Global Brand Bank

ยุทโธปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการสู้รบในระบบเศรษฐกิจทุนนิยมโลก ต้องให้ความสำคัญกับระบบหมุนเวียนของเงินทุน อย่างเช่นกลยุทธ์ของสิงคโปร์ที่ไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถาบันการเงินจนมีความสำคัญอยู่ในประเทศของตัวเอง แบบไม่เพียงแต่แบรนด์ของยูโอบี และดีบีเอส เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังป็นระบบ Global brand จนสามารถยึดธนาคารหลายแห่งในโลก รวมทั้งประเทศไทย

ไม่เพียงสถาบันการเงินที่เป็นธนาคารเท่านั้น ยังมีกลุ่มธุรกิจเงินทุน และหลักทรัพย์ที่สัญชาติสิงคโปร์อยู่ในเกือบทุกบริษัทหลักทรัพย์ในไทยเช่นกัน

“มนตรี ฐิรโฆไท” ประธานเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IRCP) บอกว่าเงินทุนเหมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ ธุรกิจบริหารเงินทุน การเคลื่อนย้ายเงินทุนจึงมีความสำคัญ สำหรับสิงคโปร์แล้ว ไม่ใช่เพิ่งเข้ามาประเทศไทยในช่วงนี้ แต่เข้ามานานแล้ว อย่างกองทุน GIC ที่เข้ามาถือในแบงก์ ธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์ และเข้ามามากขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจ

“กรณ์ จาติกวณิช” รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจหลักทรัพย์ บอกว่าอุตสาหกรรมที่สำคัญของสิงคโปร์ คือ อุตสาหกรรมบริการ ซึ่งธุรกิจการเงินของเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมนี้ ที่สิงคโปร์มีความแข็งแกร่งทั้งธุรกิจแบงก์และไฟแนนซ์ แต่เมื่อภายในประเทศของสิงคโปร์เองมีขนาดเล็ก จีดีพีมีขนาดไม่ใหญ่ ก็ต้องขยายการลงทุนไปนอกประเทศ ซึ่งแบงก์สิงคโปร์ ทั้งยูโอบี และดีบีเอส ก็ไปลงทุนประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย และไม่เพียงเฉพาะสิงคโปร์ แต่มีจากประเทศอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะช่วงหลังวิกฤตเศรษฐกิจมามากขึ้น

ผลพวงของช่วงวิกฤตเศรษฐกิจจึงมีให้เห็นอยู่ในหลายแบงก์ และหลายบริษัทหลักทรัพย์ในปัจจุบัน ที่มีต่างชาติถือหุ้น รวมถึงสิงคโปร์ แม้กระทั่งแบงก์ใหญ่ อย่างธนาคารทหารไทย

ดร.สุภัค ศิวรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทย แบงก์ลูกผสม ที่มีธนาคารดีบีเอสสิงคโปร์ ถือหุ้นอยู่ด้วยประมาณ 16% มีประสบการณ์ที่ใกล้ชิดกับพาร์ตเนอร์สิงคโปร์ มีความเห็นและบทเรียนจากผู้ถือหุ้นสิงคโปร์ ว่าดีบีเอสเคยเป็นหุ้นใหญ่ประมาณ 80% ในแบงก์เล็ก คือดีบีเอสไทยทนุ หลังควบกิจการกับธนาคารทหารไทย ก็มีสัดส่วนหุ้นลดลง กลายเป็นหุ้นเล็กในแบงก์ใหญ่ จึงไม่มีบทบาทในการบริหารของธนาคารมากนัก

สำหรับเหตุผลที่ธุรกิจของสิงคโปร์มีการลงทุนนอกประเทศมาก ดร.สุภัคบอกว่าเพราะขนาดของเศรษฐกิจของสิงคโปร์มีขีดจำกัด ประเทศค่อนข้างเล็ก จะขยายผลตอบแทนได้ไม่มาก มันจำกัด ซึ่งการลงทุนของสิงคโปร์ไม่แตกต่างกันไม่ว่าจะลงทุนในไทย หรือสิงคโปร์ไปลงทุนในอเมริกา เพราะได้ผลตอบแทนเหมือนกัน ส่วนกลยุทธ์ที่สำคัญของสิงคโปร์คือมีเงินทุนมาก เพราะส่วนหนึ่งมาจากรายได้ประชากรต่อหัวสูงกว่าไทย ก็มีเงินออมจำนวนค่อนข้างสูง

