บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับชมภาพยนตร์ของคนไทยในชื่อว่า “ยุคทองของหนังไทย” หลังจากครึ่งปีหลังพบว่าภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ คือ ไอที สินค้ามือสอง เอนเตอร์เทนเมนต์ ประกันชีวิต และขายตรง โดยเฉพาะธุรกิจบันเทิงมีกระแสที่น่าสนใจ ทั้ง animation ภาพยนตร์ และสถานที่เที่ยวกลางคืน (ผับ บาร์) และงานวิจัยชิ้นนี้เลือกโฟกัสไปที่ภาพยนตร์ โดยกำหนดอายุของกลุ่มตัวอย่างที่ช่วงอายุ 21-40 ปี มีพฤติกรรมในการดูภาพยนตร์เป็นประจำ และติดตามข้อมูลข่าวสารทางด้านภาพยนตร์ พบว่าเป็นเพศชาย 50.5 % เพศหญิง 46% และเกย์ 3.5% ตามลำดับ
1.รายได้
รายได้ไม่เกิน 10,000 บาท 28.5%
รายได้ 10,001 – 20,000 บาท 32%
รายได้ 20,001 – 30,000 บาท 34.5%
รายได้มากกว่า 30,000 บาท 5%
2.อาชีพ
พนักงานบริษัทเอกชน 23.5%
นักศึกษา 15.5%
Finance & Account 10.5%
Advertising / Graphic / Designer 10.0%
AE / ดูแลลูกค้า / Sale 8.5%
กลุ่มตัวอย่าง 2 ช่วงวัย
“กลุ่มวัยรุ่น 21-30 ปี สนใจในเรื่องบันเทิงอยู่แล้ว ขณะที่ 31-40 ปี ก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน แต่ด้วยเงื่อนไขของเวลา และโปรแกรมฉายไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งทางผู้ประกอบการโรงหนังน่าจะได้ข้อคิดในเรื่องของการจัดโปรแกรมเพื่อเอื้อต่อความต้องการของคนกลุ่มหลังนี้ด้วย” ภูษิต เพ็ญศิริ ผู้ทำการวิจัยเรื่องนี้ให้รายละเอียด
ผลการศึกษาพบว่า คนส่วนใหญ่จะหาเวลาในการเข้าชมภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศ ที่โรงภาพยนตร์
อย่างน้อย 1 เรื่อง ภายในระยะเวลา 1 เดือน คิดเป็น 74.3%
หนังไทยหรือเทศโดนใจคนวัยไหนบ้าง
คอหนังที่มีอายุอยู่ในช่วง 21 – 30 ปี มักจะนิยมชมหนังสัญชาติไทยมากกว่าหนังสัญชาติต่างประเทศ คิดเป็น 63.6% แต่คอหนังที่มีอายุอยู่ในช่วงระหว่าง 31-40 ปี กลับนิยมหนังสัญชาติต่างประเทศมากกว่าหนังสัญชาติไทย ถึง 57.4%
คอหนัง 21-30 ปี อนุรักษ์หนังไทย
ดูจากผู้กำกับการแสดง/ชอบ 6.3%
สนุกดี/สนุกสนานตื่นเต้น9.5%
ชอบดาราไทยแสดงบทบาท11.1%
เข้าใจง่ายกว่าหนังเทศ ตลกกว่า12.7%
ชอบดูหนังไทย/อนุรักษ์หนังไทย17.5%
คอหนัง31-40ปี บอกว่าหนังเทศดีกว่าหนังไทย
มีแนวที่ชอบ3.4%
เนื้อเรื่องดี/มีหลายแนว5.2%
ทุ่มทุนสร้าง8.6%
ซับซ้อนดีคาดเดาตอนจบได้ยาก/น่าติดตาม12.1%
สนุกดี/สนุกสนานตื่นเต้น20.7%
หนังมีคุณภาพดูแล้วไม่เสียดายเงิน
สนุกถูกใจ/ชอบ/มีความสุข6.6%
สร้างหนังยอดเยี่ยม/ได้รางวัล/ทำรายได้ดี8.1%
แล้วแต่ความชอบของแต่บุคคล11.1%
มีความรู้สึกคล้อยตาม14.1%
ไม่เสียดายเงิน/ไม่ผิดหวัง18.2%
หนังแนวไหนควรค่าแก่การชม
“คนดูเริ่มดูหนังเป็น เลือกที่จะดูจากแนวหนังมากขึ้นว่าชอบหนังแนวไหน ซึ่งสะท้อนว่าเขาเลือกมีความเป็นตัวของตัวเองตามความชอบส่วนตัว มีความเป็น individuality สูง มากกว่าที่จะเลือกดูหนังจากปัจจัยแวดล้อม”
