ธุรกิจการบินภายในออสเตรเลียพลิกโฉมหน้าไปมาก ตั้งแต่สายการบินน้องใหม่ตบเท้าเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ และยิ่งคึกคักตลอดทั้งปี ตลาดตกเป็นของผู้ซื้อที่สามารถเลือกใช้บริการสายการบินที่ต่างงัดกลยุทธ์ห้ำหั่นราคา มาล่อใจผู้บริโภค โดยเฉพาะสายการบินเชื้อสายอังกฤษอย่างเวอร์จิ้น บลู ของ ริชาร์ด แบรนสัน ที่้้ตั้งแต่เข้ามาปลุกตลาดตั๋วเครื่องบินราคาถูกในออสเตรเลียได้ไม่นาน วันนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเจ้าตลาดที่ครอบครองส่วนแบ่งได้มากกว่าครึ่งในอุตสาหกรรมบริการการบิน Domesticของออสเตรเลีย เรียกได้ว่ามาถึงก็แย่งส่วนแบ่งจาก Qantas ที่ยังคงขายตั๋วแพงกว่า แ้ถมในบางเส้นทางยังมีการบริการที่จำกัดทั้งในแง่ของเวลาและเที่ยวบินที่เปิดบริการ
เวอร์จิ้น บลู เน้นจุดขายที่การเพิ่มเที่ยวบิน สามารถสนองความต้องการของตลาดได้ทุกกลุ่ม และบริการที่เป็นกันเอง สไตล์ customer friendly เวอร์จิ้น บลูจะมี gimmick ในบริการเล็กๆ น้อยๆที่สร้างความผ่อนคลายให้กับลูกค้า อย่างเช่น การติดป้าย Virgin Loo หรือห้องน้ำสำหรับเวอร์จิ้น (แปลได้อีกแง่หนึ่งห้องน้ำสำหรับผู้ที่ยังมีพรหมจรรย์อยู่) นอกจากนี้ยังมีสินค้าเสริมการขายในกลุ่ม merchandise เช่น หมวก ผ้าเช็ดตัว พวงกุญแจ และของที่ระลึกชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำหน่ายบนเครื่องอีกด้วย
สายการบินน้องใหม่อย่าง Jet Star ก็เข้ามาเขย่าตลาดการบินด้วยกลยุทธ์หั่นราคาไม่แพ้เวอร์จิ้น บลู ภายใต้สโลแกนของบริการ “Let’s fly Jetstar” ซึ่งทุ่มทุนโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์เดือนละนับสิบล้านเหรียญ เพื่อสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดให้ได้เร็วที่สุด
นับแต่ Ansette ปิดตัวลง Qantas สายการบินแห่งชาติเพียงรายเดียว ยึดครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด เพราะตั้งแต่ Ansett ปิดตัวลงในปี 2002 แควนตัสก็ไร้คู่แข่งอยู่สักพัก แต่ภายหลังการเข้ามาของ Virgin Blue Jetstar และ Ansette ซึ่งกลับหวนคืนสังเวียนการแข่งขันอีกครั้งภายใต้ชื่อใหม่ Rex Express ที่เ้ข้ามาอุดช่องโหว่ในตลาดการบินระยะทางสั้นๆ ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
ถึง Qantas จะยังลังเลสงวนทีท่าไม่ยอมลงมาเล่นสงครามราคากับคู่แข่งบ้าง แต่คงนิ่งอีกไม่ได้นาน เมื่อส่วนแบ่งตลาดที่ค่อยๆ หายไป เป็นของผู้บริการรายเล็กหน้าใหม่ แต่ใจโตอย่างเวอร์จิ้น บลู เป็นต้น