“นิธิ พัฒนภักดี” โรงหนังขายได้ไม่ใช่แค่ตั๋วหนัง

แม้ชื่อ “นิธิ พัฒนภักดี“ จะไม่คุ้นหูในวงการสื่อโรงภาพยนตร์อย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” แต่ประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการสื่อโฆษณามาเกือบ 13 ปี น่าเป็นการการันตรีความสามารถ ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป “เมเจอร์ ซีนีแอด” ที่ต้องรับผิดชอบการหาสื่อทั้งหมดของเครือ “เมเจอร์ กรุ๊ป”

เกือบ 2 ปีที่ “นิธิ” เข้าร่วมงานกับเมเจอร์ ด้วยดีกรีปริญญาตรี บริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมประสบการณ์บริหารจัดการสื่อที่สั่งสมตลอด 13 ปี ทำให้เขาเข้าใจตลาดสื่อในภาพรวมได้เป็นอย่างดี บวกกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชอบการดูหนัง ฟังเพลงเป็นทุนอยู่แล้ว การเรียนรู้และบริหารงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งตีโจทย์ของลูกค้า “เมเจอร์ ซีนีแอด” พรีเซนต์งานออกไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้ไม่ยากนัก

“นิธิ” เริ่มต้นชีวิตการทำงานบริหารสื่อโฆษณา ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส ของเครือบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด รับผิดชอบงานขายสื่อโฆษณาทั้งหมดของเนชั่น ตั้งแต่สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อรายการวิทยุ และโทรทัศน์ รวมทั้งสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งยังถือว่าใหม่มากสำหรับตลาดเมืองไทยเวลานั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีให้เขาหล่อหลอมประสบการณ์ใหม่ๆ ในวงการสื่ออยู่ตลอดเวลากว่า 6 ปี

ก่อนจะลาออกมานั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท Creative Syndicate จำกัด ออแกไนเซอร์ รับจ้างผลิตสื่อโฆษณา และจัดอีเวนต์ต่างๆ ที่เขาและเพื่อนร่วมกันจัดตั้ง จึงต้องอาศัยศิลปะในการคิด และสร้างสีสัน เป็นประสบการณ์ที่นำมาประยุกต์ใช้บริการเช่าพื้นที่จัดอีเวนต์เมื่อครั้งเข้ามาบริหารสื่อให้เมเจอร์

“ผมเต็มที่กับการทำงาน สนุกกับงานทุกชิ้น เพราะถือว่านี่คือโอกาสที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต ส่งผลให้ตลอดเวลาสิบกว่าปีบนเส้นทางสายสื่อโฆษณาเต็มไปด้วยสีสัน ที่ไม่สามารถหาได้ในชั้นเรียนทั่วไป จนเกิดผลดีกับผม เมื่อวันหนึ่งได้ทำงานระดับบริหาร จึงหยิบประสบการณ์เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ได้”

ด้วยบุคลิกที่สุภาพ และสุขุมรอบครอบของหนุ่มใหญ่คนนี้ ส่งผลให้เป็นคนที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียดในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทีมการตลาด เรียนรู้ และติดตามความเคลื่อนไหวในวงการมีเดียอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ จนกลายเป็นความสามารถที่โดดเด่น

จน “เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป” ต้องดึงตัวกลับมาช่วยงานอีกครั้ง ในตำแหน่งรองประธาน ฝ่ายการตลาดนานเกือบ 5 ปี จึงเป็นโอกาสสร้างประสบการณ์ที่ดีในระดับบริหาร และเรียนรู้เกมการตลาดได้อย่างลึกซึ้ง กระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสเข้ามาดูแลสื่อในโรงภาพยนตร์ของ “เมเจอร์ กรุ๊ป” จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และแตกต่างออกไป

“ตลาดสื่อโฆษณาปีที่แล้วสูง 60,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้น่าจะขยายตัวมากขึ้น และสื่อที่น่าสนใจที่สุดคือ สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ น่าจะเพิ่มสัดส่วนตลาดเป็น 1.5-1.6% ในปีนี้ จากปีที่ผ่านมามีสัดส่วน 1.3-1.4% แม้จะเป็นแชร์ที่ยังน้อยมาก แต่หากคิดเป็นมูลค่าแล้วกว่า 900 ล้านบาท ผมว่าไม่น้อยเลย” นิธิบอกถึงโอกาสในธุรกิจ

