันเป็นเจ้าแห่งรถคันใหญ่ อาจเห็นได้จากหนังย้อนยุคที่มีรถเชพโรเล็ต มาลิบู เปิดประทุน คันกว้างใหญ่ และรถบูอิ๊คคันยาวเกือบสิบเมตร ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีคนนำมาขับกันอยู่ โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย

น้ำมันราคาแพง ทำให้เทรนด์เปลี่ยนไป ทั่วโลกนิยมรถประหยัดน้ำมันเป็นหลัก ที่อเมริกาซึ่งเคยชอบใช้รถคันใหญ่มากๆ เทรนด์นี้จึงเห็นชัดมาก เพราะยอดขายรถเก๋งกึ่งแวน หรือ Sport Utility Vehicles (SUVs) ที่สูงตลอด 15 ปี ตอนนี้ตกลง และยอดขายรถกระเป๋าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถกระเป๋าที่ทำเป็นรูปเก๋งกึ่งแวน ที่เรียกว่า สมอลซัฟส์ หรือบางทีเรียกว่า Cross Utility Vehicles (รถสารพัดประโยชน์)

บริษัทรถยนต์ในสหรัฐฯ พากันวิตกกังวล เพราะเทรนด์นิยมรถเล็กนี้ บริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถแข่งได้กับผู้ผลิตรถยนต์จากเอเชีย โดยเฉพาะ ฮอนด้า โตโยต้า เกีย และฮุนได ที่ค่าแรงและต้นทุนทุกอย่างถูกกว่า

บริษัทรถยนต์ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ในอดีตนั้นเคยทำกำไรได้ดีกับรถ ซัฟส์ ซึ่งตั้งราคาได้แพง แต่ตอนนี้รถเล็กกว่า ถูกกว่ามากจากเอเชียตีตลาด ยิ่งน้ำมันแพงขึ้น โดยช่วงไตรมาสแรกของปี 2005 ยอดขายรถซัฟส์ขนาดใหญ่ลดลงแล้ว 15 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มว่าจะลดลงอีกมาก

บริษัทรถยนต์รายใหญ่สุดหนึ่งในสองรายบอกว่า ปีนี้นั้นบริษัทคงจะทำรายได้แค่พอคุ้มทุน ส่วนในตลาดหุ้น นักวิเคราะห์หลายคนออกความเห็นลดเกรดหุ้นของจีเอ็ม และฟอร์ดที่เคยเป็นหุ้นชั้นดี หรือ บลู ชิพ (blue chip) ดาวน์ลงไปเกือบถึงชั้นหุ้นขยะ (junk)