ไม่เพียงสินค้าไทยจะใช้เวทีมิสยูนิเวิร์สสร้างแบรนด์เพื่อโกอินเตอร์เท่านั้น แต่เจ้าของธุรกิจอัญมณีจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่างบริษัท “เค มิกิโมโต้ แอนด์ คอมปะนี” เจ้าของลิขสิทธิ์ผลิตมงกุฎติดต่อกัน 10 ปีใช้เวทีเดียวกันนี้เปิดสาขาเพื่อทำตลาดในไทยเช่นกัน
โตโยฮิโกะ มิกิโมโต้ ประธานบริษัท เค มิกิโมโต้ แอนด์ คอมปะนี จำกัด ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับรู้ถึงการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการเป็นผู้สนับสนุนมงกุฎเพชรนางงามจักรวาลมิสยูนิเวิร์ส 2005 ประดับไข่มุก มูลค่า 10 ล้านบาท ( 250,000 เหรียญสหรัฐ )
จากการที่สื่อมวลชนไทยได้มีโอกาสโยมโฉมมงกุฎเพชรประดับมุกอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก รวมทั้งผลงานเครื่องประดับ ประเภทต่างหู สร้อยคอ แหวน จำนวน 11 ชิ้น ภายใต้ชื่อ “มิกิโมโต้ มิว คอลเลคชั่น“ ซึ่งแต่ละชิ้นทำจากฝีมือช่างผู้ชำนาญมีเพียงไม่ถึง 10 ชิ้นในโลก
เครื่องประดับชิ้นเอกจะถูกเจนนิเฟอร์ ฮอคเก็นส์ มิสยูนิเวิร์ส ปี 2004 ใส่โชว์ขึ้นเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส เท่ากับเป็นการทำตลาดประชาสัมพันธ์สินค้าล่วงหน้าของมิกิโมโต้ ก่อนโชว์รูมไทยจะเปิดตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ยิ่งเป็นการันตีภาพลักษณ์สินค้าให้ดูเด่นยิ่งขึ้นเมื่อคนไทยทั่วประเทศรู้ว่า เครื่องประดับเพชรและไข่มุกที่ขายในประเทศไทยเป็นสินค้าเดียวกันกับที่สนับสนุนมงกุฎเพชรมิสยูนิเวิร์ส 2005
Flagship Store
เป็นความตั้งใจของบริษัท เค มิกิโมโต้ แอนด์ คอมปะนี ที่ทำให้โชว์รูมในไทย เป็น Flagsship Store ที่หรูหรากว่าโชว์รูมอื่นๆ ที่มีอยู่กว่า 100 สาขา เพราะต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการค้าขายเครื่องประดับเพชร ไข่มุก กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียอย่างฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย โดยโชว์รูมใหม่แห่งนี้ตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าสยาม พารากอน ใช้เนื้อที่ 180 ตารางเมตร
มงกุฎมิสยูนิเวิร์ส
มงกุฎนางงามจักรวาลมีรูปแบบงานดีไซน์ทรงขนนกฟีนิกซ์ ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าเมื่อตายไปแล้วจะไปเกิดใหม่ (new born) มีความเป็นอมตะ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกับบทบาทและพลังของผู้หญิงที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น ส่วนไข่มุกบ่งบอกถึงความมีสุขภาพดี (Good Health) มงกุฎอันทรงเกียรตินี้ประดับด้วยเพชรน้ำงามทรงกลมเหลี่ยมเกสร 800 เม็ด น้ำหนักรวม 18 กะรัต ไข่มุกจำนวน 120 เม็ด ประดับประดาอย่างงดงาม
Profile
ตระกูลมิกิโมโต้ เริ่มต้นการผลิตไข่มุกมายาวนานกว่า 110 ปี โดยโกกิชิ มิกิโมโต้ บรรพบุรุษต้นตระกูลมิกิโมโต้ได้ค้นคว้าและผลิตไข่มุกเลี้ยงสำเร็จจนได้รับการขนานนามว่าเป็น King of Pearl ด้วยรูปแบบการดีไซน์ชั้นสูง โตโยฮิโกะ มิกิโมโต้ ถือเป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการประกวดมิสยูนิเวิร์สมาตั้งแต่ปี 2002 จนกระทั่งถึงปี 2011