“เมเจอร์ ซีนีแอด” เป็นเวทีใหม่ที่ผู้บริหารราศีกันย์คนนี้ต้องพิสูจน์ฝีไม้ลายมือ เพื่อสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับเมเจอร์ โดยอาศัยต้นทุนสื่อโรงภาพยนตร์ที่พร้อมอยู่แล้วในปัจจุบัน เพียงแต่ต้องหากลยุทธ์ หรือความเป็นมืออาชีพเข้ามาขยายตลาด และทำเงินจากกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น

“รายได้จากการโฆษณาของเครือเมเจอร์ในปีที่ผ่านมามีประมาณ 250 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 70-80% และมีสัดส่วนรายได้จากการให้เช่าพื้นจัดอีเวนต์มากขึ้น”

ภาระสำคัญ คือ การหารายได้ จากการขายโฆษณาก่อนการฉายภาพยนตร์ ป้ายประชาสัมพันธ์ และป้ายดิจิตอล รวมทั้งบริการให้เช่าพื้นที่จัดอีเวนต์ให้กับผู้ประกอบการ สินค้าคอนซูเมอร์ และสินค้าไอที ซึ่งเริ่มนิยมใช้เป็นสถานที่เปิดตัวสินค้า และจัดกิจกรรมการตลาดให้เข้าลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ และมีไลฟ์สไตล์แบบเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น

นับว่า “นิธิ” ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการขายโฆษณาแบบใหม่ให้ “เมเจอร์ กรุ๊ป” โดยเน้นสื่อกิจกรรมให้ตรงกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก เช่นล่าสุดทำให้เกิดความร่วมมือระหว่าง “โนเกีย” กับ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ที่ร่วมลงทุนเปิดโรงภาพยนตร์ “โนเกีย แพลตินั่ม สกรีน” สาขาต้นแบบที่เมเจอร์ รัชโยธินพร้อมกัน 2 โรง และขยายเพิ่มที่สาขาเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า อีก 1 โรง ด้วยสัญญาระยะยาว 1 ปี

“โนเกียให้โจทย์มาว่า ต้องการสถานที่จัดกิจกรรมการตลาด และสื่อสินค้าเทคโนโลยีให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น เราจึงเสนอช่องทางสื่อโรงภาพยนตร์กลับไป จนเกิดเป็นความร่วมมือนี้”

นับจากนี้ไปโรงภาพยนตร์ “โนเกีย แพลตินั่ม สกรีน”จะเป็นเวทีใหม่ในการจัดกิจกรรมการตลาด จัดอีเวนต์ และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ของโนเกียให้เข้าถึงฐานลูกค้าชั้นดีกว่า 500,000 รายของเมเจอร์ และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ด้วยราคาบัตร 170 บาทต่อที่นั่ง แต่ลูกค้าจะได้สิทธิพิเศษในการดูภาพยนตร์รอบพิเศษ และหนังใหม่ รวมทั้งดูหนังสั้นของโนเกียก่อนใคร ซึ่งเป็นกลยุทธ์การแชร์ฐานลูกค้าของ 2 เวนเดอร์ที่น่าสนใจไม่น้อย

“สื่อโรงภาพยนตร์เป็นช่องทางใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าสื่ออื่นๆ อาทิ โทรทัศน์ที่ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท ต่อโฆษณาแต่ละชุด หรือป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงขึ้น แต่ยังไม่สามารถโฟกัสกลุ่มลูกค้าได้ แตกต่างจากสื่อโรงภาพยนตร์ที่ตรงกับไลฟ์สไลต์คนรุ่นใหม่มากที่สุด”

นิธิยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมไม่ใช่คนใช้ชีวิตอย่างเฟ้อฝัน และไม่วางแผนชีวิตไว้ยาวเกินไป แต่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะเชื่อว่าผลของการกระทำในวันนี้ จะสร้างโอกาสดีๆ ในอนาคต จึงชอบที่จะทำงานหนักเข้าไว้ และไม่ลืมที่จะเก็บเกี่ยวเกี่ยวประสบการณ์ที่ได้จากเจ้านาย และข้อคิดของเพื่อนร่วมงานมาประยุกต์ใช้ เพื่อต่อยอดแนวคิดในการพัฒนาตัวเอง”

Profile

Name : นิธิ พัฒนภักดี
Born : 11 กันยายน
Education :
ปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
Career Highlights :
1190-1996 ผู้จัดการฝ่ายขายอาวุโส บริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด
1196-1999 กรรมการผู้จัดการ บริษัท Creative Syndicate จำกัด
1999-2003 รองประธาน ฝ่ายการตลาด บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด
2003-ปัจจุบัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เมเจอร์ ซีนีแอด จำกัด ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป
Family : โสด, เป็นลูกชายคนที่ 2 ในบรรดาพี่น้อง 3 คน ชาย 1 คน และหญิง 2 คน