“สภาพที่สิงคโปร์เข้ามาลงทุน เป็นอย่างนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สู่ระบบเสรี ที่ไทยมีทั้งอเมริกา ยุโรป นานแล้ว ผมว่าหลายประเทศเวลามีการพัฒนา อัตราการใช้เงินลงทุนน้อยกว่าเงินออมอยู่แล้ว เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ไปดูได้เลย อย่างสหรัฐฯ อดีตก็ต้องอาศัยเงินทุนต่างประเทศพัฒนาตัวเอง ทุกๆ ในระบบทฤษฎีเศรษฐกิจมันจะเป็นอย่างนี้”

จุดดีที่ดร.สุภัคพูดถึงคือ มองโดยทฤษฎีมีเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนก็เป็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจสร้างผลประกอบการที่น่าจูงใจ บ้านเราเองเงินออมที่จะมีขนาดนั้นคงไม่มี การลงทุนนอกเหนือจากเงิน ก็มีเทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่ดี

“กลยุทธ์ของสิงคโปร์ที่ต้องลงทุนไปทั่วโลก อย่างแบงก์ดีบีเอส หรือยูโอบี เพราะตลาดในสิงคโปร์เริ่มมีข้อจำกัด ประชากรมีเพียง 3 ล้านคน เปิดกี่สาขาเขาก็เจอ 3 ล้านคน ฉะนั้นถ้าเขาขยายตัวเขาก็ถูก Pressure ด้านผลตอบตอบแทนผู้ถือหุ้น เขาก็ต้องขยายธุรกิจ ตัวสิงคโปร์เหมือนภูมิภาคเศรษฐกิจ เขาก็ต้องตามไปบริการลูกค้า จึงไม่แปลกใจ ดีบีเอส ยูโอบี และโอซีบีซีขยายไปทั่ว”

เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วแบงก์จากสิงคโปร์เข้าไปคุมการบริหารเพียงใด ดร.สุภัคบอกว่า อย่างดีบีเอสส่วนมากถือในธนาคารไหนไม่เกิน 25% อย่างที่อินโดนีเซีย หรือฮ่องกงก็เข้าไปซื้อ

“ผมมองว่าถ้าเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นหลักการรับผิดชอบสูงขึ้น เขาไม่สันทัดในประเทศเหล่านี้มันต่างถิ่นสำหรับเขา เขาก็อยากเป็นพันธมิตรมากกว่า คอยช่วยไอที โนว์ฮาว ตอนเขา (ดีบีเอส) บริหารไทยทนุ ไทยทนุก็ไม่ได้ใหญ่ขึ้น 5-6 ปี เขาก็ยอมรับส่วนนี้ เรื่องการเข้าใจลูกค้าเรื่องการให้บริการเราทำได้ดี แต่ในเรื่องวางระบบไอที วางระบบเขาช่วยเราได้ ธนาคารไทยทุกแห่งต้องปรับตัว การทำงานเป็นทีม เป็นระบบ อย่างธนาคารทหารไทย ยอมรับว่าเรายังไม่เต็มที่ เป็นจุดอ่อนที่เราต้องแก้ไข ธนาคารต่างๆ เขาก้าวหน้าไม่น้อย อย่างกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ในอดีตเขาก็เจออย่างนั้น

อย่างผมค่อนข้างดีใจดีบีเอสเข้าร่วมเข้ามา 16% เขาไม่ได้ครอบงำ เขาเป็นพาร์ตเนอร์ที่แฟร์มาก ส่งผู้บริหารมาเป็นที่ปรึกษาเขาไม่เบิกอะไรเลย จริงๆ ผมต้องให้ค่าเครื่องบินเขาด้วย เขาดีมาก”