ซึ่งแตกต่างกับคอหนังวัย 31 – 40 ปี ที่กลับเห็นว่า ดารา นักแสดง ต่างหากจะทำให้หนังเรื่องนั้นควรไปดูหรือไม่ควรไปดู 28% เพราะเห็นว่าดารา นักแสดง แสดงบทบาทได้ดี และมีความสามารถสูง ร้อยละ 67.14% และอยากดูดาราที่ตัวเองชอบ 14.29%
กลุ่มผู้ชมภาพยนตร์ในช่วง อายุ 21-30 ปี
อื่นๆ 2.0%
การประชาสัมพันธ์8.6%
การถ่ายทำ4.0%
แนวหนัง28.8%
ดารานักแสดง24.7%
การตัดต่อ7.1%
บทภาพยนตร์11.1%
ผู้กำกับ13.6%
แนวหนังเพราะ……
แนวที่ชอบ45.6%
บางแนวไม่น่าจะดูเลย15.8%
น่าสนใจ/แนวใหม่ๆ/เข้าใจง่าย14.0%
ไม่ชอบแนวพีเรียด7.0%
ชอบแนวสยองขวัญ5.3%
ชอบแนวหนังประวัติศาสตร์3.5%
อลังการงานสร้าง1.8%
เหมาะสมกับนักแสดง1.8%
ดูได้ทั้งครอบครัว1.8%
ชอบหนังแนวไซ ไฟ1.8%
ชอบหนังแนว Erotic1.8%
ผู้กำกับ…จุดสำคัญของการตัดสินใจ ดูหรือไม่ดู
นอกจากแนวของหนัง และดารา–นักแสดง ที่จะทำให้พวกเขาไปดูหนังแล้ว มีอีกอย่างหนึ่งที่ผู้บริโภคเห็นว่าหนังควรจะไปดูหรือไม่ควรไปดู คือ “ผู้กำกับ” นั้นเอง มีเหตุผลที่น่าสนใจที่เป็นเสียงสะท้อนกลับมาจากผู้บริโภคหนัง พวกเขาชอบผู้กำกับคนนั้นจึงเลือกดู โดยต้องการผู้กำกับที่มีฝีมือ 57.3% และ มีรางวัลรับประกัน 12%
“ผู้กำกับแต่ละคนสร้าง positioning ของตัวเองให้แตกต่าง เอื้อต่อการทำ movie marketing เพราะผู้กำกับมีส่วนสำคัญที่จะชี้เป็นชี้ตายหนังได้ว่าจะรุ่งหรือร่วง”
ปากต่อปาก พลังโกยยอดตั๋ว
คอหนังถ้าไปดูหนังแล้ว พบว่าหนังนั้นมีคุณภาพ เขาจะบอกต่อหรือไม่ น่าสนใจทีเดียว เพราะว่าช่วงอายุ 21-30 ปี แสดงความคิดเห็นว่า บอกต่อแน่นอน โดยไม่รอให้เพื่อนหรือคนใกล้ชิดถามเลย ถึง 36.4% และไม่บอกแน่นอน 36.4% เช่นกัน แต่สำหรับช่วงอายุ 31–40 ปี จะบอกก็ต่อเมื่อเพื่อนหรือคนใกล้ชิดจะถาม 47.5% และบอกแน่นอน 39.6%
“Buz Marketing สำคัญมาก โดยเฉพาะยุคออนไลน์ การบอกผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง มีการจุดกระแสในสังคมไซเบอร์ เป็นส่วนหนึ่งของ movie marketing หนังบางเรื่องกระแสไม่เกิด ทั้งๆ ที่ตัวหนังดี ก็ดับได้ แต่กรณีของต้มยำกุ้ง ก้าวล้ำไปกว่านั้นเป็น premium maketing เลย เพราะมีเกมออนไลน์ หนังสือการ์ตูน ครบวงจร เป็น model เหมือนหนัง hollywood”
บอกต่อหรือไม่บอกต่อ(%)
แล้วแต่เพื่อนจะถาม
– 31-40 ปี 47.5%
-20-30 ปี 27.3%
ไม่บอกแน่นอน
– 31-40 ปี 12.9%
-20-30 ปี 36.4%
บอกแน่นอน
– 31-40 ปี 39.6%
-20-30 ปี 36.4%
ยุคทองของหนังไทย
คอหนังส่วนใหญ่เห็นว่าขณะนี้เป็น “ยุคทอง” ของหนังไทยมากที่สุด เหตุผลที่คอหนังเห็นว่าเป็นยุคทองของหนังไทย เพราะคนให้ความสนใจหนังไทยมากขึ้น 21.6% รองลงมา กระแสหนังไทยมาแรง 14.2% และมีให้เลือกหลายแนว 1.7% ตามลำดับ
“แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีเท่าไรนัก แต่คนดูหนังก็จะยังดูหนังอยู่โดยจะเลือกเฟ้นหาหนังดีๆ ที่ควรค่าแก่การเสียเวลาและเงินค่าตั๋ว นั่นจะส่งผลให้คนทำหนังต้องทำแต่หนังที่มีคุณภาพ ต้องฝันฝ่าอุปสรรคต่างๆ เพื่อดึงดูดคนกลุ่มนี้”
หนังไทย 81.0%
หนังเทศ 19.0%
มั่นใจแค่ไหนหนังไทยโกอินเตอร์?
