Jin Xing ชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าหนัง

เมื่อหนังจบลง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า “จินซิง” ในบทของ “มาดามโรส” เจ้าแม่จอมอำมหิตในหนังต้มยำกุ้ง มีชีวิตที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

อย่างน้อยหลายคนก็คงไม่รู้ว่า “เธอ” คนนี้เคยเป็นผู้ชายมาก่อน และไม่ใช่แค่ ผู้ชายธรรมดาๆ แต่บนบ่ายังติดดาวยศนายพันแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน!

ทุกอย่างเริ่มจากแดนเหลียวหนิง มาไกลจากชายแดนเหนือ ในฐานะของครอบครัวผู้ลี้ภัยเชื้อสายเกาหลี เริ่มฝึกศิลปะการแสดงและการเต้นตั้งแต่อายุเก้าขวบ และเหมือนเด็กๆ ชาวจีนคนอื่นที่ถ้าอยากมีอนาคตยาวไกลด้านการแสดง ก็ต้องเริ่มฝึก สถาบันสอนการแสดงที่ดีที่สุดคือ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ที่มีหน่วยศิลปวัฒนธรรมที่ใหญ่โต และเป็นแหล่งรวมครูสอนที่ดีที่สุดในเวลานั้น

หลายปีที่ทุ่มเทกับการฝึก และมีฝีมือเลื่องลือ จนเป็นชาวจีนคนแรกที่ผ่านการคัดเลือกจนได้ทุนไปเรียนโมเดิร์น แดนซ์ที่นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ในยุคที่การเมืองระหว่างสองมหาอำนาจเริ่มผ่อนคลายในยุคเติ้งเสี่ยวผิงขึ้นสู่อำนาจ

ที่นิวยอร์ก เธอได้ฝึกศิลปะการแสดงอย่าง มาร์ธา แกรห์ม (Martha Graham) โฮเซ่ ไลมอน (Jose Limon) และเมิร์ซ คันนิ่งแฮม (Merce Cunningham) ซึ่งเป็นเหล่าปรมาจารย์ด้านศิลปะการแดนซ์ในอเมริกา ผ่านงานที่พิสูจน์ฝีมือหลายครั้ง และกลับมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการบุกเบิกสานต่อการเต้นรำสมัยใหม่ในจีนแผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะที่เซี่ยงไฮ้

ถึงอาชีพการงานในช่วงหลังขึ้นสูงจนติดดาวยศนายพัน และงานแดนซ์ก็ได้รับการยอมรับถึงในระดับสากลและในเมืองจีนเอง แต่เธอก็ช็อคสังคมจีนอีกครั้ง ด้วยการตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ ในปี 1995 เพื่อสานต่ออารมณ์และความรู้สึกส่วนตนที่อยากใช้ชีวิตเยี่ยงหญิงมากกว่าชาย

ถึงแม้รับความเป็นหญิงเข้ามา แต่เธอก็ยังรักษาความแกร่งลึกไว้ในตัว ไม่ทำศัลยกรรมใบหน้า ไม่ผ่าตัดแปลงกล่องเสียง

และที่สำคัญ เธอยังเหมือนดาราบู๊ และสตันท์ฮ่องกง มากมายที่โตมากับการฝึกของงิ้วปักกิ่ง กังฟูเป็นอีกวิชาที่ติดตัวมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอเคยออกปากเล่าหลังเข้าฉากหนังแอ็กชั่นเกาหลี ที่มีซีนบู๊พอสมควร ว่า แอ็กชั่นพวกนี้ฝึกมามากตั้งแต่เด็กๆ จนเคยชิน

นุ่มนวลเหมือนนักบัลเลต์ แต่ก็กร้าวได้เหมือนทหาร ที่เป็นอาชีพอันยาวนานก่อนแปลงเพศ

ยิ่งกว่านั้น บทเจ้าแม่ ในเรื่องต้มยำกุ้ง ก็คงจะเหมาะกับเธอ เพราะในชีวิตจริงนอกจากจะต้องฟันฝ่าระบบราชการจีนแล้ว ยังขึ้นชื่อว่า โหดสุดๆ ในการคุมคณะบัลเลต์ในเซี่ยงไฮ้ ทั้งการคุมท่าเต้นบนเวทีและการบริหารงาน จนถึงกับเคยไล่คนออกทีเดียวสามสิบกว่าคนมาแล้ว

ความสนใจในเรื่องราวของเธอยังมีอยู่เรื่อยมา จนกลายเป็นคนดังของเอเชีย ล่าสุดเธอเพิ่งออกรายการ Talk Asia ของเครือข่ายโทรทัศน์ CNN ไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา งานภาพยนตร์ของเธอก็นานาชาติเช่นกันเริ่มจากหนังเกาหลี ญี่ปุ่น และไทยในที่สุด