ติดอาวุธลุยยุคนิวมีเดีย

Adobe บริษัทซอฟต์แวร์กราฟิกภาพนิ่งสำหรับสิ่งพิมพ์และเว็บรายใหญ่เจ้าของซอฟต์แวร์ Photoshop และ Illustrator ได้เข้าซื้อกิจการ Macromedia รายใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ผลิตสื่อภาพเคลื่อนไหวโดยเฉพาะที่ร้อนแรงสุดๆ บนเว็บคือซอฟต์แวร์ Flash

“Creating Engaging Experience หรือการสร้างประสบการณ์ที่ตราตรึงดึงดูดใจ ให้กับผู้ใช้ผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ต่างๆ จอตามศูนย์การค้าหรือสนามบิน ไปจนถึงสื่อ New Media อื่นๆ เป็นภารกิจหลักในภาพรวมของ Adobe ทั่วโลกจากนี้ไป” Raymon Lee ชาวสิงคโปร์ผู้อำนวยการอโดบี ซิสเต็มส์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้อธิบาย ถึง Positioning ของผลิตภัณฑ์และแบรนด์หลังการควบรวม

ปี 2547 ยอดขายซอฟต์แวร์ของ Adobe อย่างถูกกฎหมายในไทยปี 2547 มีอัตราเติบโต 50% , ปี 2548 โต 30% , ส่วนปี 2549 นี้ตั้งเป้าอัตราเติบโตเป็น 50% ล่าสุดได้ True เป็นลูกค้ารายใหญ่พัฒนาระบบมาบริการลูกค้าอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทรูเองซึ่งยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้

นโยบายการตลาดของ Adobe ทั่วโลก มอง Segmentation ในตลาดซอฟต์แวร์เป็น 2 มิติ คือแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ และภาคธุรกิจ

กลุ่มลูกค้าหลักของ Adobe ตลอดมาคือ นักออกแบบและครีเอทีฟ และผู้ใช้ระดับสูง เช่น คนเล่นกล้อง/ตัดต่อทำวิดีโอส่วนตัว ด้วยผลิตภัณฑ์ Photoshop, Illustrator , และ Adobe Premier และ Flash จะมาบุกกลุ่มนักพัฒนาเว็บและซอฟต์แวร์เพราะเว็บและแอพพลิเคชั่นบนเว็บปัจจุบันและอนาคตนั้นยากจะขาด Flash มาช่วยทำภาพเคลื่อนไหว ปุ่มเปลี่ยนสีเปลี่ยนแบบได้ และส่วนต่างๆ บนหน้าจอแบบโต้ตอบ

นโยบายราคาของ Adobe จะคิดราคาถูกเป็นพิเศษให้กับภาคการศึกษา บนหลักการที่ว่าไม่ได้ซื้อไปทำรายได้โดยตรง (ซึ่งต่างจากภาคธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะภาคธุรกิจสื่อเช่นสิ่งพิมพ์หรือบริษัทรับทำเว็บ)

“ส่วนลดเพื่อการศึกษา” นี้จะขยายฐานผู้ใช้เพราะหากนักเรียนนักศึกษาชำนาญคุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ตัวไหนแล้ว เมื่อจบไปทำงานก็มีแนวโน้มจะเลือกใช้ซอฟต์แวร์นั้นๆ ต่อไป

Adobe บริษัทแม่ยังไม่ยอมเผยชื่อและรายละเอียดซอฟต์แวร์รายใหม่หลังการควบรวม และพร้อมจะรับผลกระทบที่ผู้บริโภคส่วนหนึ่งจะชะลอการซื้อหรืออัพเกรดซอฟต์แวร์ของอโดบีเพราะจะรอดูซอฟต์แวร์ใหม่ก่อน

เมื่อถูกถามถึงวิธีรับมือกับซอฟต์แวร์เถื่อนที่ทำขายระบาดกันในไทยมานาน Raymon อธิบายว่าซอฟต์แวร์แท้นั้นไม่ได้เป็นแค่ซีดีแผ่นๆ แต่เป็นสิทธิที่จะได้รับการฝึกอบรมผู้ใช้ ได้รับการแจ้งข่าวและอัพเกรดสม่ำเสมอ และมั่นใจได้ว่าได้ลงซอฟต์แวร์อย่างถูกต้องครบถ้วนไปติดตั้งอย่างถูกวิธี ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่อโดบีพยายามสร้างให้ลูกค้าไม่มองข้ามเรื่องเหล่านี้

แต่อย่างไรก็ตามเพราะปัญหานี้ Adobe จึงยังไม่มีงบโฆษณากับลูกค้าปลีกรายย่อยในไทย มีเพียงการติดต่อทำตลาดระดับองค์กรเท่านั้น

Did You Know ?

Adobe ใช้สำนักงานภูมิภาค (Regional Office) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งตั้งอยู่ที่สิงคโปร์มาดูแลตลาดในไทย และแต่งตั้งบริษัท Ingram Micro เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Adobe ในไทย ให้กับผู้ค้าปลีกหรือติดตั้งระบบ 2,000 รายทั่วประเทศ