อวิกา เตชะรัตนประเสริฐ …โรงหนังของชีวิต

ผู้หญิงตัวเล็กๆ เพรียวบาง ผมยาวเหยียดตรง ให้เธอลองยิ้มซิ!..รอยยิ้มที่สร้างดวงตาหยีๆ ของเธอ ย่อมบ่งบอกได้ว่า เธอเป็นลูกสาวของใคร ใช่, เธอเป็นทายาทของ “เสี่ยเจียง” สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ เป็นสาวน้อยนักบริหารการตลาด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในเวลานี้ของสหมงคลฟิล์ม

อวิกา หรือ เอ๋ เป็นลูกสาวคนโต ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายเสี่ยเจียง ผู้เป็นพ่อมาก เมื่อเปรียบเทียบกับลูกคนอื่นๆ บางคนเห็นหน้าต่างบอกว่าเหมือนถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน เธอเรียนจบรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่วิชาการปกครองดูเหมือนไม่ใช่ชะตาชีวิตในการทำงานของเธอ

“ตั้งใจแต่แรกๆ เรียนรัฐศาสตร์จบ อยากจบมาทำงานที่ยูเอ็น กระทรวงต่างประเทศ แต่เหมือนพ่ออยากให้เรามาช่วยธุรกิจของครอบครัวมากกว่า คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ทำให้ธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จไปเลยดีกว่าไปทำงานให้คนอื่น”

สมัยเรียนจบใหม่ๆ เธอเล่าว่า คุณพ่อส่งไปลองไปทำงาน โกเอนเตอร์เทนเมนต์ ทำพีอาร์ เขียนข่าว ทำอยู่ประมาณครึ่งปี และไม่นานนัก จึงได้มาทำกับบริษัทของครอบครัว คือ ที่สหมงคลฟิล์ม ทำเรื่องพีอาร์ และโปรโมชั่น ซึ่งเหมือนก่อนสหมงคลฟิล์มยังไม่มีการทำเรื่องการตลาดแบบเป็นจริงเป็นจัง

นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เกือบสิบปีแล้ว อวิกาไม่เคยห่างหายไปจากห้องทำงานที่สหมงคลฟิล์มเลย เธอรับผิดชอบงานด้านการตลาด เน้นทำพีอาร์ประชาสัมพันธ์ การจัดโปรโมชั่น การมุ่งเน้นนโยบายของสหมงคลฟิล์ม ซึ่งพบว่า กิจกรรมการสร้างช่องทางใหม่ๆ สู่กลุ่มนักดูหนัง เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งในการผลิตภาพยนตร์ในยุคนี้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ชัดเจนขึ้น

ทุกๆ จันทร์-ศุกร์ ถ้าไม่ติดไปงานนอกสถานที่ อวิกาจะออกจากบ้านไปถึงที่ทำงานประมาณ 9 โมงเช้า ทำงานถึงประมาณสองทุ่ม หรือถ้ามีโปรเจกต์ใหญ่เข้ามา เธอบอกว่า เป็นช่วงที่แทบไม่ได้นอน อย่างเช่น หนังเรื่อง “ต้มยำกุ้ง” ที่ผ่านมา ยิ่งใกล้วันฉาย ซึ่งภาษาการทำงานของทำหนังเรียกกันว่า 4 วันอันตราย หมายถึงก่อนวันฉาย 4 วัน จะยิ่งวุ่นวาย แทบจะลืมการพักผ่อน

งานด้านการตลาดของอวิกาในวันนี้ จึงไม่ใช่โจทย์ที่ยาก แต่สำหรับเธอนั้นเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากกว่า และต้องใช้ประสบการณ์ที่เคยลองผิดลองถูก คอยแก้ปัญหา หากพบอุปสรรค ซึ่งเธอเรียนรู้ว่า การแก้ปัญหาที่ดีนั้น บางครั้งต้องยอมหยุดและถอยออกมาก้าวหนึ่ง มานั่งวิเคราะห์ว่า แกนของปัญหาคืออะไร

“พ่อไม่ได้สอนเราโดยตรง แต่เราทำพลาดเขาด่าเลย และบอกว่าควรทำอย่างไรมากกว่า นั่นแหละเป็นการสอนสไตล์ของพ่อ”

การทำงานด้านการตลาด อวิกาอธิบายว่า ที่นี่จะทำงานเป็นทีม ดังนั้นทีมเวิร์คถือเป็นสิ่งสำคัญ ต้องจูนทิศทางให้ตรงกัน ต้องชัดเจนในวิธีการ ห้ามคลุมเครือเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเกิดความไม่เข้าใจกัน

หลักการทำงานของเธอ จะมีการประชุมกันตลอด มีการพูดคุยกับผู้กำกับหนังบ้าง เดินทางไปต่างประเทศบ้าง เมื่อโปรเจกต์หนังใหม่ๆเข้ามา หรือ อย่างทุกเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเดือนที่ต้องพานักข่าวหรือสื่อบันเทิงไปเยี่ยมชมกองถ่าย เพื่อโปรโมตหนังใหม่ และในเดือนมกราคมที่จะถึง เป็นช่วงที่ต้องบินไปต่างประเทศ เพื่อไปดูงาน ศึกษางานขายหนังที่ บางกอกเนชั่นแนล ฟิล์ม