สามารถก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ได้อย่างแน่นอน 48.7%
ไม่แน่ใจ 42.7%
ไม่ได้แน่นอน 8.5%
+ เจ๋งพอที่จะโกอินเตอร์
คนไทยเก่ง / มีฝีมือ 37.1%
มีหลายแนวให้เลือกชม 13.4%
– แน่ใจเหรอว่าจะเกิด
อาจจะยากในตลาดโลก 28.2%
มีคู่แข่งเยอะ 17.6%
ไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะว่ายังขาดคุณภาพ 41.2%
“ต้มยำกุ้งจะเป็นต้นแบบของความสำเร็จ และจะทำให้ทั้งผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ และนักการตลาดเดินตามรอยนี้ เป็นประกายแห่งความหวังที่จะผลักดันให้หนังไทยโกอินเตอร์กันอย่างต่อเนื่อง…เป็นกระแสที่เป็นไปได้จริง”
หาข้อมูลหนังจากไหนบ้าง
ส่วนใหญ่ไม่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ 76.5% และ ติดตามข้อมูลภาพยนตร์จากเว็บไซต์ เพียงแค่ 23.5% ซึ่งเว็บไซต์ที่ติดตามข้อมูลภาพยนตร์นั้น มีดังนี้
เว็บไซต์
• www.sanook.com ร้อยละ25.5
• www.pappayon.com ร้อยละ19.1
• www.major.com ร้อยละ14.9
• www.kapook.com ร้อยละ14.9
• www.EGV.com ร้อยละ12.8
• www.yahoo.com ร้อยละ4.3
• www.movie2u.com ร้อยละ2.1
• www.pantip.com ร้อยละ2.1
ทำอะไรกันบ้างในเว็บไซต์
เช็กข้อมูลภาพยนตร์เข้าใหม่ 44.7%
อ่านเรื่องย่อของภาพยนตร์ 21.3%
เช็ควันเวลาฉายพร้อมโรงภาพยนตร์/อ่านบทนักวิจารณ์ 12.8%
แสดงความคิดเห็นในกระทู้ 8.5%
และจากการสำรวจด้วยการสอบถามถึงความรู้สึกที่มีการตั้งกระทู้ต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ผ่านทางเว็บไซต์ พบว่า กลุ่มผู้ที่มีอายุ 21-30 ปี จะให้ความสนใจในการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ค่อนข้างมาก ซึ่งกลุ่มนี้คิดว่า “รู้สึกดี” ถึง 57.6% แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 31-40 ปี กลับรู้สึกว่าการตั้งกระทู้เป็นเรื่องเฉยๆ ถึง 56.4%
“หนังมาเร็วออกเร็ว โลกออนไลน์มีอิทธิพลต่อการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ แม้จะต้นทุนต่ำแต่มีอิทธิพลสูง นอกจากนี้ยังมีสื่อทีวี และนิตยสารที่ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์เกี่ยวกับหนังมากขึ้น”
คนไทยกับหนังไทย
คนไทยควรอุดหนุนหนังไทยเยอะๆ 93.5%
ไม่ควรสนับสนุน 6.5%
5 เหตุผลที่คนไทยควรดูหนังไทย
เหตุผล 5 อันดับแรกที่ “คนไทยควรสนับสนุนหรือมาดูหนังไทยกันเยอะๆ” คือ
คนประเทศอื่นยังมาดูหนังไทยเลย 5.9%
หนังไทยเริ่มมีคุณภาพดี 10.7%
จะได้มีกำลังใจทำกันต่อไป 11.2%
เป็นหนังของคนไทย 12.3%
ช่วยๆ กันอุดหนุนหนังไทย 29.4%
เหตุผลที่คอหนังปฏิเสธหนังไทย
คุณภาพไม่เพียงพอ 7.7%
อาจจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป 7.7%
ไม่ค่อยได้รางวัล 15.4%
สู้หนังต่างประเทศไม่ได้อยู่แล้ว 15.4%
ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย 15.4%
ไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร 15.4%
บางเรื่องไม่มีความน่าสนใจเลย 23.1%
บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด เป็นบริษัทที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารงานวิจัยที่หลากหลาย โดยมี
ภูษิต เพ็ญศิริ เป็นกรรมการบริหาร จบปริญญาตรี ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปัจจุบันยังเป็นกรรมการบริหารบริษัท สินธุ ครีเอชั่น จำกัด บริษัท เกรทสตาร์ มัลติเทรด จำกัด ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาธุรกิจมิวเทค คณะบริหารธุรกิจ ม.เทคโนโลยีมหานคร นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์พิเศษด้านการสื่อสารการตลาด การรณรงค์งานโฆษณามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ ศิลปากร เซนต์จอห์นและรังสิต อีกทั้งยังเป็นวิทยากรรับเชิญทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เครือปูนซิเมนต์ไทย ไทยประกันชีวิต และธนาคารกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น