นอกจากเสื้อยืดสีเหลืองที่ฮิตติดกระแส วีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์ ตั้งแต่ชุด 1-10 ยังไม่นับรวม ซีดีคอนเทนต์อื่นๆ ภายใต้แนวคิดของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ทุกชุด คาดการณ์ว่าเผยแพร่ไปแล้วเกือบล้านแผ่นทั่วประเทศ
ล่าสุดวีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร มีการจัดทำทั้งหมดแล้วถึง 10 ชุด มีการเผยแพร่ไปแล้วกว่าแสนแผ่น ยังไม่นับรวมการก๊อบปี้ของร้านค้าซึ่งนำไปจำหน่ายย่านคลองถม คาดถึงวันนี้ว่าน่าจะมีกว่า 5 แสนแผ่นที่ทั้งปั๊ม ทั้งก๊อปปี้ ตามความต้องการของแฟนรายการ
วิทยา ร่ำรวย บรรณาธิการสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ผู้ดูแลการเเผยแพร่วีซีดี และซีดี ให้ข้อมูลว่า กระแสครั้งนี้ ไม่ใช่ธุรกิจที่เคยตั้งใจไว้ แต่ปรากฏการณ์ของวีซีดีเมืองไทยรายสัปดาห์ทุกแผ่น ทุกชุด รวมทั้ง ซีดีชุดอื่นๆ ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ซึ่งเคยพ่วงจำหน่ายไปพ็อกเกตบุ๊กในเครือผู้จัดการ ได้สร้างกระแสใหม่ขายเกลี้ยงแผงแบบวันต่อวันมาแล้ว ผลที่เกิดขึ้นทำให้ตัวแทนร้านจัดจำหน่าย ร้านหนังสือ ทั้งซีเอ็ด หรืออย่างบีทูเอส ของเซ็นทรัล ต้องรีบวางแผนทางการตลาดรับมือกระแสความนิยมดังกล่าว
“สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในวงการร้านหนังสือ คือ ทำให้ร้านเหล่านี้ ต้องสร้างทีมดูแลการจัดหน่ายประเภทวีซีดีและซีดีทางการเมือง หรือนอกเหนือจากซีดีเพลงทั่วๆ ไป”
ผลที่เกิดขึ้นในกระแสความนิยมช่วงนี้ วีซีดีของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ทุกชุดทั้งเมืองไทยรายสัปดาห์ รวมทั้ง ซีดีชุด “แพ้แล้วอย่างไร ชนะแล้วอย่างไร” และคอร์รัปชั่นในยุดโลกาภิวัฒน์ ปั๊มแผ่นขายแต่ละชุดไปแล้วกว่า 3 ครั้ง หรือ 15,000 แผ่น ทำลายสถิติขายดีสร้างรายได้แซงหน้าซีดีเพลงทุกชุด
“ปกติแต่ละร้านเขาให้ความสำคัญกับซีดีเพลง และไม่เคยมีซีดีประเภทอื่นที่ขายดี แต่ซีดีของเมืองไทยรายสัปดาห์ และซีดีทุกชุดของคุณสนธิ สามารถทำยอดขายที่ทำให้ร้านจำหน่ายทั้งซีเอ็ด และบีทูเอส ต้องจัดทีมมาดูแลด้านนี้”
โปรเจกต์ที่ทำต่อไปที่กำลังคลอดออกมาใหม่ ซีดีชุด “เล่าเรื่องเลี้ยงลูก” ของ “สนธิ ลิ้มทองกุล” กำหนดเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ เป็นการเล่าประสบการณ์ของการเลี้ยงลูกแบบภูมิปัญญาตะวันออก ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ขายดิบขายดีอีกชิ้นหนึ่ง
…ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นตามกระแส แทบไม่ต้องมีมาร์เก็ตติ้ง และเมื่อกระแสที่รัฐบาลพยายามปิดกั้นสื่อ กระแสของดีมานด์หรือความต้องการยิ่งมาก คล้ายๆ กับยิ่งปิดยิ่งดัง อะไรประมาณนั้น