ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอล ศึกน้ำดำแมตช์นี้ระหว่างโค้ก VS เป๊ปซี่ ไม่ต่างจากศึกแดงเดือด ระหว่าง หงส์แดง ลิเวอร์พูล กับ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน
โค้ก เปรียบเหมือนเจ้าบ้าน ที่กุมความได้เปรียบ ในเรื่องของการเป็นสปอร์เซอร์หลักของศึกฟุตบอลโลก 2006 ครั้งนี้ ขณะที่เป๊ปซี่เอง เปรียบเหมือนทีมคู่ต่อสู้ ที่วางแท็กติกมาสู้อย่างไม่เกรงศักดิ์ศรี
วัดกันด้วยแคมเปญ งานนี้ดูเหมือนสิ้นเสียงนกหวีดเริ่มต้นเกมยังไม่ทันหมดครึ่งแรก เป๊ปซี่ยิงประตูนำโค้กไปก่อนอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะแคมเปญใหม่ของเป๊ปซี่ที่ชื่อว่า “เป๊ปซี่ ฟุตบอล 2006” กับ 4 ปฏิบัติการล่าสุด กับแคมเปญ โค้ก เชียร์สุดชีวิต ดูจะเหนือกว่านิดๆ ในการทำตลาด
เหนือกว่าตรงไหน…คำตอบคือ 11 นักเตะซูเปอร์สตาร์ของเป๊ปซี่ อาทิ เดวิด แบคแฮม, โรนัลดินโญ่, เธียรี่ อองรี ยิ่งมองเหมือนว่าจะเป็นสื่อที่เข้าถึงผู้บริโภคอย่างถูก เพราะส่วนหนึ่งกระแสแฟนบอลชาวไทยมักจะยึดความนิยมของคนดังเหล่านี้มากกว่านิยมชมชอบกับถ้วยฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์คัพ โทรฟี่ ซึ่งโค้กหยิบมาเป็นไฮไลต์ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนฟุตบอลโลก
ไม่แปลกที่จะมีหลายๆ คนแซวว่า เป๊ปซี่เน้นสิ่งมีชีวิตจากพลังนักเตะ ขณะที่โค้กเน้นการตลาดแบบไม่มีชีวิตชีวา อย่างถ้วยฟุตบอลโลก
มากไปกว่านั้น ภาพยนตร์โฆษณาของเป๊ปซี่ในสไตล์บาวาเรียน… ดา ดา ดา เป็นเสียงเพลงที่ฟังสะดุดสนุกสนาน เข้ากับวัฒนธรรมคนไทยที่ชอบความสนุก และยังมีการลุ้นชิงโชคเหรียญทอง 7 คอลเลกชั่น 7 นักเตะดัง ขณะที่โค้กมุ่งแต่การส่งฝา หรือส่งชิ้นส่วนชิงโชคตั๋วชมฟุตบอลโลก นัดชิงชนะเลิศ แน่นอนมองผิวเผินอาจเป็นแคมเปญที่สุดระทึกกับการลุ้นตั๋วชมแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรใหม่ บางคนบอกว่าดูทีวีอยู่บ้านมันส์กว่า
ยิ่งชมภาพยนตร์โฆษณาชุด “โค้ก…ยกให้” ยิ่งอ่อนด้อยกว่าภาพยนตร์โฆษณาดา ดา ดา ของเป๊ปซี่ แบบสู้กันไม่ได้
นี่อาจเป็นแค่ครึ่งแรกของการต่อสู้ในสนามแข่งขัน ต้องจับตามองกันต่อไปว่าโค้กจะแก้เกม เป๊ปซี่เช่นใด เพื่อจะซัลโวประตูคืนมาโดยเร็วที่สุด