ในส่วนของหนังไทย และหนังต่างประเทศ เธอเล่าถึงวิธีการทำงานว่า มีความแตกต่างกัน การทำกิจกรรมทางการตลาดของหนังไทยสามารถทำได้ตั้งแต่หนังยังไม่สร้าง หรือยังสร้างไม่เสร็จ แต่หนังเทศ เป็นหนังที่มาแบบสำเร็จรูปแล้ว ดังนั้น หนังเทศ จุดสำคัญคือการดึงจุดสนใจออกมา เป็นจุดขาย ซึ่งหนังเทศจะใช้เวลาประมาณ 6-9 เดือน ในการโปรโมต ขึ้นอยู่กับสเกลของแต่ละเรื่อง

สำหรับงานของเธอ อวิกาเชื่อว่างานสังสรรค์ความบันเทิง เรื่องของการแสวงหา “บิ๊กไอเดีย” ต้องมาก่อน และการสร้างแบรนด์ของสินค้าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ส่วนสิ่งที่เธอจะต้องพยายามแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา คือ การต้องค้นข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

ทุกวันนี้ อวิกามีแต่งาน ต้องคิด ต้องดูแลงานใหม่ๆ หนังใหม่ที่หลั่งไหลตลอดเดือนละประมาณ 6-7 เรื่อง เธอบอกว่าอยากทำงานด้านนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถึงอายุ 50 ปี จะเกษียณตัวเอง เพื่อไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามวิถีทางของเธอ เธอฝันว่า ในอนาคตอยากเป็นเจ้าของรีสอร์ตเล็กๆ ไว้เป็นที่แต่งเติมฝันของเธอ

Did you know?

วันสบายๆ สไตล์สาวนักการตลาด

วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ของอวิกา ส่วนใหญ่จะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ในซอยอารีย์ ซึ่งเป็นบ้านทรงตึกขนาด 7 ชั้น บนเนื้อที่เกือบ 1 ไร่ นอกจากห้องนอนที่เธอใช้เวลาส่วนตัวในห้องนี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่บนชั้น 5 ยังมีห้องนั่งเล่นบริเวณชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งมีสวนหย่อมลอยฟ้าสไตล์ญี่ปุ่น มีบ่อปลาคาร์พเล็กๆ เธอบอกว่า ชอบแวะเวียนมานั่งเล่น นั่งฟังเพลง เป็นประจำในวันหยุด เพราะมุมนี้ถือเป็นที่พบปะสังสรรค์ของคนในบ้าน

เธอเล่าว่า หากวันไหนอยากออกไปข้างนอก จะเลือกไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร และเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งเป็นสถานที่เที่ยวประจำ เพราะใกล้บ้านที่สุด เดินไปดูของประเภทของขวัญ ของชำช่วย หรือเสื้อยืดลายต่างๆ เพื่อสร้างไอเดียในการคิดรูปแบบการทำสินค้าโปรโมตหนัง

ทุกๆ วันเสาร์ตอนเย็น ที่บ้าน (ยกเว้นคุณพ่อ) จะต้องหาเวลาไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นกิจวัตรที่ทำมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ และยังดำเนินอยู่ การไปดูหนังสำหรับเธอนั้น ไม่ได้ไปดูเพื่อศึกษา แต่ไปเพื่อความบันเทิง พักผ่อน หากวันไหนไม่ได้ไปเหมือนชีวิตขาดอะไรไปบางอย่าง

อวิกา บอกว่า ส่วนตัวแล้วชอบดูหนังที่มีเนื้อหาสบายๆ ไม่คิดมาก สนุกๆ แบบรักโรแมนติกก็ได้ ไม่ค่อยชอบหนังอาร์ต หรือหนังนอกกระแส ซับซ้อน ต้องตีความ

บุคลิกของอวิกาที่ดูเป็นคนเรียบง่าย อ่อนน้อม ออกจะขี้อายนิดๆ ทำให้งานสังคมเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบไปเลย หากไม่จำเป็นจริงๆ เพราะเธอไม่ชอบความวุ่นวาย แม้เธอบอกว่างานสังคมบางครั้งสามารถช่วยสร้างงานด้านการตลาดได้ดีก็ตาม แต่นิสัยลึกๆ แล้วเธอบอกว่าไม่ชอบ

อวิกาเป็นคนชอบท่องเที่ยวธรรมชาติคนหนึ่ง เธอนิยมชมชอบกับการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด ผู้คนไม่พลุกพล่าน ส่วนต่างประเทศเธอชอบไปเที่ยวสถานที่ซึ่งมีเรื่องราว กลิ่นอายของวัฒนธรรม เช่น เนปาล ทิเบต

สิ่งหนึ่งที่เธอขาดไม่ได้ คือ กาแฟ ทุกวันเธอต้องดื่มกาแฟ 1 แก้ว จะดื่มมากกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะดื่มแล้วรู้สึกใจสั่น เธอเป็นคนชอบกาแฟ ทำให้เธอมีธุรกิจเล็กๆ ส่วนตัว เปิดร้านกาแฟ ภายในโรงภาพยนตร์ House ที่อาร์ซีเอ

Profile

Name : อวิกา เตชะรัตนประเสริฐ
Age : อายุ 30 ปี
Education:
– ปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– มัธยมปลาย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
– มัธยมต้น โรงเรียนหอวัง
– ประถมศึกษา โรงเรียนเรวดี
Career Highlights:
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส ดูแลด้านกลยุทธ์และการสื่อสารการตลาดของภาพยนตร์ในเครือสหมงคลฟิล์ม
Family :
อวิกา หรือ เอ๋ เป็นลูกสาวคนโต ของตระกูลเตชะรัตนประเสริฐ มีน้องสาวอีกสองคน คือ จาตุศม (โอ๋), ชมศจี (อุ๋ย) น้องชาย อัครพล (หนึ่ง) และน้องนุชคนสุดท้อง เด็กหญิงนวรัตน์ หรือ น้องเกรซ